ผมพบเชื้อซิฟิลิสในระยะแรก ไม่มีอาการแต่สังเกตุตัวเองว่าเป็นไข้ตัวร้อนภายในวันเดียวแล้วหาย อาทิตย์ละครั้ง ประมาณ3อาทิตย์ เลยไปตรวจเลือดแล้วพบเชื้อ ก็ทำการรักษาทันทีโดยฉีดยาเข้าสะโพกข้างละเข็ม แค่นั้นเล

พอดีไปเที่ยวมา ใช้ถุงยางป้องกันตามปกติ แต่พอเสร็จกิจแล้ว สังเกตุที่ถุงยางมีเลือดปนอยู่ในน้ำอสุจิเลยเกิดความกังวลว่าเป็นของใครกันแน่ ตอนเดินเอาถุงไปทิ้งก็ไม่เห็นว่ามันรั่วอะไร แบบนี้เค้าข่ายมีความเสี่ย

ขอย้อนเรื่องก่อนนะครับ ผมได้ไปมีความเสี่ยงล่าสุดครั้งเเรกเเละครั้งเดียวเมื่อปี 2566 โดยเป็นการถูกออรัลสดจากผู้หญิงเเค่นั้นไม่ได้มีการสอดใส่อะไรใดๆเพิ่มเติม โดยผมก็ไม่ได้มีอาการอะไรที่สื่อถึงการติดโรคต

คือเห็นรีวิวการบำบัดด้วยภูมิคุ้มกันบำบัด APCO ได้ใช้ในผู้ติดเชื้อ HIV ทำให้หายจริงหรือไม่ ใครเคยทานมั่งครับ ขอคำแนะนำหน่อย... ขอคนที่เคยทาน หรือรู้ข้อมูลครับ ไม่เอาหน้าม้าเด้อ

จากที่ทราบมาว่าหญิงฝ่ายรับนั้นมีโอกาสเสี่ยงมากกว่าชายฝ่ายรุก เพราะการแลกสารคัดหลั่งแม้จะไม่มีการหลั่งในก็ตามก็ยังมีความเสี่ยงอยู่(รวมถึงบาดแผลเล็กๆในเยื่อบุช่องคลอดที่ไม่รู้ว่ามีหรือไม่มี) แต่ได้รับย

อยากสอบถามครับ ถ้าเป็นฝ่ายรับ Oral sex กับอวัยวะเพศชาย (ใส่ถุงยางร่วมด้วย) มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ HIV มากไหมครับ **Oral sex (ฝ่ายรับ) แบบไม่ป้องกัน เสี่ยง 0.04%** ถ้าใส่ถุงยางร่วมด้วย เสี่ยงลดลงเ

คือผมมีเพศสัมพันธ์แบบ ชายชาย โดยไม่มีการสอดใส่ มีการจูบและช่วยกันภายนอกโดยการเอาอวัยวะเพศมาประกบกันแล้วทำพร้อมกัน มีน้ำหล่อลื่นออกมาในขณะที่ทำและอีกฝ่ายมีการเสร็จบนตัวผม น้ำอสุจิอีกฝ่ายโดนที่ปลายอวัยว

คือต้องบอกก่อนว่าผมเป็น ผู้ชาย และPositionบนเตียงเป็นฝ่ายรับ ผมเคยมีเพศสัมพันธ์กับคนรู้จักเมื่อ1-2ปีก่อน ต้องยอมรับว่าตอนนั้นไม่ได้ศึกษาหาข้อมูลและไม่ได้ตระหนักถึงความเสี่ยง ก็ต้องโทษตัวเองที่ไม่รอบคอ

อยากอ่านข้อความเกี่ยวกับการมีความรัก การมีแฟน มีคู่ชีวิต ของคนที่มีเชื้อ Hiv ค่ะ ว่าเป็นอย่างไรบ้าง มีที่มายังไง ตอนที่บอกว่าเป็นใช้วิธีไหน และลงเอยอย่างไร.. **รบกวนแชร์ประสบการณ์ ให้อ่านเพื่อที่เราจ