เครดิตแหล่งข่าว/เจ้าของบทความโดย
https://hilight.kapook.com/view/244840#
ถนนบรรทัดทอง แหล่งของกินตอนกลางคืนสุดฮิปใกล้จุฬาฯ และ mrt คนเดินเยอะมาก ร้านค้าคนแน่น แต่ทำไมร้านยังเจ๊งกันระนาว สาเหตุเกิดจากอะไร บอกเลยกว่าจะคืนทุน ไม่ง่าย !
ถนนบรรทัดทอง ล่าสุดได้กลายมาเป็นแหล่งของกินใหม่ที่กลายเป็ที่ชื่นชอบของเหล่าวัยรุ่น ด้วยความที่อยู่ไม่ไกลจากรถไฟใต้ดิน ของกินอร่อยเพียบ ทั้งอาหารคาว อาหารหวาน และเป็นที่นิยมทั้งในหมู่คนไทยและนักท่องเที่ยว ร้านบางร้านต้องต่อคิวกันยาว
แต่ในขณะเดียวกัน แม้ว่าร้านนี้จะมีคนมาเดินเยอะ โดยเฉพาะตอนกลางคืน จนคนแทบจะลงไปเดินบนถนน แต่กลับมีบางคนที่มาเปิดร้านแล้วประสบภาวะขาดทุน ขายของไม่ได้ ปิดร้านตามๆ กันไป จนทำให้ล่าสุดได้มีคนมาร่วมกันวิเคราะห์ว่า ทำไมนะ บรรทัดทอง ย่านใจกลางเมืองคนเดินเยอะขนาดนี้ ถึงขายของไม่ได้เลย
โดยที่ X. ของ บองเต่า hนักเขียนและผู้บริหารเอเจนซี่คนดัง ได้พูดว่า ตนได้คุยกับเจ้าของร้านอาหารแห่งหนึ่งในย่านบรรทัดทอง และอยากจะฝากคนที่จะมาเปิดร้านอาหารที่นี่ว่า ก่อนที่จะมาลงทุนใด ๆ ควรจะคำนวณ feasibility (ความเป็นไปได้ของโปรเจกต์) ให้ดีก่อน เพราะความโหดของถนนเส้นนี้ คือ ร้านจะมีช่วงเวลาพีคในการขายแค่ 2 ชม. เท่านั้น ร้านอาหารคาวจะขายได้ตอน 19.00-21.00 น. ร้านขนมจะขายได้ตอน 20.00-22.00 น. ดังนั้น ร้านต้องคิดดี ๆ ว่าจะหมุนโต๊ะเพื่อโกยเงินอย่างไร ส่วนเวลากลางวันนั้น แม้ร้านจะเปิดและขายได้ แต่คนน้อยกว่าตอนเย็นเยอะ
คนวิเคราะห์ ร้านถนนบรรทัดทอง เจ๊งเพราะอะไร
เรื่องนี้ทำให้หลายคนมาเล่าประสบการณ์ และร่วมกันวิเคราะห์ ถึงสาเหตุและปัญหาที่ของร้านย่านบรรทัดทอง ที่คนเดินเยอะ แต่ของขายไม่ออก ดังนี้
ค่าเช่า ค่าเซ้งแพง : เนื่องจากย่านนี้เป็นแลนด์มาร์ก ทำเลดี เป็นห้องแถวค้าขายได้ คนก็ให้ความสนใจกันมาก ดันราคาค่าเช่าค่าเซ้งกันไปมาศาล โดยพบว่าค่าเซ้งตึกอาคารพาณิชย์ 2 ห้อง 3 ชั้น อยู่ที่ 8.5 ล้านบาท เงินประกัน 400,000 บาท ได้คืนตอนหมดสัญญา ค่าเปลี่ยนสัญญา 100,000 บาท ส่วนค่าเช่าตึกตกที่หลังละ 48,000 บาท จ่ายตรงกับจุฬาฯ ซึ่งหากใครจะเซ้งไปทำร้านอาหาร ก็ต้องคิดแล่วว่าเท่าไรถึงจะคุ้มทุน 8 ล้าน
