เมื่อช่วงเดือนที่แล้ว ตอนที่ฝุ่น PM 2.5 หนักๆ และอากาศเย็น เราเปิดหน้าต่างนอนตลอดเวลา
และเริ่มรู้สึกเหมือนจะไม่สบาย มีอาการเจ็บคอ ไอแห้งๆ และในลำคอเหมือนมีเม็ดเล็กๆ ทำให้ระคายเคือง

แต่พอผ่านไปไม่กี่วัน เริ่มรู้สึกว่าไอเยอะขึ้น และในคอเหมือนได้กลิ่นคาวเลือด
และเริ่มรู้สึกหายใจไม่เต็มปอด หายใจมีเสียงวี้ดๆ หายใจไม่อิ่ม และเหนื่อยง่าย
อาการนี้เป็นเหมือนตอนที่เป็นโควิดรอบแรกแล้วเชื้อลงปอดเลย  

ขณะที่นั่งทำงานอยู่ เราเริ่มรู้สึกไม่ไหว เพราะไอจนเหนื่อย หายใจเริ่มหอบ ก็เลยลางานไปหาหมอ

แถวที่ทำงาน อยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าสายสีเหลือง สถานีศรีนครินทร์ 38
เลยเราเดินขึ้นไปบันไดเลื่อน ไปสถานี เพื่อที่จะไปหาหมอที่โรงพยาบาลวิภาราม พัฒนาการ
ซึ่งตรงนั้นจะเป็นสถานีหัวหมาก

ตอนที่ขึ้นบันไดเลื่อนไม่เท่าไหร่
แต่พอจะเดินไปสถานี เพื่อซื้อบัตร เรามีอาการรู้สึกหน้าผากเริ่มเย็น เหงื่อไหล
เดินไม่ไหวเพราะหายใจหอบ 

เจ้าหน้าที่ผู้หญิงสังเกตุเห็นอาการเรา เลยรีบวิ่งมาหา เพื่อช่วยพยุง
ตอนนั้นเราหน้าซีด และมือเย็นแล้ว

เจ้าหน้าที่พาเราไปนั่ง หาแอมโมเนียให้ดม และจัดการซื้อบัตรโดยสารให้
และเมื่อเราอาการดีแล้ว จึงพาเราขึ้นไปชั้นบน เพื่อขึ้นรถไฟฟ้า และอยู่เป็นเพื่อนเราจนกระทั่งรถไฟฟ้ามา
พอไปถึงสถานีหัวหมาก อาการเริ่มดีขึ้น จนนั่งพี่วินไปโรงพยาบาลต่อได้

หมอตรวจอาการ x-ray ปอด สรุปแล้วเรามีอาการหลอดลมอักเสบ ต้องกินยา

เราเลยตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา เพื่ออยากขอบคุณเจ้าหน้าที่ผู้หญิงบนสถานีรถไฟฟ้าสายสีเหลือง สถานีศรีนคริทร์ 38 ที่ช่วยเหลือเรา
ถ้าไม่มีเจ้าหน้าที่เห็น เราอาจจะแย่กว่านี้ เพราะตรงสถานีเงียบ ตอนนั้นยังไม่มีผู้โดยสารเลย

ขอขอบคุณอีกครั้งจากใจค่ะ


เพื่อนๆ เคยมีประสบการณ์จะเป็นลมบนรถไฟฟ้า หรือประสบการ์ที่มีคนใจดีมาช่วย
มาร่วมแชร์กันนะคะ