วันนี้ขอพาผู้ชมวาร์ปไปชมภาพละครที่โด่งดัง เรตติงปัง ๆ ในอดีต กับ 'สะใภ้ทอร์นาโด' ซึ่งออกอากาศทางช่อง 7 ใน ปี 2548 ใครที่ชอบแนวพระเอกฮา ๆ กับนางเอกห้าว ๆ เรื่องนี้ถือว่าตอบโจทย์ค่ะ เพราะจุดเริ่มต้นของเรื่องมาจาก การหาเมียของพระเอกเค้าแหละค่ะ !! ใครคิดถึงละครเรื่องนี้มาดูเรตติ้งกันค่ะ
'สะใภ้ทอร์นาโด' เวอร์ชันนี้ ผลิตโดย ค่ายโพลีพลัส ได้พระเอกมาแรง
พอล ภัทรพล รับบท 'ปีติ ปานะพงษ์' หนุ่มนักเรียนนอกเนื้อหอม และเป็นบุตรชายคนเล็กแห่งตระกูลปานะพงษ์ ถูก
'คุณหญิงช่อผกา' (มยุรา เศวตศิลา) มารดาของตนตั้งใจจะจับคลุมถุงชนเพื่อให้เหมาะสมทั้งฐานะและชาติตระกูลระหว่างเขากับ 'ศรุตา' สาวสังคมเชื้อสายผู้ดีเก่า ประกบคู่กับนางเอกเจ้าน้ำตา อันดับ 1 กบ สุวนันท์ รับบท 'ปานดาว' สาวใสมาดเท่ริมหาด จิตใจดี แต่ยากจน เพราะเป็นเพียงลูกจ้างขับเรือบานาน่าโบ๊ทตามชายฝั่ง
คุณหญิงช่อผกากรอกหูอยู่ทุกวันว่า ชีวิตนี้หัวเด็ดตีนขาดจะไม่มีวันรับสะใภ้ต่างชาติเหมือนลูกชายคนแรกอีก โดยปีติก็เป็นความหวังสุดท้ายของตระกูล เพราะถึงแม้คุณหญิงจะมีลูกถึง 3 คนคือ ปรมี, ปีติ, ปาหนัน แต่ปีติก็เป็นลูกชายคนเดียวที่ยังไม่ได้แต่งงาน ส่วนปาหนันนั้นเป็นลูกสาวจึงฝากความหวังอะไรไม่ได้ ปีตีแอบหลบมาพักหาคำตอบให้กับตัวเองที่บ้านพักตากอากาศหัวหิน เขาขับเรือออกไปกลางทะเลเหมือนตั้งใจหนีปัญหา แต่เหมือนเวรซ้ำกรรมซัดเรือเกิดขัดข้องและพลิกคว่ำในขณะที่เขาเพิ่งขับออกไปจากชายฝั่งไม่ไกลเท่าไหร่ ถึงกระนั้นก็ไม่มีใครบนฝั่งกล้าออกมาช่วยเขา
แต่เดชะบุญมีเด็กคนหนึ่งซิ่งขับเรือลากบานาน่าโบ๊ทแถวนั้นตัดสินใจช่วยชีวิตของปีติไว้ได้อย่างหวุดหวิด ภาพแรกที่ปีติฟื้นขึ้นมาเห็นก็คือมีเด็กผู้ชายคนหนึ่งซึ่งเขามารู้ชื่อทีหลังว่า ปาน กำลังผายปอดช่วยชีวิตเขา แม้ว่าปีติจะพยายามระงับอาการตกใจที่โดนเด็กผู้ชายมาจูบปากช่วยชีวิต แต่เขาก็เก็บอาการไม่มิดจนปานสังเกตได้ นั่นจึงเป็นครั้งแรกที่ปานรู้สึกไม่พอใจและรู้สึกไม่ถูกชะตากับปีติ หนอย...ขอบใจสักคำก็ไม่มี แถมทำท่ารังเกียจกันอีกต่างหาก
ปานเล่าเรื่องราวของตนเองให้ปีติฟัง เธอมีชื่อจริงว่า ปานดาว แทุกคนในหัวหินต่างก็เรียว่าไอ้ปานกันทั้งนั้น ก็ด้วยเพราะท่าทางกระโดกกระเดกสู้ชีวิตเหมือนเด็กผู้ชาย แถมยังมี 'ไอ้จ้อย' เด็กทโมนเป็นลูกคู่อยู่ไม่ห่าง ปานต้องทำงานหนักหาเงินมารักษา'ตามิ่ง'ซึ่งเป็นโรคปอดอย่างรุนแรง ปีติรู้สึกว่าปัญหาของตัวเองเล็กกะจิ๋วเดียวเมื่อเทียบกับปัญหาของอีกหลายๆ คนนโลกใบนี้ และในแว๊บหนึ่งปีติคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ ปีติจ้างให้ปานดาวสวมบทบาทเป็นภรรยาของเขาด้วยจำนวนเงินก้อนใหญ่ เพื่อเป็นข้ออ้างในการล้มเลิกการแต่งงานระหว่างเขากับศรุตาออกไป
