เราจะซื้อ ThaiESG และ ThaiESGX อย่างละ3แสนบาท โดย ( ส่วนLTF ขายทิ้งตั้งแต่ต้นปีแล้วค่ะ) 1.ชำระด้วยบัตรเครดิต แม้จะไม่ได้point แต่ก็ได้ยอดใช้จ่าย(ไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมรายปี) แถมยืดเครดิตการจ่ายได้ด้

ส่วน LTF ที่ครบกำหนดเราขายเกลี้ยงแล้วนะคะ ( ขายตั้งแต่เปิดปีใหม่ 2568 วันแรกเลย ) ปีนี้ไม่เน้นกำไรค่ะ ขอให้ลดหย่อนภาษี 30%ได้คุ้มๆก็พอแล้วค่ะ อย่าได้เข้าเนื้อเข้าทุนแบบLTF เลย หักกลบลบหนี้เสร็จ แทบจะ

เงินไหลออกจาก หุ้นไทย เข้า ตราสารหนี้ เงินดิจิตอล ทางออกคือต้องหนีไปยังที่เงินไหลเข้า RMFของเราตอนนี้ กองทั้งกองอยู่ที่ตราสารหนี้พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย บวกตลอดๆ แค่นี้นะ พูดมากเดี๋ยวโดนยึดอีกล๊อ

พอดีสนใจพันธบัตรตัวใหม่ที่รัฐ ออก และ กองทุนrmfในตราสารหนี้เพื่อหักภาษี ช่วงนี้ควรซื้อตัวไหนดีครับ

คืออยากทราบว่า การปรับโครงสร้างหนี้ เท่ากับ เราได้เริ่มจ่ายหนี้ใหม่หมดเลยหรอคะ พอดีพึ่งได้ทำการปรับไปเมื่อวันที่ 27 เมษายน แล้วในสัญญาคือให้เราจ่ายไม่ต่ำกว่า 1,080 บาท เป็นระยะเวลา 180 เดือน เราคำนวณแ

ปัจจุบันเลือกแผน ตราสารหนี้ 10 % ตราสารทุนในประเทศ 20% และตราสารทุนต่างประเทศ 70% ​ช่วง ม.ค. - มี.ค. 68 ที่ผ่านมา ผลการดำเนินการกองทุนยัง +3% แต่พอเจอนโยบายภาษี usa ผลประกอบการร่วงมา -11 % ควรจะเปลี

ควรซื้อทางไหนประหยัดค่าธรรมเนียมสุดคะ

ต้องการลงทุนRMF เพื่อลดหย่อนภาษี แต่ต้องการลงในพันธบัตรรัฐบาล (ไม่อยากลงในกองตราสารหนี้เอกชน) ลงกองไหนดีครับ รบกวนเพื่อนๆแนะนำหน่อยนะครับ

ถือกองทุน พันธบัตรรัฐบาล(SCBRM2) กับตราสารหนี้ระยะสั้น(SCBRM1). มีผลตอบแทนดังนี้ SCBRM2. YTD=+0.72%. 1Y=+2.25% SCBRM1. YTD=+0.35%. 1Y=+1.69% ตามหลักการตราสารหนี้มีความเสี่ยงสูงกว่าพันธบัตรรัฐบาลจึงน่า