สวัสดีครับทุกท่าน (อาจจะยาวสักนิดหนึ่งนะครับ เบ่าสู่กันฟังครับ)
ก่อนอื่นผมขออนุญาตแจ้งไว้ก่อน ณ ที่นี้นะครับ ผมไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง หรือได้รับผลประโยชน์ใดๆจากการแชร์ในครั้งนี้ครับ ผมแค่อยากแชร์แหล่งธรรมะ เพื่อเป็นธรรมทาน
เผื่อใครผ่านมาพบเจอ แล้วกำลังหาฟังธรรมะดีๆอยู่ครับ ทั้งนี้อาจขึ้นอยู่กับจริตนิสัยส่วนบุคคล ว่าเหมาะสมกับท่านหรือไม่ก็ได้ครับ
ผมเป็นวัยรุ่นธรรมดาๆคนหนึ่ง ปัจจุบันอายุ 27ปีครับ ชอบทำบุญตั้งแต่เด็กๆ เคารพในพระพุทธศาสนามาโดยตลอด แต่ก็ไม่เคยบวชเรียนสักครั้งในชีวิต (ด้วยเหตุปัจจัยที่ยังไม่พร้อม) ผมเองไม่เคยเข้าใจแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาเลยมาก่อน ทำบุญ ก็ทำแค่หวังบุญ หวังว่าชีวิตจะดีขึ้น ทำตามประเพณีที่สืบทอดกันมาตามผู้ใหญ่ โดยไม่ได้เข้าใจ ไหว้พระ ขอพรพระ บนบานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แต่ก็ไม่เคยสมหวังสมใจปรารถนาเลยสักครั้ง แต่ก็ยังมีหัวใจให้พระศาสนาเรื่อยมา จนหลังเรียนจบมหาวิทยาลัย ได้แอบไปนับถือและบนบานเทพเจ้า สายมู อยู่ช่วงระยะเวลาเกือบๆปี (ผมไม่ได้ลบหลู่ท่านนะครับ) ตามเพื่อนที่บอกว่าขอพรจะได้รับอย่างที่ขอ แต่ต้องถือศีล เป็นคนดีด้วย บูชาและปฏิบัติตามองค์เทพแต่ละองค์ ผมเลยบูชาท่านด้วยความโลภ อยากได้อยากมี แต่สุดท้าย ผมก็ไม่ได้รับอะไรในสิ่งที่ผมขอเช่นเคย
ด้วยช่วงเวลานี้ ผมเลยห่างจากพระพุทธศาสนา และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกอย่าง เป็นระยะเวลา 2ปีกว่าๆ กลายเป็นวัยรุ่นที่เชื่อแต่ตัวเอง เชื่อในความสามารถ ศักยภาพของตัวเองเท่านั้น และผมก็เจอความทุกข์นานานับประการ ล้มร้องไห้ แล้วลุกขึ้นสู้ใหม่ นับครั้งไม่ถ้วน เพื่อไขว่คว้าหาความสำเร็จในชีวิต เท่าที่เด็กคนหนึ่งจะทำได้ในที่ทำงานเอกชน
จนกระทั่งจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิตของผมก็เกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้ว ผมบังเอิญ (หรืออาจจะไม่บังเอิญ แต่เป็นเหตุปัจจัยจัดสรร) ผมได้ฟังธรรมะจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปราโมชโช (ซึ่งผมนับถือเป็นอาจารย์คนแรกในชีวิตของผมครับ)
ต่อมา ก็ได้ฟังธรรมจาก พระมหาวรพรต กิตติวโร จากมูลนิธิธรรมอารี (สวนธรรมอารี) ท่านก็สอนดีมากๆเช่นกัน แต่เมื่อปีที่แล้ว ท่านได้ลาสิกขาไปแล้ว เนื่องจากอาการป่วยที่จำเป็นต้องรักษาตัว แต่ก็ยังสามารถรับชมคลิปย้อนหลังของท่านได้อยู่
