มีปัญหานิดหน่อยกับพ่อครับแก้ยังไงได้บ้างครับ

*กระทู้นี้ตั้งเพื่อระบายความในใจเฉยๆไม่ได้อยากตั้งแล้วมีคนมาด่าดังนั้นโปรดใช้การแสดงความคิดเห็นที่สุภาพ ขอบคุณครับ*

เศร้าจังเลยครับครับตอนนี้ผมอยู่มหาลัยแล้วก็เรียนทุกวันเลยมีอยู่วันนึงโทรศัพท์ที่ใช้มาตั้งแต่ม.5มันตกแล้ว แค่จอแตก แต่ก็ใช้ไม่ได้ซึ่งมันก็ทำให้ผมโทรไม่ได้และบัตรธนาคารของผมก็หายและโดนอายัด จึงทำให้ผมใช้เงินไม่ได้ *remind ผมเรียนทุกวันที่หมายถึงจันทร์-ศุกร์ และไม่ทราบว่าจะเอาเวลาไหนไปทำธุรกรรมทางการเงินเนื่องจากว่างแค่ช่วงเที่ยงและธนาคารอยู่ค่อนข้างไกล* คราวนี้ผมก็ลำบากเลย เวลาจะใช้เงินต้องใช้ไอแพดที่ใช้เรียนโทรไลน์หาพ่อแม่ ซึงเข้าใจ ว่าบางครั้งพ่อแม่ทำงานเลยไม่ว่าง ทำให้บางครั้งก็ไม่ได้กินข้าวซึ่งตามปกติผมจะไม่ใช้เงินพ่อกับแม่เนื่องจากเป็นนักเรียนทุนและกู้เงินกยศ.เรียนจึงทำให้มีเงินพอใช้ทุกเดือน

แต่แค่ครังนี้ที่เป็นปัญหา

แน่นอนว่าชีวิตมหาลัย การหาเพื่อนที่จริงใจไม่ใช่เรื่องง่าย ผมไม่ค่อยมีเพื่อนมากนัก แต่ผมก็มีเพื่อนในสาขาที่ค่อนข้างสนิทและเป็นรูมเมท พ่อซึ่งทราบว่าผมจอโทรศัพท์พังก็ทำการสั่งจอมาให้ใหม่ ทางแอพชอปปี้ โดยช่องทางการติดต่อเบื้องต้นให้เบอร์โทรศัพท์ของเพื่อนที่เป็นรูมเมท ซึ่ง จอโทรศัพท์ที่สั่งเก็บปลายทาง มันทะลึ่งมาส่งตอนผมกับเพื่อนเข้าห้องสอบไปแล้วเป็นเวลาช่วง13นาฬิกา และก่อนสั่งของพ่อทำการ reccomend ว่า ส่งวันเสาร์อาทิตย์เท่านั้น แต่มันมาส่งวันธรรมดาไง และทำไมต้องเป็นตอนที่สอบพอดี

“หรือผิดที่ผมเรียนคณะที่มันสอบตลอดเวลากันนะ ”

อ่ะ แล้วเพื่อนก็ไม่ได้โทรกลับไปหาขนส่ง อันนี้ไม่อยากว่าเพื่อนเพราะเพื่อนก็อาสาจะรับของแล้วก็จะช่วยเราจ่ายก่อนด้วย คือการที่ผมไม่ได้รับของในครั้งนี้ไม่ได้มองว่ามันเป็นปัญหาแม้แต่นิดเดียวเลย แต่ทำไมผมถึงโดนพ่อต่อว่า ว่าทำไมผมไม่มีเพื่อนต่างคณะ จะได้ฝากของ ทำไมไม่รู้จักสนิทกับยาม หรือป้าที่ขายกับข้าวในโรงอาหารจะได้ฝากเค้าไว้ก่อนได้ หรือทำไมไม่ฝากพนักงานเซเว่น

“แล้ว ถ้าทุกคนคิดแบบนี้เหมือนกันหมดล่ะ“-ผมคิดในใจ คุณลองนึกสภาพว่ากล่องพัสดุมาวางเต็มป้อมยาม ร้านข้าว เซเว่น เนื่องจากมหาวิทยาลัยยังไม่มีมาตรการในการรักษาความปลอดภัยของพัสดุของนักศึกษา เราจึงต้องรับผิดชอบด้วยตนเองโดยการไปรับของที่ขนส่งเอามากอง”แต่ทำไมตรงนั้นไม่มีกล้องวงจรปิดทั้งๆที่เป็นโรงอาหารของมหาลัย“-ผมคิดในใจ แต่เข้าใจได้ เราโตแล้วก็ต้องรับผิดชอบไปรับของด้วยตนเอง ถึงแม้ พนักงานจะชอบยัดเยียดให้ตั้งพัสดุไว้ตรงนั้นก็ตาม และถึงแม้ว่าเราจะว่างแค่ตอนเที่ยงและของมันจะทะลึ่งมาส่งตอนบ่ายก็ตาม

