“ไม่มีมนุษย์คนใดในโลกนี้ที่บริสุทธิ์ตั้งแต่เกิด..เราต่างเป็นแค่ปุถุชนธรรมดาเท่านั้น”
หลังจากที่สมเด็จพระสันตะปาปาสิ้นพระชนม์ด้วยอาการหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน..
พระคาร์ดินัลโธมัส ลอว์เรนซ์ ได้รับเลือกให้เป็นประธานในการเลือกผู้สืบทอดตำแหน่งต่อจากพระองค์ ..
ท่ามกลางความขัดแย้งที่เหมือนกระแสคลื่นใต้น้ำก่อตัวอย่างเงียบๆ ภายในวาติกัน
พระคาร์ดินัลโธมัสทราบข่าวว่ามีผู้ที่จะเข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ให้ฐานะพระคาร์ดินัลคนใหม่จากกรุงคาบูล (อัฟกานิสถาน)
ชื่อว่า วินเซนต์ เบนิเตซ ซึ่งได้รับการแต่งตั้งอย่างลับๆจากพระสันตะปาปาอย่างกะทันหัน..
ขณะที่อาร์คบิชอบวอซเนียค ก็ได้มาแจ้งถึงเรื่องสำคัญเกี่ยวกับการพบปะกันครั้งสุดท้ายของพระสันตะปาปา
ก่อนที่พระองค์จะสิ้นพระชนม์กับพระคาร์ดินัลแทรมเบลย์ ที่มีความลับบางอย่าง..
ทุกเรื่องทำให้พระคาร์ดินัลโธมัสกังวลใจ
การประชุมเลือกสันตะปาปาแม้ว่าในสองรอบแรกยังไม่อาจหาผู้ที่มีคะแนนนำขาดได้
แต่ก็เห็นได้ชัดเจนว่ามีใครที่มีสิทธิในตำแหน่งนี้อย่างชัดเจน อันได้แก่
อัลโด เบลลินี จากสหรัฐอเมริกา ผู้มีแนวคิดเสรีนิยมในสายเลือดของสมเด็จพระสันตะปาปาผู้ล่วงลับ
โจชัว อเดเยมี่ จากไนจีเรีย นักสังคมนิยมผู้ต่อต้านแนวคิดโลกเสรีปัจจุบันหลายประการ
โจเซฟ เทรมเบลย์ จากแคนาดา สายกลางในศาสนจักร
กอเฟรโด้ เทเดสโก้ จากอิตาลี นักอนุรักษนิยมที่เข้มแข็ง
ใครล่ะ จะได้ดำรงตำแหน่งประมุขแห่งคริตจักรคนต่อไป??
Conclave เป็นภาพยนตร์แนวระทึกขวัญลึกลับ ผลงานการกำกับของ Edward Berger เขียนบทโดย Peter Straughan
นำแสดงโดยดาราดังอย่าง Ralph Fiennes, Stanley Tucci, John Lithgow, Sergio Castellitto และ Isabella Rossellini
ภาพยนตร์เรื่องนี้ดัดแปลงมาจากหนังสือขายดีในชื่อเดียวกันของโรเบิร์ต แฮร์ริส ในปี 2016
เมื่อเหล่าพระคาร์ดินัลรวมตัวกันภายในกำแพงลับของวาติกันเพื่อประชุมเลือกสมเด็จพระสันตะปาปาพระองค์ใหม่
การสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระสันตะปาปาองค์ผู้เป็นที่รักยิ่ง พัวพันกับความลับบางอย่าง
และทำให้การประชุมในครั้งนี้เต็มไปด้วยความเข้มข้นและลึกลับอย่างยิ่ง
ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับคำวิจารณ์ในแง่บวกจากนักวิจารณ์
โดยได้รับคำชมในด้านการแสดง การกำกับ บทภาพยนตร์ และการถ่ายทำภาพยนตร์
และทำรายได้ไป 57.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯทั่วโลก
ได้รับการเสนอชื่อให้เป็น 1 ใน 10 ภาพยนตร์ยอดนิยมประจำปี 2024
โดย National Board of Review และ American Film Institute
ล่าสุดได้รับรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยมจากเวทีลูกโลกทองคำ (เข้าชิง 6 สาขาได้มา 1)
ถือเป็น 1 ในตัวเต็งภาพยนตร์ยอดเยี่ยมบทเวทีออสการ์ครั้งนี้ โดยเข้าชิงถึง 8 สาขาเลยทีเดียว
ภาพยนตร์เรื่องนี้เต็มไปด้วยผู้เข้าชิงรางวัลออสการ์ครับ โดยผู้ชนะรางวัลออสการ์ ได้แก่