แล้วท่านก็มอบให้ พระวรินทร นิททโร ดูแลและเผยแพร่ธรรมะแทนท่าน
ในช่วงแรก ผมก็ฟังธรรมะไปเรื่อยๆและพิจารณาตาม ไม่ได้ยึดติดกับครูบาอาจารย์ เพราะฟังธรรมะจากพระหลายท่าน แต่ให้ยึดธรรมตามหลักที่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ และนำธรรมะไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน ด้วยการมีสติรู้กาย รู้ใจ เพียรลดละกิเลสไป เท่าที่จะทำได้ แต่ผมไม่ค่อยได้ทำในรูปแบบของสมถกรรมฐานมากนัก เพราะการเหนื่อยล้าจากชีวิตที่วุ่นวายกับงานและคน ต้องคิดตลอดเวลา แต่ก็ต้องพยายามดึงสติมาอยู่ที่กายใจและให้มากที่สุด
หลังจากที่นับถือครูบาอาจารย์มาหลายท่าน ผมก็ได้เรียนรู้ว่า จะมีอาจารย์เพียงไม่กี่ท่าน ที่สามารถถ่ายทอดธรรมะ สื่อสารธรรม แล้วตรงกับจริตนิสัยของตัวเอง (ซึ่งพระหลายรูปนั้นก็เป็นผู้ทรงศีล และปฏิบัติดีนะครับ เพียงแต่ว่าจะมีบางท่านเท่านั้น ที่ฟังแล้วรู้สึกว่า ท่านถ่ายทอดมาตรงจิตของเรา แบบเข้าใจและเรียนรู้ ที่ไม่ใช่ท่องจำหรือจำได้) ดังนั้น ผมจึงเคารพในครูบาอาจารย์ทุกท่านครับ
แต่วันนี้ผมขอกล่าวถึงท่าน พระวรินทร นิททโร ที่ผมได้ฟังธรรมจากท่านแล้วเกิดการเข้าใจ ซึ่งเป็นการเรียนรู้จากจิต บางครั้งผมในชีวิตประจำวัน เสียงของท่านยังก้องอยู่ในหัวผม เวลามีอกุศลเกิดขึ้นในระหว่างวัน ผมได้ยินคำที่ท่านสอนและมีสติ เพื่อรู้ใจตัวเอง
สิ่งหนึ่งที่ผมรู้สึกเคารพและศรัทธา คือ ปัญญาการถ่ายทอดธรรมะของท่าน ที่ออกมาเป็นภาษาเข้าใจง่าย ซึ่งปัจจุบันท่านอายุเพียง 30ปี (ท่านน่าจะบวชเรียนตั้งแต่หลังเรียนจบมหาวิทยลัยประมาณ 23-24 ครับ) สิ่งนี้ทำให้วัยรุ่นอย่างผมเข้าใจธรรมะได้มากยิ่งขึ้น มีสัมมาทิฏฐิมากขึ้น มีกำลังใจที่จะเพียรละบาปอกุศล และเจริญกุศลมากยิ่งขึ้น
ผมได้ฟังธรรมะของท่าน ผ่าน youtube ทุกวัน ทุกเช้าก่อนไปทำงาน และผมก็ได้โชคดีที่ผมได้เดินทางไปฟังธรรมต่อหน้าท่าน ยิ่งทำให้มีแรงศรัทธาในการปฏิบัติได้มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