สรุปคือวันนั้นไม่ได้รับจอโทรศัพท์เนื่องจากสอบ *remind ผมไม่ได้มองว่ามันเป็นปัญหาเนื่องจากผมสามารถขับรถมอเตอร์ไซค์ไปเอาของที่สาขาได้*แต่ทำไมผมต้องโดนต่อว่าที่ผมไม่มีเพื่อน ผมค่อนข้างมีเพื่อนเยอะและมีคุณภาพในสมัยมัธยม แต่ไม่ใช่กับมหาวิทยาลัย “เพื่อนพ่อของผมไม่เห็นจะมีพวกที่ใช้การได้เลย มีทั้ง ติดการพนัน ติดเหล้า ติดยา บางคนก็มีดีแค่มาขอยืมเงินพ่อด้วยซ้ำ”-ผมคิดในใจ แต่ทำไม ต้องมาโดนพ่อที่มีแต่เพื่อนแบบนี้ว่าผมว่าผมไม่มีเพื่อน
สรุปคือสิ่งที่ดูไม่ใช่ปัญหาก็กลายเป็นปัญหาได้สรุปการที่ผมไม่มีเพื่อนนั้นเป็นปัญหาของใคร และใช่ครับผมตั้งชื่อกระทู้ไว้อย่างนั้น จริงๆคือเป็นซึมเศร้านิดหน่อย
ผมป่วย เพื่อนสนิทของผมก็ไม่ค่อยมีเพื่อนเหมือนกัน555 เวลาของมาส่งแล้วมันไม่ได้รับ มันก็แค่สั่งใหม่ ไม่เห็นจะยากเลย

“นี่แหละนะ พวกเก่งแต่วิชาการ เข้าสังคมไม่ได้”-คำพูดของพวก haters ที่ด้อยวิชาการ ผมอยากแก้ต่างครับสังคมแต่ละที่ และนิสัยแต่ละคนแตกต่างกันดังนั้นไม่ควรเอาประสบการณ์ส่วนตัวมาตัดสินคนอื่นครับ ถึงแม้ผมจะไม่มีเพื่อน แต่ก็สนิทกับอาจารย์ และพี่นักวิชาการที่ทำงานในมหาลัยหลายคนครับ แต่ถึงกระนั้นจะให้เขามารับของก็ดูไม่สมควรครับ
“แค่นี้ก็มองเป็นปัญหาไปได้”-คำพูดของพวกไม่รู้จักอ่านให้ละเอียด ปัญหาที่แท้จริงของผมนั้นคือการเป็นซึมเศร้า และมีคนที่ไม่เข้าใจชอบว่าผมให้รู้สึกเจ็บใจก็แค่นั้น

“ซึมเศร้าอะไร แค่สำออย”-คำพูดจากคนที่ได้รับการศึกษาไม่เพียงพอ อาการซึมเศร้าเป็นการเปลี่ยนแปลงทางเคมีของสมอง จากการศึกษาทางการแพทย์ สิ่งนี้ค่อนข้างเป็นรูปธรรมพอสมควร คนที่ไม่รู้ หรือพวกไลฟ์โคชที่สักแต่จะพูดไม่มีความรู้ด้านงานวิจัยทางการแพทย์ หรือ idealismเพียงบางกลุ่มมองว่า เป็นเพียงการเปลี่ยนแปลงทางความคิดและ mindset เท่านั้น

สุดท้ายนี้อยากฝากไว้ให้คิด “เพื่อน”สำหรับคุณคืออะไร
*ขอความกรุณาแสดงความคิดเห็นอย่างสร้างสรรค์สำหรับผู้ที่มีวิจารณญาณและมีวิวัฒนาการมาเป็นมนุษย์(Homo sapiens sapiens)และมีพัฒนาการด้านสมองสมบูรณ์เท่านั้น*
-ขอบคุณที่อ่านจนจบครับ-
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่