เรื่องของเรื่องคือ เราย้ายเข้ามาเช้าอยู่ในหมู่บ้าน
เป็นบ้านเดี่ยวค่ะ ***ตั้งแต่ตอนเข้ามาดูบ้าน ครั้งแรกก็คืองง ข้างบ้านถือวิสาสะ ตัดกุญแจรั่ว เอารถยนต์มาจอดในรั่วบ้านที่เราจะมาเช่าอยู่ และกำแพงรั้วที่ติดกัน ก็เหมือนโดนทุบ แล้วข้างบ้านก็เอาของต่างไปนานา เข้ามาวางในบ้านที่เราจะเข้ามาเช่า เหมือนครอบครองแบบปรปักษ์ เจ้าของบ้านที่จะมาเช่าก็งง ว่าทำไมถึงทำแบบนี้ หรือเห็นว่าบ้านไม่มีใครอยู่3-4 ปี จนเขารู้ว่าจะมีคนมาก็มาเครียของออกให้
แต่อยู่มาพักนึง ที่บ้านเรานั่งกินสังสรรค์กันหลังบ้าน เขามาเกาะรั้วบอกว่าให้เบาเสียง บ้านเขามีเด็กลูกเขาต้องไปรร. คือเราก็เบา ทั้งที่ไม่ได้ดังมาก และก็แค่2 ทุ่มเอง เราก็บอกขอโทษด้วยนะค่ะ ก็จบ ...
แต่พอเราบอกเขาเรื่องซักผ้า คือเขาซัก 4ทุ่ม 5ทุ่ม บางที หลังเที่ยงคืนก็ซัก แล้วเป็นเครื่องซักผ้าแบบ2ดัง คือเสียงมันดังแบบเครื่องจะปั่นไม่ไหว แบบใส่ผ้าเลยอะ แล้วคือ ห้องลูกเราซึ่งเป็นเด็ก 8ขวบ ห้องนอนอยู่ทางเครื่องซักผ้าบ้านนั้น พอบอกไป คำตอบที่ได้มา **ไม่เกี่ยวกันบ้านใครบ้านมัน เขาจะทำอะไรก็ได้ แฟนเราเลยโมโห บอกที่บอกเราตอน2ทุ่มว่าดังเราก็หยุดให้ แต่กลับเครื่องซักผ้าเขาคือเป็นแบบนี้ทุกคืน ก็เลยเถียงกันไปมา แต่คำพูดที่ได้ยินมา คือแย่เนอะ ** บ้านกุกุจะทำไรก็ได้ กุซักที่บ้านกุ มาอยู่ที่หลังอย่าเรื่องเยอะ *** หลังจากนั้นเลยเถียวกันยุพักใหญ่ แถมยังมาขู่เราว่า อย่ามามีเรื่องกับบ้านเขาดีกว่า แต่เหมือนลูกชายที่เป็นวัยรุ่นอีกคนของบ้านนั้นเห็น ว่าบ้านเราติดกล้องวงจรปิด เก็ได้ทุกคำพูด เลยถอยไป ... ตั้งแต่ทะเลาะกันวันนั้นก็ยัง เหมือนเดิม ** คืออยากรู้ว่า มันเกี่ยวมั้ยที่ใครจะมา ก่อนมาหลัง แต่คำว่า มารายาทของการอยู่ร่วมกันเขาไม่เคยมีเลย ไม่รู้จะแก้ไขยังไง เบื่อมากค่ะ
เพื่อนบ้านซักผ้า ยามวิกาล ปัญหาที่แก้ไม่หาย
เป็นบ้านเดี่ยวค่ะ ***ตั้งแต่ตอนเข้ามาดูบ้าน ครั้งแรกก็คืองง ข้างบ้านถือวิสาสะ ตัดกุญแจรั่ว เอารถยนต์มาจอดในรั่วบ้านที่เราจะมาเช่าอยู่ และกำแพงรั้วที่ติดกัน ก็เหมือนโดนทุบ แล้วข้างบ้านก็เอาของต่างไปนานา เข้ามาวางในบ้านที่เราจะเข้ามาเช่า เหมือนครอบครองแบบปรปักษ์ เจ้าของบ้านที่จะมาเช่าก็งง ว่าทำไมถึงทำแบบนี้ หรือเห็นว่าบ้านไม่มีใครอยู่3-4 ปี จนเขารู้ว่าจะมีคนมาก็มาเครียของออกให้
แต่อยู่มาพักนึง ที่บ้านเรานั่งกินสังสรรค์กันหลังบ้าน เขามาเกาะรั้วบอกว่าให้เบาเสียง บ้านเขามีเด็กลูกเขาต้องไปรร. คือเราก็เบา ทั้งที่ไม่ได้ดังมาก และก็แค่2 ทุ่มเอง เราก็บอกขอโทษด้วยนะค่ะ ก็จบ ...
แต่พอเราบอกเขาเรื่องซักผ้า คือเขาซัก 4ทุ่ม 5ทุ่ม บางที หลังเที่ยงคืนก็ซัก แล้วเป็นเครื่องซักผ้าแบบ2ดัง คือเสียงมันดังแบบเครื่องจะปั่นไม่ไหว แบบใส่ผ้าเลยอะ แล้วคือ ห้องลูกเราซึ่งเป็นเด็ก 8ขวบ ห้องนอนอยู่ทางเครื่องซักผ้าบ้านนั้น พอบอกไป คำตอบที่ได้มา **ไม่เกี่ยวกันบ้านใครบ้านมัน เขาจะทำอะไรก็ได้ แฟนเราเลยโมโห บอกที่บอกเราตอน2ทุ่มว่าดังเราก็หยุดให้ แต่กลับเครื่องซักผ้าเขาคือเป็นแบบนี้ทุกคืน ก็เลยเถียงกันไปมา แต่คำพูดที่ได้ยินมา คือแย่เนอะ ** บ้านกุกุจะทำไรก็ได้ กุซักที่บ้านกุ มาอยู่ที่หลังอย่าเรื่องเยอะ *** หลังจากนั้นเลยเถียวกันยุพักใหญ่ แถมยังมาขู่เราว่า อย่ามามีเรื่องกับบ้านเขาดีกว่า แต่เหมือนลูกชายที่เป็นวัยรุ่นอีกคนของบ้านนั้นเห็น ว่าบ้านเราติดกล้องวงจรปิด เก็ได้ทุกคำพูด เลยถอยไป ... ตั้งแต่ทะเลาะกันวันนั้นก็ยัง เหมือนเดิม ** คืออยากรู้ว่า มันเกี่ยวมั้ยที่ใครจะมา ก่อนมาหลัง แต่คำว่า มารายาทของการอยู่ร่วมกันเขาไม่เคยมีเลย ไม่รู้จะแก้ไขยังไง เบื่อมากค่ะ