Ralph Fiennes (ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิจาก The English Patient และ Schindler's List)
Stanley Tucci (The Lovely Bones) และ John Lithgow (Terms of Endearment, The World Based to Garp)
ส่วนผู้กำกับเอ็ดเวิร์ด เบอร์เกอร์ ก็ได้ออสการ์มาในหนังสงคราม All Quiet on the Western Front ในปี 2023
เจอรายชื่อน่าสนใจขนาดนี้ความคาดหวังของผู้ชมอย่างผมย่อมต้องสูงเช่นกัน
และก็ไม่ผิดหวังเลยสักนิด นี่คือ 1 ในหนังที่ผมรอคอย ความตึงเครียด ความกดดัน
จากการประชุมเลือกผู้ที่เหมาะสมที่จะดำรงตำแหน่งผู้นำคริสตจักรโรมันคาทอลิกทั่วโลกคนใหม่
แค่ประเด็นนี้ก็เพียงพอแล้วที่จะกระตุ้นความสนใจให้คนอยากดูหนังเรื่องนี้
รายละเอียดปลีกย่อยต่างๆ ในการประชุมที่มีมาตั้งแต่โบราณสืบทอดกันมา เราจะได้เห็นทุกขั้นตอน
ผ่านตัวของ Ralph Fiennes ที่ต้องมารับภาระอันหนักอึ้ง
ซึ่งนอกจากต้องดำเนินการประชุมลับให้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดีแล้ว เขากลับต้องไปเกี่ยวข้องกับแผนการบางอย่าง
เรื่องราวซับซ้อนทั้งการเมือง ศรัทธา ความลับที่หากเขาเลือกเส้นทางที่ผิดพลาด
ก็อาจสั่นคลอนรากฐานของคริสตจักรทั้งหมดเลยทีเดียว
ตลอดเหตุการณ์ 72 ชั่วโมงที่ปรากฎในภาพยนตร์เรื่องนี้ ตัวของ Fiennes ต้องต่อสู้ทั้งกับเหล่าพระคาร์ดินัล
ที่ยึดอาสนวิหารหลังใหญ่แบ่งฝักแบ่งฝ่ายเพื่อหวังครอบครอบตำแหน่งอันสูงสุด
รวมถึงแผนการสกปรกของหมู่คนในคราบนักบุญที่พร้อมทำทุกอย่างเพื่อให้ไปถึงเป้าหมายนั้น
อีกทั้งจิตใจของตัวเองก็เริ่มสั่นไหวกับความจริงที่ยากจะอธิบายให้ใครได้รับรู้
ไม่จำเป็นที่คุณต้องมีความรู้ทางประวัติศาสตร์หรือศาสนา ก็สามารถดูหนังเรื่องนี้ได้อย่างเข้าใจไม่ยากครับ
รับประกันเลยว่าคุณจะต้องตื่นเต้นและลุ้นระทึกตามอย่างที่ผมรู้สึก
จนไปถึงจุดไคลแมกซ์ของเรื่องที่ชวนให้อึ้งและคาดเดาไม่ได้เลยจริงๆ
สมแล้วกับผลงานของ เอ็ดเวิร์ด เบอร์เกอร์ ที่สร้างความดราม่าได้สะกดใจคนดูมากถึงเพียงนี้
ปิดท้ายครับไม่ว่าใครจะได้ตำแหน่งนี้ไปครอง ประเด็นสำคัญไม่ได้อยู่ที่ว่าใครได้ไป
แต่เป็นว่าได้เพราะเหตุใดต่างหาก เป็นซีนที่บทสนทนาสวยงามและสละสลวยอย่างมาก
บอกเล่าถึงความเป็นจริงของโลกในยุคนี้ได้เป็นอย่างดี โลกที่ทุกฝ่ายต่างพร้อมจะประหัตประหารกันอย่างไม่สนใจว่าใครจะเป็นอย่างไร
สนใจแต่เพียงตัวเองฝ่ายเดียวเท่านั้น .ถ้าเราปล่อยให้ความเกลียดชังมาครอบครองหัวใจของตน
เราทุกคนเพียงแค่เหล่าลูกแกะที่ตาบอดเท่านั้นเอง....
เพราะหนังมันฝังใจ
=== ทิ้งท้ายครับ หนังที่ดีสำหรับตัวเรา แน่นอนว่าอาจจะไม่ได้ดีและไม่ได้ถูกใจสำหรับใคร
ซึ่งอยู่ที่ความชอบของแต่ละบุคคล ภาพยนตร์ก็เหมือนอาหารล่ะครับ อยู่ที่เราเลือกที่จะอยากชิมรสชาติแบบไหนเท่านั้นเอง ===
== Conclave (2024) เปิดปมลับเลือกองค์พระสันตะประปา ==
“ไม่มีมนุษย์คนใดในโลกนี้ที่บริสุทธิ์ตั้งแต่เกิด..เราต่างเป็นแค่ปุถุชนธรรมดาเท่านั้น”
หลังจากที่สมเด็จพระสันตะปาปาสิ้นพระชนม์ด้วยอาการหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน..