การแข่งขันสูง : ที่บรรทัดทอง มีร้านเก่าแก่อยู่เป็นจำนวนมาก แต่ละร้านก็มีลูกคาประจำ มีรีวิวมายาวนาน คนเลยแห่ไปกินร้านเก่า แต่บางครั้งร้านใหม่เปิดมาแล้วเป็นกระแส คนก็แห่ไปต่อคิวร้านใหม่ กลายเป็นบางครั้งร้านเก่าอยู่ยาก ร้านใหม่ก็อยู่ไม่ได้ ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนหน้ากันไปเรื่อย ๆ
ไม่เชี่ยวชาญด้านธุรกิจ : หลายคนชื่นชอบร้านย่านบรรทัดทอง มองว่าเป้นแหล่งของกิน คนเดินเยอะ คิดว่ายังไง ๆ ก็มีคนเข้า แต่พอเอาเงินมาลงจริงกลับไม่ใช่แบบนั้น รสชาติอาหารไม่ดี ราคาแพงอีก คนไปเดินสยามดีกว่า
Traffic น้อย : ในย่านบรรทัดทองจะคึกคักแค่ช่วงเย็นและวันหยุดสุดสัปดาห์เท่านั้น ร้านอาจจะเปิด 10 ชั่วโมง ขายได้จริงคนแน่นแค่ 2 ชม. ดังนั้นการหมุนเวียนโต๊ะให้ลูกค้าได้นั่งจึงจำเป็นมาก ถ้าลูกค้านั่งแช่ไม่ยอมลุกคือจบ และถ้าใน 2 ชม. นั้นขายไม่ได้ ยิ่งแย่เข้าไปอีก
เรียกได้ว่าการทำร้านอาหาร ไม่ว่าจะย่านไหน ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสักนิด ก่อนจะลงทุนทำธุรกิจ อาจต้อคิดวิเคราะห์กันยาว ๆ
ย่านบรรทัดทอง คนเดินเยอะมาก แต่ทำไมร้านอาหารเจ๊งระนาว ?
https://hilight.kapook.com/view/244840#
ถนนบรรทัดทอง แหล่งของกินตอนกลางคืนสุดฮิปใกล้จุฬาฯ และ mrt คนเดินเยอะมาก ร้านค้าคนแน่น แต่ทำไมร้านยังเจ๊งกันระนาว สาเหตุเกิดจากอะไร บอกเลยกว่าจะคืนทุน ไม่ง่าย !
ถนนบรรทัดทอง ล่าสุดได้กลายมาเป็นแหล่งของกินใหม่ที่กลายเป็ที่ชื่นชอบของเหล่าวัยรุ่น ด้วยความที่อยู่ไม่ไกลจากรถไฟใต้ดิน ของกินอร่อยเพียบ ทั้งอาหารคาว อาหารหวาน และเป็นที่นิยมทั้งในหมู่คนไทยและนักท่องเที่ยว ร้านบางร้านต้องต่อคิวกันยาว
แต่ในขณะเดียวกัน แม้ว่าร้านนี้จะมีคนมาเดินเยอะ โดยเฉพาะตอนกลางคืน จนคนแทบจะลงไปเดินบนถนน แต่กลับมีบางคนที่มาเปิดร้านแล้วประสบภาวะขาดทุน ขายของไม่ได้ ปิดร้านตามๆ กันไป จนทำให้ล่าสุดได้มีคนมาร่วมกันวิเคราะห์ว่า ทำไมนะ บรรทัดทอง ย่านใจกลางเมืองคนเดินเยอะขนาดนี้ ถึงขายของไม่ได้เลย
