หลายคนที่เพิ่งเริ่มต้นทำงานหรือกำลังพิจารณาซื้อบ้าน ซื้อรถ หรือใช้บัตรเครดิต อาจมีคำถามว่า “เงินเดือน 30,000 บาท พอใช้จ่ายกับภาระหนี้ทั้งหมดได้จริงหรือ?” 🤔
วันนี้ผมได้รวบรวมข้อมูลจากแหล่งต่างๆ เพื่อคำนวณและแชร์ให้ทุกคนลองดูว่า หากมีเงินเดือนระดับนี้ และต้องรับผิดชอบภาระหนี้ต่างๆ เราจะสามารถอยู่ได้แบบสบายๆ หรือจะตึงมือจนต้องปรับแผนการเงินใหม่ 📊💸
💡 การคำนวณภาระหนี้หลักของมนุษย์เงินเดือน
1️⃣ ค่าผ่อนบ้าน 🏠
•ปกติธนาคารแนะนำให้ภาระหนี้บ้านไม่เกิน 40% ของรายได้
•หากเงินเดือน 30,000 บาท ค่าผ่อนบ้านที่เหมาะสมไม่ควรเกิน 12,000 บาท/เดือน
•สมมติว่าซื้อบ้านราคา 2,000,000 บาท ผ่อน 30 ปี ดอกเบี้ย 4% ค่างวดจะประมาณ 9,500 - 11,000 บาท/เดือน
2️⃣ ค่าผ่อนรถ 🚗
•ธนาคารแนะนำว่าค่างวดรถไม่ควรเกิน 15-20% ของรายได้
•ถ้าซื้อรถราคา 600,000 บาท ผ่อน 5 ปี ดอกเบี้ย 2.5% ค่างวดจะอยู่ที่ประมาณ 10,500 - 11,500 บาท/เดือน
•แต่ถ้าคิดรวมกับค่าผ่อนบ้าน จะกลายเป็นว่าภาระหนี้รวมเกือบ 20,000 บาทแล้ว ❗
3️⃣ ค่าใช้จ่ายบัตรเครดิต 💳
•ปกติคนใช้บัตรเครดิตมักมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยเดือนละ 5,000 - 10,000 บาท
•ถ้าจ่ายขั้นต่ำ 10% ของยอด ก็อาจต้องจ่ายประมาณ 1,000 - 2,000 บาท/เดือน
•แต่ถ้าผ่อนไอเท็มใหญ่ๆ เช่น โทรศัพท์หรือสินค้าอื่น ค่าใช้จ่ายตรงนี้อาจเพิ่มขึ้น
📌 รวมค่าใช้จ่ายรายเดือน (กรณีมีหนี้ทั้งบ้าน-รถ-บัตรเครดิต)
💥 เงินเดือน 30,000 บาท อาจไม่พอจ่าย!
🛑 ถ้าเงินเดือน 30,000 ไม่พอ ต้องทำยังไง?
✅ ลดภาระหนี้ที่ไม่จำเป็น เช่น ชะลอการซื้อรถ หรือเลือกซื้อบ้านที่ราคาเหมาะสม
✅ หารายได้เสริม เช่น ขายของออนไลน์, ทำงานพาร์ทไทม์, รับจ็อบฟรีแลนซ์
✅ จัดการหนี้อย่างชาญฉลาด ใช้บัตรเครดิตเท่าที่จำเป็น และโปะหนี้ให้เร็วขึ้น
✅ สร้างกองทุนฉุกเฉิน เผื่อมีเหตุการณ์ไม่คาดคิด เช่น ตกงาน หรือลดรายได้
📢 คำถามสำหรับทุกคน
💬 ถ้าคุณมีเงินเดือน 30,000 บาท และต้องผ่อนบ้าน-รถ-บัตรเครดิต คิดว่าคุณจะรับมือกับภาระหนี้เหล่านี้ได้ไหม? มีเทคนิคบริหารเงินยังไงให้พอใช้? มาร่วมแชร์ความคิดเห็นกันครับ! 🏡🚘💳
📚 ที่มาของข้อมูล:
•ธนาคารแห่งประเทศไทย (BOT) - หลักการให้สินเชื่อบ้านและรถ
•สมาคมธนาคารไทย (TBA) - แนวทางบริหารหนี้
•เว็บไซต์การเงินส่วนบุคคล เช่น Money Guru, TMRW Thailand
📌 หมายเหตุจาก จขกท.
“ไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญ แต่ไปค้นหาข้อมูลมาเพื่อแชร์ให้ทุกคน เผื่อจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย 📚✨ ถ้ามีอะไรผิดพลาดหรืออยากเสริม เชิญคอมเมนต์ได้เลยครับ ยินดีแลกเปลี่ยนความรู้กัน 🙌😊”
เงินเดือน 30,000 กับภาระหนี้บ้าน-รถ-บัตรเครดิต พออยู่ได้จริงไหม? 💳🏠🚗
วันนี้ผมได้รวบรวมข้อมูลจากแหล่งต่างๆ เพื่อคำนวณและแชร์ให้ทุกคนลองดูว่า หากมีเงินเดือนระดับนี้ และต้องรับผิดชอบภาระหนี้ต่างๆ เราจะสามารถอยู่ได้แบบสบายๆ หรือจะตึงมือจนต้องปรับแผนการเงินใหม่ 📊💸
💡 การคำนวณภาระหนี้หลักของมนุษย์เงินเดือน
1️⃣ ค่าผ่อนบ้าน 🏠
•ปกติธนาคารแนะนำให้ภาระหนี้บ้านไม่เกิน 40% ของรายได้
•หากเงินเดือน 30,000 บาท ค่าผ่อนบ้านที่เหมาะสมไม่ควรเกิน 12,000 บาท/เดือน
•สมมติว่าซื้อบ้านราคา 2,000,000 บาท ผ่อน 30 ปี ดอกเบี้ย 4% ค่างวดจะประมาณ 9,500 - 11,000 บาท/เดือน
2️⃣ ค่าผ่อนรถ 🚗
•ธนาคารแนะนำว่าค่างวดรถไม่ควรเกิน 15-20% ของรายได้
•ถ้าซื้อรถราคา 600,000 บาท ผ่อน 5 ปี ดอกเบี้ย 2.5% ค่างวดจะอยู่ที่ประมาณ 10,500 - 11,500 บาท/เดือน
•แต่ถ้าคิดรวมกับค่าผ่อนบ้าน จะกลายเป็นว่าภาระหนี้รวมเกือบ 20,000 บาทแล้ว ❗
3️⃣ ค่าใช้จ่ายบัตรเครดิต 💳
•ปกติคนใช้บัตรเครดิตมักมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยเดือนละ 5,000 - 10,000 บาท
•ถ้าจ่ายขั้นต่ำ 10% ของยอด ก็อาจต้องจ่ายประมาณ 1,000 - 2,000 บาท/เดือน
•แต่ถ้าผ่อนไอเท็มใหญ่ๆ เช่น โทรศัพท์หรือสินค้าอื่น ค่าใช้จ่ายตรงนี้อาจเพิ่มขึ้น
📌 รวมค่าใช้จ่ายรายเดือน (กรณีมีหนี้ทั้งบ้าน-รถ-บัตรเครดิต)
💥 เงินเดือน 30,000 บาท อาจไม่พอจ่าย!
🛑 ถ้าเงินเดือน 30,000 ไม่พอ ต้องทำยังไง?
✅ ลดภาระหนี้ที่ไม่จำเป็น เช่น ชะลอการซื้อรถ หรือเลือกซื้อบ้านที่ราคาเหมาะสม
✅ หารายได้เสริม เช่น ขายของออนไลน์, ทำงานพาร์ทไทม์, รับจ็อบฟรีแลนซ์
✅ จัดการหนี้อย่างชาญฉลาด ใช้บัตรเครดิตเท่าที่จำเป็น และโปะหนี้ให้เร็วขึ้น
✅ สร้างกองทุนฉุกเฉิน เผื่อมีเหตุการณ์ไม่คาดคิด เช่น ตกงาน หรือลดรายได้
📢 คำถามสำหรับทุกคน
💬 ถ้าคุณมีเงินเดือน 30,000 บาท และต้องผ่อนบ้าน-รถ-บัตรเครดิต คิดว่าคุณจะรับมือกับภาระหนี้เหล่านี้ได้ไหม? มีเทคนิคบริหารเงินยังไงให้พอใช้? มาร่วมแชร์ความคิดเห็นกันครับ! 🏡🚘💳
📚 ที่มาของข้อมูล:
•ธนาคารแห่งประเทศไทย (BOT) - หลักการให้สินเชื่อบ้านและรถ
•สมาคมธนาคารไทย (TBA) - แนวทางบริหารหนี้
•เว็บไซต์การเงินส่วนบุคคล เช่น Money Guru, TMRW Thailand
📌 หมายเหตุจาก จขกท.
“ไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญ แต่ไปค้นหาข้อมูลมาเพื่อแชร์ให้ทุกคน เผื่อจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย 📚✨ ถ้ามีอะไรผิดพลาดหรืออยากเสริม เชิญคอมเมนต์ได้เลยครับ ยินดีแลกเปลี่ยนความรู้กัน 🙌😊”