พระคาร์ดินัลโธมัส ลอว์เรนซ์ ได้รับเลือกให้เป็นประธานในการเลือกผู้สืบทอดตำแหน่งต่อจากพระองค์ ..
ท่ามกลางความขัดแย้งที่เหมือนกระแสคลื่นใต้น้ำก่อตัวอย่างเงียบๆ ภายในวาติกัน
พระคาร์ดินัลโธมัสทราบข่าวว่ามีผู้ที่จะเข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ให้ฐานะพระคาร์ดินัลคนใหม่จากกรุงคาบูล (อัฟกานิสถาน)
ชื่อว่า วินเซนต์ เบนิเตซ ซึ่งได้รับการแต่งตั้งอย่างลับๆจากพระสันตะปาปาอย่างกะทันหัน..
ขณะที่อาร์คบิชอบวอซเนียค ก็ได้มาแจ้งถึงเรื่องสำคัญเกี่ยวกับการพบปะกันครั้งสุดท้ายของพระสันตะปาปา
ก่อนที่พระองค์จะสิ้นพระชนม์กับพระคาร์ดินัลแทรมเบลย์ ที่มีความลับบางอย่าง..
ทุกเรื่องทำให้พระคาร์ดินัลโธมัสกังวลใจ
การประชุมเลือกสันตะปาปาแม้ว่าในสองรอบแรกยังไม่อาจหาผู้ที่มีคะแนนนำขาดได้
แต่ก็เห็นได้ชัดเจนว่ามีใครที่มีสิทธิในตำแหน่งนี้อย่างชัดเจน อันได้แก่
อัลโด เบลลินี จากสหรัฐอเมริกา ผู้มีแนวคิดเสรีนิยมในสายเลือดของสมเด็จพระสันตะปาปาผู้ล่วงลับ
โจชัว อเดเยมี่ จากไนจีเรีย นักสังคมนิยมผู้ต่อต้านแนวคิดโลกเสรีปัจจุบันหลายประการ
โจเซฟ เทรมเบลย์ จากแคนาดา สายกลางในศาสนจักร
กอเฟรโด้ เทเดสโก้ จากอิตาลี นักอนุรักษนิยมที่เข้มแข็ง
ใครล่ะ จะได้ดำรงตำแหน่งประมุขแห่งคริตจักรคนต่อไป??
Conclave เป็นภาพยนตร์แนวระทึกขวัญลึกลับ ผลงานการกำกับของ Edward Berger เขียนบทโดย Peter Straughan
นำแสดงโดยดาราดังอย่าง Ralph Fiennes, Stanley Tucci, John Lithgow, Sergio Castellitto และ Isabella Rossellini
ภาพยนตร์เรื่องนี้ดัดแปลงมาจากหนังสือขายดีในชื่อเดียวกันของโรเบิร์ต แฮร์ริส ในปี 2016
เมื่อเหล่าพระคาร์ดินัลรวมตัวกันภายในกำแพงลับของวาติกันเพื่อประชุมเลือกสมเด็จพระสันตะปาปาพระองค์ใหม่
การสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระสันตะปาปาองค์ผู้เป็นที่รักยิ่ง พัวพันกับความลับบางอย่าง
และทำให้การประชุมในครั้งนี้เต็มไปด้วยความเข้มข้นและลึกลับอย่างยิ่ง
ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับคำวิจารณ์ในแง่บวกจากนักวิจารณ์
โดยได้รับคำชมในด้านการแสดง การกำกับ บทภาพยนตร์ และการถ่ายทำภาพยนตร์
และทำรายได้ไป 57.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯทั่วโลก
ได้รับการเสนอชื่อให้เป็น 1 ใน 10 ภาพยนตร์ยอดนิยมประจำปี 2024
โดย National Board of Review และ American Film Institute
ล่าสุดได้รับรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยมจากเวทีลูกโลกทองคำ (เข้าชิง 6 สาขาได้มา 1)
ถือเป็น 1 ในตัวเต็งภาพยนตร์ยอดเยี่ยมบทเวทีออสการ์ครั้งนี้ โดยเข้าชิงถึง 8 สาขาเลยทีเดียว
ภาพยนตร์เรื่องนี้เต็มไปด้วยผู้เข้าชิงรางวัลออสการ์ครับ โดยผู้ชนะรางวัลออสการ์ ได้แก่