โดยที่ X. ของ บองเต่า hนักเขียนและผู้บริหารเอเจนซี่คนดัง ได้พูดว่า ตนได้คุยกับเจ้าของร้านอาหารแห่งหนึ่งในย่านบรรทัดทอง และอยากจะฝากคนที่จะมาเปิดร้านอาหารที่นี่ว่า ก่อนที่จะมาลงทุนใด ๆ ควรจะคำนวณ feasibility (ความเป็นไปได้ของโปรเจกต์) ให้ดีก่อน เพราะความโหดของถนนเส้นนี้ คือ ร้านจะมีช่วงเวลาพีคในการขายแค่ 2 ชม. เท่านั้น ร้านอาหารคาวจะขายได้ตอน 19.00-21.00 น. ร้านขนมจะขายได้ตอน 20.00-22.00 น. ดังนั้น ร้านต้องคิดดี ๆ ว่าจะหมุนโต๊ะเพื่อโกยเงินอย่างไร ส่วนเวลากลางวันนั้น แม้ร้านจะเปิดและขายได้ แต่คนน้อยกว่าตอนเย็นเยอะ
คนวิเคราะห์ ร้านถนนบรรทัดทอง เจ๊งเพราะอะไร
เรื่องนี้ทำให้หลายคนมาเล่าประสบการณ์ และร่วมกันวิเคราะห์ ถึงสาเหตุและปัญหาที่ของร้านย่านบรรทัดทอง ที่คนเดินเยอะ แต่ของขายไม่ออก ดังนี้
ค่าเช่า ค่าเซ้งแพง : เนื่องจากย่านนี้เป็นแลนด์มาร์ก ทำเลดี เป็นห้องแถวค้าขายได้ คนก็ให้ความสนใจกันมาก ดันราคาค่าเช่าค่าเซ้งกันไปมาศาล โดยพบว่าค่าเซ้งตึกอาคารพาณิชย์ 2 ห้อง 3 ชั้น อยู่ที่ 8.5 ล้านบาท เงินประกัน 400,000 บาท ได้คืนตอนหมดสัญญา ค่าเปลี่ยนสัญญา 100,000 บาท ส่วนค่าเช่าตึกตกที่หลังละ 48,000 บาท จ่ายตรงกับจุฬาฯ ซึ่งหากใครจะเซ้งไปทำร้านอาหาร ก็ต้องคิดแล่วว่าเท่าไรถึงจะคุ้มทุน 8 ล้าน
การแข่งขันสูง : ที่บรรทัดทอง มีร้านเก่าแก่อยู่เป็นจำนวนมาก แต่ละร้านก็มีลูกคาประจำ มีรีวิวมายาวนาน คนเลยแห่ไปกินร้านเก่า แต่บางครั้งร้านใหม่เปิดมาแล้วเป็นกระแส คนก็แห่ไปต่อคิวร้านใหม่ กลายเป็นบางครั้งร้านเก่าอยู่ยาก ร้านใหม่ก็อยู่ไม่ได้ ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนหน้ากันไปเรื่อย ๆ
ไม่เชี่ยวชาญด้านธุรกิจ : หลายคนชื่นชอบร้านย่านบรรทัดทอง มองว่าเป้นแหล่งของกิน คนเดินเยอะ คิดว่ายังไง ๆ ก็มีคนเข้า แต่พอเอาเงินมาลงจริงกลับไม่ใช่แบบนั้น รสชาติอาหารไม่ดี ราคาแพงอีก คนไปเดินสยามดีกว่า
Traffic น้อย : ในย่านบรรทัดทองจะคึกคักแค่ช่วงเย็นและวันหยุดสุดสัปดาห์เท่านั้น ร้านอาจจะเปิด 10 ชั่วโมง ขายได้จริงคนแน่นแค่ 2 ชม. ดังนั้นการหมุนเวียนโต๊ะให้ลูกค้าได้นั่งจึงจำเป็นมาก ถ้าลูกค้านั่งแช่ไม่ยอมลุกคือจบ และถ้าใน 2 ชม. นั้นขายไม่ได้ ยิ่งแย่เข้าไปอีก
เรียกได้ว่าการทำร้านอาหาร ไม่ว่าจะย่านไหน ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสักนิด ก่อนจะลงทุนทำธุรกิจ อาจต้อคิดวิเคราะห์กันยาว ๆ