'สะใภ้ทอร์นาโด' เรียกได้ว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก กวาดเรตติงสูงสุดถึง 16 แถมยังสร้างเสียงฮาภายในครอบครัว ได้เป็นอย่างดี เรียกได้ว่าเป็นละครที่ยังอยู่ในใจของใครหลาย ๆ คน จนถึงตอนนี้เลยล่ะค่าาา~
เปิดเรตติ้ง 'สะใภ้ทอร์นาโด' ละครแม่ผัวลูกสะใภ้กำมะลอที่ฝากสูงไปถึง 16
คุณหญิงช่อผกากรอกหูอยู่ทุกวันว่า ชีวิตนี้หัวเด็ดตีนขาดจะไม่มีวันรับสะใภ้ต่างชาติเหมือนลูกชายคนแรกอีก โดยปีติก็เป็นความหวังสุดท้ายของตระกูล เพราะถึงแม้คุณหญิงจะมีลูกถึง 3 คนคือ ปรมี, ปีติ, ปาหนัน แต่ปีติก็เป็นลูกชายคนเดียวที่ยังไม่ได้แต่งงาน ส่วนปาหนันนั้นเป็นลูกสาวจึงฝากความหวังอะไรไม่ได้ ปีตีแอบหลบมาพักหาคำตอบให้กับตัวเองที่บ้านพักตากอากาศหัวหิน เขาขับเรือออกไปกลางทะเลเหมือนตั้งใจหนีปัญหา แต่เหมือนเวรซ้ำกรรมซัดเรือเกิดขัดข้องและพลิกคว่ำในขณะที่เขาเพิ่งขับออกไปจากชายฝั่งไม่ไกลเท่าไหร่ ถึงกระนั้นก็ไม่มีใครบนฝั่งกล้าออกมาช่วยเขา
แต่เดชะบุญมีเด็กคนหนึ่งซิ่งขับเรือลากบานาน่าโบ๊ทแถวนั้นตัดสินใจช่วยชีวิตของปีติไว้ได้อย่างหวุดหวิด ภาพแรกที่ปีติฟื้นขึ้นมาเห็นก็คือมีเด็กผู้ชายคนหนึ่งซึ่งเขามารู้ชื่อทีหลังว่า ปาน กำลังผายปอดช่วยชีวิตเขา แม้ว่าปีติจะพยายามระงับอาการตกใจที่โดนเด็กผู้ชายมาจูบปากช่วยชีวิต แต่เขาก็เก็บอาการไม่มิดจนปานสังเกตได้ นั่นจึงเป็นครั้งแรกที่ปานรู้สึกไม่พอใจและรู้สึกไม่ถูกชะตากับปีติ หนอย...ขอบใจสักคำก็ไม่มี แถมทำท่ารังเกียจกันอีกต่างหาก
ปานเล่าเรื่องราวของตนเองให้ปีติฟัง เธอมีชื่อจริงว่า ปานดาว แทุกคนในหัวหินต่างก็เรียว่าไอ้ปานกันทั้งนั้น ก็ด้วยเพราะท่าทางกระโดกกระเดกสู้ชีวิตเหมือนเด็กผู้ชาย แถมยังมี 'ไอ้จ้อย' เด็กทโมนเป็นลูกคู่อยู่ไม่ห่าง ปานต้องทำงานหนักหาเงินมารักษา'ตามิ่ง'ซึ่งเป็นโรคปอดอย่างรุนแรง ปีติรู้สึกว่าปัญหาของตัวเองเล็กกะจิ๋วเดียวเมื่อเทียบกับปัญหาของอีกหลายๆ คนนโลกใบนี้ และในแว๊บหนึ่งปีติคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ ปีติจ้างให้ปานดาวสวมบทบาทเป็นภรรยาของเขาด้วยจำนวนเงินก้อนใหญ่ เพื่อเป็นข้ออ้างในการล้มเลิกการแต่งงานระหว่างเขากับศรุตาออกไป
'สะใภ้ทอร์นาโด' เรียกได้ว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก กวาดเรตติงสูงสุดถึง 16 แถมยังสร้างเสียงฮาภายในครอบครัว ได้เป็นอย่างดี เรียกได้ว่าเป็นละครที่ยังอยู่ในใจของใครหลาย ๆ คน จนถึงตอนนี้เลยล่ะค่าาา~