ในส่วนตัวผมรู้สึกว่า ผมจะรับธรรมะอย่างเต็มเปี่ยมจาก ครูบาอาจารย์ที่มีความเมตตากรุณาที่สูง มีความสุภาพอ่อนโยน ซึ่งนั่นตรงกับจริตนิสัยผม คำทุกพูดที่ท่านใช้ เป็นคำที่เคารพทุกอย่าง ทุกสรรพสัตว์ที่ท่านกล่าวถึง ผมยังไม่เคยได้ยินคำใด ที่ท่านกล่าวติเตียนสิ่งใดเลย มีแต่กล่าวถึงเหตุปัจจัยและผลที่จะตามมา และผมเองก็ไม่ค่อยเหมาะกับการทำสมถะสักเท่าไร (ซึ่งก็สำคัญในการทำให้มีสติตั้งมั่น รู้เห็นตามความเป็นจริง) แต่ผมจะไปที่การเรียนรู้อย่างใช้เหตุใช้ผลมากกว่า แต่ถ้าฟุ้งมากๆก็ต้องกลับมาทำสมถะครับ
สำหรับวัยรุ่นท่านใด วัยทำงาน หรือวัยกลางคนที่จะเสาะแสวงหาธรรมะดีๆ จากพระอาจารย์ที่อายุไม่มาก เน้นด้านการเรียนรู้ธรรมด้านปัญญาและวิปัสนาเป็นหลัก ผมแนะนำครับ ลองเปิดใจดูได้ ขึ้นอยู่ความชอบและพิจารณาส่วนบุคคล
ส่วนตัวผมชอบในสิ่งที่ท่านสอน ที่เอาธรรมะมาอยู่ในชีวิตประจำวันของเราได้ เป็นหลักใจของเราได้ ซึ่งเหมาะสมกับคนสมัยนี้ที่ต้องใช้ชีวิตวุ่นวายกับการสร้างเนื้อสร้างตัว แต่ก็ยังอยากจะเดินบนเส้นทางแห่งธรรม
สำหรับสุดท้ายนี้ ผมขอแปะ link ไว้ เผื่อลองเข้าไปรับชมรับฟังได้ครับ
https://youtube.com/@dhamma_aree?si=6uTalLicGGtqhEPJ
ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่สนใจใฝ่ธรรมด้วยครับ....
ขออนุญาตภาพจากเพจธรรมอารีครับ
![](https://f.ptcdn.info/052/087/000/m7274bp0iB9YWwwjlKP-o.jpg)
![](https://f.ptcdn.info/052/087/000/m7274bnwi9ii8nb1VVr-o.jpg)
![](https://f.ptcdn.info/052/087/000/m7274bobiSjxU5kl9e5-o.jpg)
แชร์แหล่งธรรมะดีๆ สำหรับวัยรุ่นที่อายุไม่ถึง 30 แต่สนใจใฝ่ธรรม #มูลนิธิธรรมอารี (สวนธรรมอารี)
ก่อนอื่นผมขออนุญาตแจ้งไว้ก่อน ณ ที่นี้นะครับ ผมไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง หรือได้รับผลประโยชน์ใดๆจากการแชร์ในครั้งนี้ครับ ผมแค่อยากแชร์แหล่งธรรมะ เพื่อเป็นธรรมทาน
เผื่อใครผ่านมาพบเจอ แล้วกำลังหาฟังธรรมะดีๆอยู่ครับ ทั้งนี้อาจขึ้นอยู่กับจริตนิสัยส่วนบุคคล ว่าเหมาะสมกับท่านหรือไม่ก็ได้ครับ
ผมเป็นวัยรุ่นธรรมดาๆคนหนึ่ง ปัจจุบันอายุ 27ปีครับ ชอบทำบุญตั้งแต่เด็กๆ เคารพในพระพุทธศาสนามาโดยตลอด แต่ก็ไม่เคยบวชเรียนสักครั้งในชีวิต (ด้วยเหตุปัจจัยที่ยังไม่พร้อม) ผมเองไม่เคยเข้าใจแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาเลยมาก่อน ทำบุญ ก็ทำแค่หวังบุญ หวังว่าชีวิตจะดีขึ้น ทำตามประเพณีที่สืบทอดกันมาตามผู้ใหญ่ โดยไม่ได้เข้าใจ ไหว้พระ ขอพรพระ บนบานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แต่ก็ไม่เคยสมหวังสมใจปรารถนาเลยสักครั้ง แต่ก็ยังมีหัวใจให้พระศาสนาเรื่อยมา