Ralph Fiennes (ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิจาก The English Patient และ Schindler's List)
Stanley Tucci (The Lovely Bones) และ John Lithgow (Terms of Endearment, The World Based to Garp)
ส่วนผู้กำกับเอ็ดเวิร์ด เบอร์เกอร์ ก็ได้ออสการ์มาในหนังสงคราม All Quiet on the Western Front ในปี 2023
เจอรายชื่อน่าสนใจขนาดนี้ความคาดหวังของผู้ชมอย่างผมย่อมต้องสูงเช่นกัน
และก็ไม่ผิดหวังเลยสักนิด นี่คือ 1 ในหนังที่ผมรอคอย ความตึงเครียด ความกดดัน
จากการประชุมเลือกผู้ที่เหมาะสมที่จะดำรงตำแหน่งผู้นำคริสตจักรโรมันคาทอลิกทั่วโลกคนใหม่
แค่ประเด็นนี้ก็เพียงพอแล้วที่จะกระตุ้นความสนใจให้คนอยากดูหนังเรื่องนี้
รายละเอียดปลีกย่อยต่างๆ ในการประชุมที่มีมาตั้งแต่โบราณสืบทอดกันมา เราจะได้เห็นทุกขั้นตอน
ผ่านตัวของ Ralph Fiennes ที่ต้องมารับภาระอันหนักอึ้ง
ซึ่งนอกจากต้องดำเนินการประชุมลับให้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดีแล้ว เขากลับต้องไปเกี่ยวข้องกับแผนการบางอย่าง
เรื่องราวซับซ้อนทั้งการเมือง ศรัทธา ความลับที่หากเขาเลือกเส้นทางที่ผิดพลาด
ก็อาจสั่นคลอนรากฐานของคริสตจักรทั้งหมดเลยทีเดียว
ตลอดเหตุการณ์ 72 ชั่วโมงที่ปรากฎในภาพยนตร์เรื่องนี้ ตัวของ Fiennes ต้องต่อสู้ทั้งกับเหล่าพระคาร์ดินัล
ที่ยึดอาสนวิหารหลังใหญ่แบ่งฝักแบ่งฝ่ายเพื่อหวังครอบครอบตำแหน่งอันสูงสุด
รวมถึงแผนการสกปรกของหมู่คนในคราบนักบุญที่พร้อมทำทุกอย่างเพื่อให้ไปถึงเป้าหมายนั้น
อีกทั้งจิตใจของตัวเองก็เริ่มสั่นไหวกับความจริงที่ยากจะอธิบายให้ใครได้รับรู้
ไม่จำเป็นที่คุณต้องมีความรู้ทางประวัติศาสตร์หรือศาสนา ก็สามารถดูหนังเรื่องนี้ได้อย่างเข้าใจไม่ยากครับ
รับประกันเลยว่าคุณจะต้องตื่นเต้นและลุ้นระทึกตามอย่างที่ผมรู้สึก
จนไปถึงจุดไคลแมกซ์ของเรื่องที่ชวนให้อึ้งและคาดเดาไม่ได้เลยจริงๆ
สมแล้วกับผลงานของ เอ็ดเวิร์ด เบอร์เกอร์ ที่สร้างความดราม่าได้สะกดใจคนดูมากถึงเพียงนี้
ปิดท้ายครับไม่ว่าใครจะได้ตำแหน่งนี้ไปครอง ประเด็นสำคัญไม่ได้อยู่ที่ว่าใครได้ไป
แต่เป็นว่าได้เพราะเหตุใดต่างหาก เป็นซีนที่บทสนทนาสวยงามและสละสลวยอย่างมาก
บอกเล่าถึงความเป็นจริงของโลกในยุคนี้ได้เป็นอย่างดี โลกที่ทุกฝ่ายต่างพร้อมจะประหัตประหารกันอย่างไม่สนใจว่าใครจะเป็นอย่างไร
สนใจแต่เพียงตัวเองฝ่ายเดียวเท่านั้น .ถ้าเราปล่อยให้ความเกลียดชังมาครอบครองหัวใจของตน
เราทุกคนเพียงแค่เหล่าลูกแกะที่ตาบอดเท่านั้นเอง....
เพราะหนังมันฝังใจ
=== ทิ้งท้ายครับ หนังที่ดีสำหรับตัวเรา แน่นอนว่าอาจจะไม่ได้ดีและไม่ได้ถูกใจสำหรับใคร
ซึ่งอยู่ที่ความชอบของแต่ละบุคคล ภาพยนตร์ก็เหมือนอาหารล่ะครับ อยู่ที่เราเลือกที่จะอยากชิมรสชาติแบบไหนเท่านั้นเอง ===