เริ่มต้นเรื่อง คือเราสั่งของออนไลน์ให้ลงที่หอพัก สถานะพัสดุ ก็ขึ้นว่าจัดส่งสำเร็จ กลับจากทำงานเราเลยกะจะแวะที่โต๊ะรับพัสดุเหมือนเคย...แต่มันไม่มีพัสดุเราเลยค่ะ เดินเช็คแล้วเช็คอีกก็ไม่มี เราเลยคิดว่า คงจะมีคนหยิบผิดไป เดี๋ยวเขาก็คงเอามาคืน
....ผ่านไปวันที่2 ก็ยังไม่มีคนนำพัสดุเรามาไว้ที่โต๊ะ เลยให้นิติหอ ช่วยเช็คกล้องวงจรปิด ( กล้องวงจรปิดส่องตรงโต๊ะพอดี) นิติกลับบอกว่า ไม่มีใครหยิบไป...แต่ก็ไม่มีของเช่นกัน ช่วงเย็นเราเลยเข้าไปดูกล้องเอง พบว่ามีคนในหอหยิบพัสดุของเราไป พร้อมกับ พัสดุอีกกล่อง เราเลยถ่ายคลิปเอาไว้ และให้นิติ ทักไปถามเขาว่าได้หยิบพัสดุผิดไปไหม เจ้าของห้องหมายเลขนั้น ก็ยังปฎิเสธ และเงียบหายไป 

โดยขณะที่เราเช็คกล้องวงจรปิด น้องผู้หญิงอีกคน ก็มีพัสดุหายเช่นกัน ซึ่งพัสดุชิ้นนั้น ก็เป็นพัสดุที่นางสาว A (นามสมมุติ) หยิบไป เราก็ เห้ย มันไม่ใช่แล้ว สองกล่องที่เขาหยิบไป ไม่มีพัสดุของเขาเลยสักชิ้น มันแปลกมาก  เราเลยทักไปขอข้อมูลนางสาวA เพื่อจะลงบันทึกประจำวันไว้ก่อน เพราะมันไม่ปกติแล้วค่ะ แต่ทางหอพักไม่ให้ความร่วมมือ แจ้งว่าเป็นระเบียบหอ และบอกเราว่า เขาจะเอาพัสดุเรามาคืนในวันต่อมา เราเลยแจ้งไปว่า พัสดุของเราต้องไม่ถูกแกะ และมาในสภาพ100% พร้อมกับต้องการให้ทางหอเอาคนประเภทนี้ออกไป (ซึ่งหลักฐานมันชัดมาก ว่าเขาตั้งใจหยิบพัสดุของคนอื่นไปถึง2ชิ้น หลีกเลี่ยงการตอบแชท ถ้าคนเราไม่ได้ทำผิดก็ต้องมีปฎิกิริยา รีบแสดงความบริสุทธิ์ใจ) เมื่อไม่มีความคืบหน้าเราเลย ไปแจ้งความ พร้อมกับนำหลักฐานทุกอย่างไปให้ทางตำรวจ (เราแค่ต้องการแจ้งความไว้ก่อน เผื่อปกป้องตัวเอง)

ซึ่งไคลแม็กซ์ อยู่ตรงนี้ค่ะ ทางตำรวจได้ประสานงานโทรไปยังเจ้าของหอพัก แต่เจ้าของหอพักกลับต่อว่าเราผ่านตำรวจต่างๆนาๆ ใช้คำว่าเรื่องแค่นี้ ยังต้องแจ้งความ เราเยอะเกินไปแล้ว หลังจากเรากลับจากสถานีตำรวจ เจ้าของหอก็ได้โทรมาหาเรา ต่อว่าเราเหมือนที่คุยกับทางตำรวจ โมโหที่เราไปแจ้งความ พร้อมกับยกสัญญาหอเราทันที! เราก็ยัง งงๆมึนๆ โดนขโมยของ แต่กลับ ต้องโดนออกจากหอ เหมือนตัวเองเป็นคนผิด 

และวันต่อมา นางสาวA ก็ได้นำของๆเรามาคืนกับนิติ ไม่มีกล่องพัสดุ มีแค่ถุง และถุงที่ใส่มาก็ไม่ใช่ของทางร้าน(เราเช็คกับทางร้าน ติดต่อกันอยู่ตลอด ตั้งแต่เกิดเรื่อง) สรุปคือพัสดุเราถูกแกะตั้งแต่กล่อง ยันของข้างใน ไม่มีคำขอโทษ จากทั้งนางสาวA หรือทางหอพักทั้งสิ้น แถมเราที่เป็นผู้เสียหายยังโดนยกเลิกสัญญาหอพักอีก 

ยอมรับค่ะ ว่าในระหว่างนั้นอารมมณ์เราก็ขึ้นๆลงๆ เพราะทีแรกนางสาว A นั่งยันนอนยันบอกไม่ได้หยิบของไป จนเราขู่ว่าจะไปแจ้งตำรวจ ถึงจะยอมเอาของมาคืน อ้างว่า ‘ของที่หยิบไป เป็นของน้องสาวฝากส่งที่หอ ตนเป็นคนหยิบเลยดูของไม่ดี’ / ทุกอย่างคุยกันผ่านนิติหมด เพราะนิติไม่ให้เราเจอนางสาว A 

เพิ่มเติม 
ค่ามัดจำหอ 8000 บาท หัก ค่าห้อง ค่าน้ำ ค่าไฟ ทอนให้เรา 900 กว่าบาท แถมมีค่าเก็บสีระเบียง 800บาท เจ้าของแจ้งว่าทำแบบนี้ทุกห้อง ปัญหาคือเกิดจากแสงแดด เพราะห้องเราระเบียงรับแดดเต็มๆ พูดง่ายๆ แดดเลียค่ะ เราแทบไม่ได้ใช้ระเบียง เพราะตากผ้าก็อบผ้าแล้วแขวนใส่ตู้ตลอด แต่ผู้เช่าต้องรับผิดชอบในส่วนนี้) 
เราก็รับเงินมาจบๆค่ะ ถือว่าทำบุญ ไป เงินทอยน 900 ที่เขาทอนมา เราก็เอาไปทำบุญค่ะ ถือว่าล้างซวย

กระทู้นี้ขอเตือนภัยค่ะ 
เพราะเราอยู่หอมาตั้งแต่มหาลัย ไม่เคยมีปัญหากับหอ รวมถึงตอนทำงาน เจ้าของหอทุกคนน่ารัก อัธยาศัยดี และแฟร์มาก
ยกเว้นหอนี้ ภายนอกดูดีมาก น่าอยู่ ร่มรื่น สมบูรณ์แบบ ในเพจเอารูปสวยๆลง ซึ่งไม่รู้ว่าเซ็ทฉากหรือถ่ายไว้สมัยไหน ความเป็นจริงภายในห้องมีแต่ของผุพัง เตียงแค่นั่งก็โยก พร้อมพังทุกอย่าง แจ้งซ่อมอะไรก็ไม่ได้เรื่อง ใครจะดูหอพักนี้แนะนำให้เข้าไปดูห้องก่อนทำสัญญาหอนะคะ เคสเราเจ้าของหอบอกห้องเต็ม เราเลยไม่ได้เข้าไปดูห้องก่อนเซ็นสัญญา ห้องไม่ตรงปกสุดๆ จะบอกว่าหอนี้ ห้องไม่เคยเต็มค่ะ คนย้ายออกตลอดค่ะ 

ขอบคุณทุกท่านที่อ่านจนจบนะคะ