ความสัมพันธ์ฉันและเธอ ไทย เมียนม่า ที่เริ่มจะไปกันต่อได้ยากทุกที

จากทีเคยเป็นศัตรูสู่มิตรประเทศ เราไม่เคยลืมเพื่อนที่เข้ามาหาโอกาสแรงงานงานเป็นเสาค้ำเศรษฐกิจไทย และเป็นแหล่งพลังงานก๊าซธรรมชาติไฟฟ้าส่องสว่างบ้านเรา สินค้าอุปโภคบริโภค วัสดุก่อสร้างที่ส่งออกข้ามชายแดน 
     มาถึงวันนี้เหมือนเพื่อนบ้าน(คนสุดท้าย)จะต้องให้มีเหตุให้เย็นชาเปลี่ยนแปลงไป หันมาทำร้ายกัน ทั้งผู้อพยพลี้ภัยที่ประเทศไทยต้องแบกรับ แรงงานเมียนม่าทะลักเข้ามาเกินควบคุม ใช้ไทยเป็นฐานต่อต้านรัฐบาล ความไม่สงบสู้รบ อาวุธสงครามตามแนวชายแดน เป็นฐานแก็งคอลเซ็นเตอร์หลอกเงินพี่น้องชาวไทยเน็ตไทยอีกตั้งหาก ผลิตยาเสพติดแบบ เปิดอัลติเมทสกิล  เข้าถึงทุกวงการ ทุกชุมชน ทุกกลุ่มคนในการทำลายโครงสร้างสังคมไทยตั้งแต่ฐานราก ดังจะเห็นจากข่าวพ่อฆ่า ลูกฆ่าพ่อแม่ จนรู้สึกชินชากันไปหมดแล้ว ยังไม่หนำใจได้กำไรก็ซื้ออาวุธมารุกล้ำดินแดนไทย (ก็แค่เพื่อนล้ำสนามหญ้าไม่เราเป็นไร แต่เราลำ้ไปเขายิงจริง) 
     อาจจะจริงอยู่ว่าเมียนม่ามีหลายกลุ่มชาติพันธุ์ ที่แตกต่างกัน แต่เราเองที่ยึดหลักเมียนม่าเดียว ไม่ได้มีสัมพันระดับรัฐกับทุกกลุ่ม มันทำให้ยากในการรักษาดุลยภาพ และนโยบายการต่างประเทศ เราต้องทนสภาพแบบนี้ไปอีกนานเท่าไร่ ทำหนังสือประท้วงอย่างนี้ตลอดไปหรืออย่างไร สุดท้ายมันก็ต้องแตกหัก ไปต่อกันไม่ได้ เราก็ต้องทำเหมือนที่ประเทศข้างสงครามเขาทำกัน คือ สนับสนุนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งที่มีอนาคตในเมียนม่ารบกันให้ชนะเด็ดขาดไปเลย ผลักดันผู้อพยพ ปัญหาเขตแดนก็คุยกันด้วยกระสุนปืนใหญ่ ยาเสพติดก็เลิกจับเป็นพิธีออกจากคุกมาขายต่อ จัดการให้เด็ดขาด แก็งคอลเซ็นเตอร์ก็จัดการเองบ้างไม่ต้องรอให้จีนมาสั่ง หรือปัญหาทั้งหมดนี้จะไม่สามารถแก้ได้เลยในยุคของเรา ด้วยระบบราชการ ที่โยนกันไปโยนกันมา ผู้ที่เหมือนจะมีหน้าที่ก็ไม่มีอำนาจจริง เป็นซะอย่างนั้น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่