ก็มีสินค้า…แต่เป็นแชร์ลูกโซ่

หากพูดถึงความแตกต่างระหว่างธุรกิจขายตรง กับ แชร์ลูกโซ่ หลายคนอาจคิดว่าเรื่องนี้แยกกันได้ง่ายเพียงแค่ดูที่การมีสินค้าหรือไม่มีสินค้า แต่หากเจาะลึกถึงเบื้องหลังของการดำเนินธุรกิจมันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น เพราะในขณะที่ธุรกิจขายตรงสร้างรายได้จากการขายสินค้าจริงที่มีคุณภาพ แชร์ลูกโซ่กลับใช้กลยุทธ์ว่ามีสินค้าเพื่อบังหน้าในการหลอกล่อเหยื่อด้วยความหวัง ธุรกิจขายตรงนั้นเน้นการขายสินค้าจริงและคนที่ดำเนินธุรกิจจะได้ผลตอบแทนที่เกิดขึ้นจากยอดขาย พร้อมการสร้างความพึงพอใจเป็นหัวใจสำคัญ ซึ่งแตกต่างจากแชร์ลูกโซ่ที่ใช้สินค้าเป็นเพียงฉากบังหน้าเน้นการเพิ่มสมาชิกเข้าแทนที่คนเก่าที่เคยถูกหลอกไปก่อนหน้านี้

ความคิดแบบเดิมที่ยังคิดว่า "แชร์ลูกโซ่ไม่มีสินค้า"  แชร์ลูกโซ่ในปัจจุบันหลายที่มีสินค้าเพื่อตบตาผู้บริโภค เช่น ยาลดน้ำหนัก วิตามินเสริมสุขภาพ ครีมบำรุงผิว เป็นต้น โดยการใช้สินค้าที่มีคุณภาพต่ำ ผลิตได้ง่าย ต้นทุนราคาต่ำและหมดอายุไว ซึ่งทำให้เจ้าของสามารถผลิตหรือสั่งมาเป็นจำนวนมากเพื่อใช้เป็นข้ออ้างเพื่อตบตา เพราะสินค้าประเภทนี้ใช้แล้วหมดไปทำให้ผู้คนมีโอกาสกลับมาซื้อใหม่ หรือสมาชิกใหม่ต้องจ่ายเงินซื้อเป็นส่วนหนึ่งของการเข้าเป็นสมาชิก สินค้าจำพวก ยาลดความอ้วน หรือ วิตามินบำรุงร่างกาย มักจะมีผลลัพธ์ที่ไม่ชัดเจนหรือไม่ได้รับการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ นอกจากจะทำให้ผู้ซื้อหลงเชื่อแล้วยังโฆษณาด้วยการใช้ข้อความในการโฆษณาที่เกินจริง เช่น "ลดน้ำหนักภายใน 7 วัน" หรือ "บำรุงผิวใสภายใน 3 วัน" ซึ่งเป็นการสร้างความหวังให้กับคนที่หลงเชื่อโดยง่าย

ถ้าหากมีสินค้าแล้วทำไมถึงยังเป็นแชร์ลูกโซ่? เพราะถึงแม้ว่าธุรกิจนั้นมีสินค้าจะมีอยู่จริง แต่การจ่ายผลตอบแทนกลับไม่ได้มาจากการขายสินค้าจริง รายได้หลักยังคงมาจากการชักชวนคนใหม่ให้เข้าร่วมและลงทุนเพิ่มในระบบ เพราะหากไม่มีการชักชวนคนใหม่ระบบจะพังทันที สินค้าที่ใช้จึงเป็นเพียงเครื่องมือบังหน้า เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกกล่าวหาว่าเป็นแชร์ลูกโซ่ โดยในบางแห่งใช้สินค้าชนิดเดียวกับธุรกิจขายตรง แตกต่างกันที่สินค้าไม่ได้เป็นตัวสร้างรายได้หลักยังคงทำให้ธุรกิจนั้นถูกจัดอยู่ในประเภทแชร์ลูกโซ่ เพราะโครงสร้างการจ่ายผลตอบแทนและการเน้นเพิ่มสมาชิกใหม่มากกว่าการขายสินค้า เพราะแม้ว่าจะมีสินค้าแต่ก็ไม่ได้มุ่งเน้นขายสินค้า ซึ่งถือว่าเป็นการหลอกลวงอย่างแนบเนียน

เพราะฉะนั้นแล้วหากมีการชักชวนให้ทำธุรกิจขายตรง สิ่งสำคัญก่อนการที่จะลงทุนทำธุรกิจคือการตรวจสอบการยื่นจดทะเบียนธุรกิจขายตรงก่อนทุกครั้ง พร้อมศึกษาโครงสร้างธุรกิจและแผนการจ่ายค่าตอบแทน โดยพิจารณาถึงความสมเหตุสมผลของรายได้ผลตอบแทนควรตรวจสอบเงื่อนไขการเข้าร่วมธุรกิจว่ามีการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายหรือไม่ การดำเนินธุรกิจจะต้องไม่บังคับให้ตัวแทนขายต้องซื้อสินค้าจำนวนมากเกินความเป็น และอย่าเชื่อการโฆษณาว่าการดำเนินการทำธุรกิจจะประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่