จนหลังเรียนจบมหาวิทยาลัย ได้แอบไปนับถือและบนบานเทพเจ้า สายมู อยู่ช่วงระยะเวลาเกือบๆปี (ผมไม่ได้ลบหลู่ท่านนะครับ) ตามเพื่อนที่บอกว่าขอพรจะได้รับอย่างที่ขอ แต่ต้องถือศีล เป็นคนดีด้วย บูชาและปฏิบัติตามองค์เทพแต่ละองค์ ผมเลยบูชาท่านด้วยความโลภ อยากได้อยากมี แต่สุดท้าย ผมก็ไม่ได้รับอะไรในสิ่งที่ผมขอเช่นเคย
ด้วยช่วงเวลานี้ ผมเลยห่างจากพระพุทธศาสนา และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกอย่าง เป็นระยะเวลา 2ปีกว่าๆ กลายเป็นวัยรุ่นที่เชื่อแต่ตัวเอง เชื่อในความสามารถ ศักยภาพของตัวเองเท่านั้น และผมก็เจอความทุกข์นานานับประการ ล้มร้องไห้ แล้วลุกขึ้นสู้ใหม่ นับครั้งไม่ถ้วน เพื่อไขว่คว้าหาความสำเร็จในชีวิต เท่าที่เด็กคนหนึ่งจะทำได้ในที่ทำงานเอกชน
จนกระทั่งจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิตของผมก็เกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้ว ผมบังเอิญ (หรืออาจจะไม่บังเอิญ แต่เป็นเหตุปัจจัยจัดสรร) ผมได้ฟังธรรมะจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปราโมชโช (ซึ่งผมนับถือเป็นอาจารย์คนแรกในชีวิตของผมครับ)
ต่อมา ก็ได้ฟังธรรมจาก พระมหาวรพรต กิตติวโร จากมูลนิธิธรรมอารี (สวนธรรมอารี) ท่านก็สอนดีมากๆเช่นกัน แต่เมื่อปีที่แล้ว ท่านได้ลาสิกขาไปแล้ว เนื่องจากอาการป่วยที่จำเป็นต้องรักษาตัว แต่ก็ยังสามารถรับชมคลิปย้อนหลังของท่านได้อยู่
แล้วท่านก็มอบให้ พระวรินทร นิททโร ดูแลและเผยแพร่ธรรมะแทนท่าน
ในช่วงแรก ผมก็ฟังธรรมะไปเรื่อยๆและพิจารณาตาม ไม่ได้ยึดติดกับครูบาอาจารย์ เพราะฟังธรรมะจากพระหลายท่าน แต่ให้ยึดธรรมตามหลักที่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ และนำธรรมะไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน ด้วยการมีสติรู้กาย รู้ใจ เพียรลดละกิเลสไป เท่าที่จะทำได้ แต่ผมไม่ค่อยได้ทำในรูปแบบของสมถกรรมฐานมากนัก เพราะการเหนื่อยล้าจากชีวิตที่วุ่นวายกับงานและคน ต้องคิดตลอดเวลา แต่ก็ต้องพยายามดึงสติมาอยู่ที่กายใจและให้มากที่สุด
หลังจากที่นับถือครูบาอาจารย์มาหลายท่าน ผมก็ได้เรียนรู้ว่า จะมีอาจารย์เพียงไม่กี่ท่าน ที่สามารถถ่ายทอดธรรมะ สื่อสารธรรม แล้วตรงกับจริตนิสัยของตัวเอง (ซึ่งพระหลายรูปนั้นก็เป็นผู้ทรงศีล และปฏิบัติดีนะครับ เพียงแต่ว่าจะมีบางท่านเท่านั้น ที่ฟังแล้วรู้สึกว่า ท่านถ่ายทอดมาตรงจิตของเรา แบบเข้าใจและเรียนรู้ ที่ไม่ใช่ท่องจำหรือจำได้) ดังนั้น ผมจึงเคารพในครูบาอาจารย์ทุกท่านครับ
