เท้ง นำทีมแต่งขาว ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ลำพูน จ่อนำองค์ความรู้คณะก้าวหน้า เดินหน้าทำน้ำประปาดื่มได้
https://www.matichon.co.th/politics/news_5031363
 
 
‘เท้ง’ นำคณะแต่งขาว ไหว้ ‘พระนางจามเทวี-พระธาตุหริภุญไชย’ แต่เช้า ขอบคุณชาวลำพูน แย้ม 1-2 เดือนเตรียมเลย ขนคน ปชน.-องค์ความรู้คณะก้าวหน้า จัด ‘น้ำประปาดื่มได้’ ยันทำงานได้กับทุกฝ่าย
 
เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ที่ จ.ลำพูน นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน พร้อมด้วย นายวีระเดช ภู่พิสิฐ ว่าที่นายก อบจ.ลำพูน นำคณะลงพื้นที่ขอบคุณประชาชนจังหวัดลำพูนตั้งแต่ช่วงเช้า ภายหลังมอบความไว้วางใจให้ชนะเลือกตั้งเป็นอันดับหนึ่ง โดยทุกคนใส่ชุดสีขาวไหว้พระธาตุหริภุญไชยและอนุสาวรีย์พระนางจามเทวี
 
โดยนายณัฐพงษ์กล่าวว่า รู้สึกดีและขอบคุณพ่อแม่พี่น้องชาวจังหวัดลำพูนที่พรรคประชาชนได้ชนะเลือกตั้ง วันนี้จะมาส่งต่อความมุ่งมั่นตั้งใจ หลังจากนี้เราพร้อมที่จะพัฒนาจังหวัดลำพูน เราจะวางแผนร่วมงานกันตั้งแต่วันแรก ถึงแม้ กกต.ยังไม่ได้รับรองตำแหน่ง โดยจังหวัดลำพูนยังมีปัญหาหลายเรื่อง เช่น ไฟป่า น้ำกัดเซาะตลิ่ง การพัฒนาสวนสาธารณะของจังหวัด นอกจากนี้ยังมีหลายจุดที่อยู่นอกรัศมีของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล (รพ.สต.)
 
นายณัฐพงษ์กล่าวย้ำว่า เรื่องหลักการกระจายอำนาจ ท้องถิ่นต้องมีอิสระของตนเอง เชื่อว่าทีมงานพรรคประชาชนพร้อมทำงานกับทุกฝ่าย ทางฝั่งเราไม่ได้ติดขัดอะไร ส่วนฝั่งตรงข้าม เชื่อว่าหากมีปัญหาเราก็สามารถพูดคุยกันได้
 
ส่วนที่มีคนทวงถามถึงนโยบายน้ำประปาดื่มได้ นายณัฐพงษ์ระบุว่า ต้องเรียนตามข้อเท็จจริงว่าน้ำประปาดื่มได้อยู่ในระดับการบริหารงานของเทศบาล เป็นหน้าที่ที่เราต้องไปประสาน และ อบจ.สามารถให้เงินอุดหนุนได้ เรามีนักนโยบายที่เคยทำน้ำประปาดื่มได้สำเร็จมาแล้วหลายที่ ภายในช่วง 1-2 เดือนนี้ จะนำทีมงานจากพรรคประชาชน รวมถึงองค์ความรู้จากคณะก้าวหน้ามาที่จังหวัดลำพูน

---

กลุ่มส.ว.สำรอง ขนเต่าปลอมขี่สเก็ตบอร์ด บุกกกต. ทวงถามคืบหน้า เรื่องร้องเรียน ซัดกว่า 8 เดือนยังไม่คืบ
https://www.matichon.co.th/politics/news_5031458

กลุ่มส.ว.สำรอง ขนเต่าปลอมขี่สเก็ตบอร์ด บุกกกต. ซัดกว่า 8 เดือนยังพิจารณาคำร้องไม่คืบ
 
เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กลุ่ม ส.ว.เพื่อประชาชน ที่อยู่ในบัญชี ส.ว.สำรอง รวมกลุ่มกันแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ถึงความเชื่องช้า เข้าทวงถามความคืบหน้าในการตรวจสอบคำร้องให้ตรวจสอบ คุณสมบัติผู้สมัคร ส.ว. การจัดการเลือกตั้ง ส.ว.ที่ไม่สุจริตและเที่ยงธรรม จำนวน 570 เรื่องร้องคัดค้าน เพราะเห็นว่าผ่านมา 8 เดือนแล้ว โดย พล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว ซึ่งมีชื่อในบัญชี ส.ว.สำรอง ระบุว่า มีการทวงถาม กกต.มาโดยตลอด ได้คำตอบแค่ว่า กำลังดำเนินการ โดย 200 กว่าเรื่องยุติการตรวจสอบ ส่วนเรื่องที่เหลืออยู่ 300 เรื่อง กับเวลาอีกแค่ 90 กว่าวัน ไม่รู้ว่า กกต.จะสามารถทำให้เกิดความสุจริตและเที่ยงธรรมได้หรือไม่ “เราเอาหลักฐานเป็นพยานบุคคล พยานต่างๆ มาป้อน กกต.อย่างล้นเหลือ เราได้ทวงถามมาโดยตลอด ได้คำตอบเพียงว่าอยู่ระหว่างดำเนินการ จึงไม่มั่นใจว่า กกต.จะใช้เวลาที่เหลืออยู่ไม่ถึง 90 วัน ดำเนินการได้อย่างสุจริตและเที่ยงธรรมหรือไม่ เรื่องเหล่านี้ไม่น่ายืดเยื้อมาถึงตรงนี้เลย
 
พล.ต.ท.คำรบกล่าวว่า เรื่องนี้ส่งผลไปถึง ส.ว.ที่ได้รับรองในสภา เห็นได้ชัดว่า ส.ว. ในสภาล้วนแล้วแต่ชัดเจนว่ามาจากคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ซึ่งจะส่งผลต่อการพิจารณากฎหมายและแต่งตั้งกรรมการในองค์กรอิสระในอนาคตที่อาจจะไม่เป็นอิสระอีกต่อไป ซึ่งมันจะเป็นอันตรายต่อระบอบประชาธิปไตย จึงเรียกร้องให้ กกต. ได้กระวีกระวาด เพราะเราลงความเห็นกันว่า กกต.ดำเนินการล่าช้า เหมือนเต่าเดิน หาก กกต.ทำไม่ได้ ขอให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เป็นคนตรวจสอบและดำเนินคดีแทน ซึ่งทางกลุ่มจะไปดีเอสไอภายในสัปดาห์หน้า
 
ผู้สื่อข่าวรายว่า ในระหว่างการแถลงข่าว กลุ่มคณะ ส.ว.สำรองได้นำรูปปั้นเต่าวางบนสเก็ตบอร์ด เพื่อเป็นเชิงสัญลักษณ์ว่า กกต.ทำงานด้วยความล่าช้าในการตรวจสอบเรื่องร้องเรียนต่างๆ พร้อมชูป้ายข้อความ “ทุกคนรู้ โลกรู้ กกต.ไม่รู้” “ตรวจสอบเลือก ส.ว.ทุจริตและเที่ยงธรรม กี่โมง” รวมถึงข้อความ “กกต.ทำไม่ได้ ให้ DSI ทำเถอะ” โดยทางกลุ่ม ส.ว.สำรองระบุจะให้เวลา กกต. 1 สัปดาห์ในการตรวจสอบ หากไม่มีการเคลื่อนไหวก็จะยกระดับการขับเคลื่อนเพิ่มขึ้น โดยหวังว่า กกต.จะรับลูกและทำการตรวจสอบ เพราะที่ผ่านมาดำเนินการค่อนข้างล่าช้า

---

หุ้นไทยปิดเช้าดิ่งหนักลบ 24.46 จุด ปรับลงตามภูมิภาค ขายหุ้นใหญ่ลดเสี่ยง กังวลสงครามการค้า
https://siamrath.co.th/n/598495
 
หุ้นไทยปิดเช้าดิ่งหนักลบ 24.46 จุด ปรับลงตามภูมิภาค ขายหุ้นใหญ่ลดเสี่ยง กังวลสงครามการค้า "ทรัมป์"
 
เมื่อวันที่ 3 ก.พ.68 SET ปิดเช้าที่ 1,290.04 จุด ลดลง 24.46 จุด (-1.86%) มูลค่าซื้อขาย 33,384 ล้านบาท การซื้อขายช่วงเช้าดัชนีปรับตัวลงตามตลาดหุ้นภูมิภาค โดยทำระดับต่ำสุด 1,270.87 จุด และสูงสุด 1,296.07 จุด
 
นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ กรรมการผู้จัดการ สายงานค้าหลักทรัพย์ บล.บัวหลวง กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงเช้าที่ผ่านมาปรับตัวลงตามตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ปรับตัวลดลงตามกัน จากการที่ประธานาธิบดีสหรัฐเดินหน้ากดดันคู่ค้าหลัก ซึ่งได้ทำมาตรการกีดกันทางการค้าโดยเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากเม็กซิโกและแคนาดา 25% และเพิ่มภาษีนำเข้าสินค้าจีน 10% ซึ่งถือว่าเร็วกว่าที่ตลาดคาด ทำให้เป็นปัจจัยที่กดดันต่อตลาดหุ้นในวันนี้ โดยเฉพาะตลาดหุ้นในเอเชีย ขณะเดียวกันยังคงไม่มีปัจจัยหนุนอื่น ๆ ที่เข้ามาหนุนต่อดัชนี และยังเผชิญกับแรงขายลดความเสี่ยงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะแรงขายหุ้นขนาดใหญ่ที่มีการขายออกมากดดันดัชนี ทำให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยช่วงเช้าวันนี้ปรับตัวลงแรง
 
แนวโน้มตลาดหุ้นไทยในช่วงบ่ายคาดว่าแกว่งตัวแดนลบต่อ แต่อาจมีการลดช่วงลบน้อยลงได้ เนื่องจากดัชนีปรับตัวลงมาค่อนข้างมาก ทำให้อาจมีการทยอยซื้อกลับบางส่วน โดยให้แนวต้าน 1,300 จุด แนวรับ 1,280 จุด
 
หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
 
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 3,695.59 ล้านบาท ปิดที่ 51.25 บาท ลดลง 0.75 บาท
DELTA มูลค่าการซื้อขาย 2,094.21 ล้านบาท ปิดที่ 123.00 บาท ลดลง 3.00 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,881.72 ล้านบาท ปิดที่ 158.00 บาท ลดลง 2.50 บาท
KTB มูลค่าการซื้อขาย 1,192.36 ล้านบาท ปิดที่ 22.80 บาท ลดลง 0.10 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,156.44 ล้านบาท ปิดที่ 30.75 บาท ลดลง 0.75 บาท
 
#หุ้นไทย #ข่าววันนี้ #สงครามการค้า #ทรัมป์ #SET #สยามรัฐออนไลน์ #สยามรัฐ