แต่วันนี้ผมขอกล่าวถึงท่าน พระวรินทร นิททโร ที่ผมได้ฟังธรรมจากท่านแล้วเกิดการเข้าใจ ซึ่งเป็นการเรียนรู้จากจิต บางครั้งผมในชีวิตประจำวัน เสียงของท่านยังก้องอยู่ในหัวผม เวลามีอกุศลเกิดขึ้นในระหว่างวัน ผมได้ยินคำที่ท่านสอนและมีสติ เพื่อรู้ใจตัวเอง
สิ่งหนึ่งที่ผมรู้สึกเคารพและศรัทธา คือ ปัญญาการถ่ายทอดธรรมะของท่าน ที่ออกมาเป็นภาษาเข้าใจง่าย ซึ่งปัจจุบันท่านอายุเพียง 30ปี (ท่านน่าจะบวชเรียนตั้งแต่หลังเรียนจบมหาวิทยลัยประมาณ 23-24 ครับ) สิ่งนี้ทำให้วัยรุ่นอย่างผมเข้าใจธรรมะได้มากยิ่งขึ้น มีสัมมาทิฏฐิมากขึ้น มีกำลังใจที่จะเพียรละบาปอกุศล และเจริญกุศลมากยิ่งขึ้น
ผมได้ฟังธรรมะของท่าน ผ่าน youtube ทุกวัน ทุกเช้าก่อนไปทำงาน และผมก็ได้โชคดีที่ผมได้เดินทางไปฟังธรรมต่อหน้าท่าน ยิ่งทำให้มีแรงศรัทธาในการปฏิบัติได้มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
ในส่วนตัวผมรู้สึกว่า ผมจะรับธรรมะอย่างเต็มเปี่ยมจาก ครูบาอาจารย์ที่มีความเมตตากรุณาที่สูง มีความสุภาพอ่อนโยน ซึ่งนั่นตรงกับจริตนิสัยผม คำทุกพูดที่ท่านใช้ เป็นคำที่เคารพทุกอย่าง ทุกสรรพสัตว์ที่ท่านกล่าวถึง ผมยังไม่เคยได้ยินคำใด ที่ท่านกล่าวติเตียนสิ่งใดเลย มีแต่กล่าวถึงเหตุปัจจัยและผลที่จะตามมา และผมเองก็ไม่ค่อยเหมาะกับการทำสมถะสักเท่าไร (ซึ่งก็สำคัญในการทำให้มีสติตั้งมั่น รู้เห็นตามความเป็นจริง) แต่ผมจะไปที่การเรียนรู้อย่างใช้เหตุใช้ผลมากกว่า แต่ถ้าฟุ้งมากๆก็ต้องกลับมาทำสมถะครับ
สำหรับวัยรุ่นท่านใด วัยทำงาน หรือวัยกลางคนที่จะเสาะแสวงหาธรรมะดีๆ จากพระอาจารย์ที่อายุไม่มาก เน้นด้านการเรียนรู้ธรรมด้านปัญญาและวิปัสนาเป็นหลัก ผมแนะนำครับ ลองเปิดใจดูได้ ขึ้นอยู่ความชอบและพิจารณาส่วนบุคคล
ส่วนตัวผมชอบในสิ่งที่ท่านสอน ที่เอาธรรมะมาอยู่ในชีวิตประจำวันของเราได้ เป็นหลักใจของเราได้ ซึ่งเหมาะสมกับคนสมัยนี้ที่ต้องใช้ชีวิตวุ่นวายกับการสร้างเนื้อสร้างตัว แต่ก็ยังอยากจะเดินบนเส้นทางแห่งธรรม
สำหรับสุดท้ายนี้ ผมขอแปะ link ไว้ เผื่อลองเข้าไปรับชมรับฟังได้ครับ https://youtube.com/@dhamma_aree?si=6uTalLicGGtqhEPJ
ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่สนใจใฝ่ธรรมด้วยครับ....
ขออนุญาตภาพจากเพจธรรมอารีครับ