รวม 13 วิธีหารายได้ออนไลน์! ช่องทางไหนเหมาะกับคุณ? พร้อมแนะนำเว็บลงขาย

ในยุคที่อินเทอร์เน็ตเปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถสร้างรายได้จากที่ไหนก็ได้ 🏡💻 วันนี้เรามาแชร์ช่องทางการหาเงินออนไลน์ที่ทำได้จริง พร้อมแนะนำเว็บไซต์ที่ใช้ลงขายหรือสมัครเพื่อเริ่มต้นทำเงินกัน!
 
1. Affiliate Marketing (นายหน้าขายสินค้า)
👉 วิธีหาเงิน: สมัครเป็นพาร์ทเนอร์กับแพลตฟอร์มต่างๆ แล้วโปรโมตสินค้า ถ้ามีคนซื้อผ่านลิงก์ของคุณ จะได้รับค่าคอมมิชชั่น
🌍 รายชื่อเว็บที่ใช้สมัคร:

* Shopee Affiliate (affiliate.shopee.co.th)
โปรแกรมพันธมิตรของ Shopee มอบคอมมิชชั่นสูงสำหรับการซื้อที่เสร็จสิ้นบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ พันธมิตรสามารถเลือกจากผลิตภัณฑ์นับล้านรายการและสร้างลิงก์ที่แชร์ได้อย่างง่ายดาย มีให้บริการในหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทย

* Lazada Affiliate (lazada.co.th/lazada-affiliate-program)
Lazada Affiliate Program เสนอค่าคอมมิชชันสูงถึง 80% พร้อมสิทธิพิเศษเมื่อช้อปผ่านแอป เช่น โค้ดส่วนลดและดีลเฉพาะบุคคล รวมถึงบริการช่วยเหลือการสั่งซื้อ การส่งคืน และติดตามสินค้า.

* Amazon Associates (affiliate-program.amazon.com)
Amazon Associates เป็นโปรแกรมการตลาดแบบพันธมิตรที่ช่วยให้ผู้สร้างเนื้อหาและบล็อกเกอร์สามารถทำเงินจากการแนะนำสินค้าบน Amazon โดยรับค่าคอมมิชชั่นสูงสุด 10% จากยอดซื้อที่ผ่านลิงก์ของเรา

* CJ Affiliate (cj.com)
CJ.com เป็นแพลตฟอร์มการตลาดเชิงความร่วมมือที่ใหญ่ที่สุดในโลก ช่วยให้แบรนด์ ผู้จัดพิมพ์ และผู้สร้างสรรค์เติบโตอย่างยั่งยืนผ่านเทคโนโลยีและข้อมูลที่ทันสมัย ขยายขอบเขตการเข้าถึงลูกค้าได้ทั่วโลก

* Involve Asia ( involve.asia )
Involve Asia เป็นเครือข่ายการตลาดพันธมิตรชั้นนำที่เชื่อมโยงแบรนด์ต่างๆ กับพันธมิตรกว่า 800,000 รายเพื่อเพิ่มรายได้ออนไลน์ โดยเครือข่ายนี้จะทำให้ความร่วมมือเป็นไปโดยอัตโนมัติและติดตามประสิทธิภาพของแคมเปญผ่านช่องทางต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพ

* PROP2SHARE ( prop2share.com )
Prop2Share เป็นโปรแกรมนายหน้าอสังหาฯออนไลน์ที่รวมทรัพย์คุณภาพจากคอนโด ทาวน์โฮม บ้านมือหนึ่งและสอง ให้นายหน้าปิดการขาย รับค่าคอมมิชชันสูงสุด 6% ไม่มีสัญญาผูกมัด พร้อมอัปเดตข้อมูลทุกเดือน

*ACCESSTRADE ( accesstrade.in.th )
ACCESSTRADE เป็นแพลตฟอร์ม Affiliate ที่ใหญ่ที่สุดในไทย ช่วยสร้างรายได้จากการโปรโมทแบรนด์ชั้นนำกว่า 200 แคมเปญ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย พร้อมเรียนรู้ผ่าน ACCESSTRADE Academy ฟรี!

* Priceza Affiliate ( affiliate.priceza.com)
Priceza Affiliate Program เป็นโปรแกรมพันธมิตรไทยที่มีสินค้ามากกว่า 62 ล้านชิ้น ใช้โมเดล aCPC รับรายได้ต่อคลิก พร้อมโบนัสพิเศษและระบบจัดการลิงก์อัจฉริยะ มีทีมงานพร้อมตอบคำถามภายใน 24 ชั่วโมง

* AMOT( amot.in.th )
AMOT เป็นแพลตฟอร์มที่เชื่อมระหว่างผู้โฆษณาและสมาชิกพันธมิตร เพื่อทำการตลาดออนไลน์ โดยสมาชิกสามารถรับค่าคอมมิชชั่นจากการแชร์ลิงค์สินค้าให้ลูกค้าที่สนใจผ่านช่องทางต่างๆ ได้ง่ายขึ้น

* Partners Agoda ( partners.agoda.com)
พันธมิตรอโกด้าเสนอคอมมิชชั่น 5% จากการจอง โดยรายได้จะเพิ่มขึ้นตามจำนวนการจองที่เสร็จสมบูรณ์ มีเครื่องมือส่งเสริมการขายง่ายๆ และรองรับหลายภาษาเพื่อช่วยให้คุณเริ่มต้นและติดตามผลงานได้ทันที
 

2. YouTube และ YouTube AdSense และเว็บที่คล้ายกัน
👉 วิธีหาเงิน: ทำวิดีโอให้มีคนดูเยอะๆ แล้วเปิดสร้างรายได้จากโฆษณาผ่าน YouTube Partner Program
🌍 เว็บที่ใช้สมัคร:

* YouTube Studio (studio.youtube.com)
YouTube Studio เป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับยูทูบเบอร์ ช่วยจัดการช่อง วิเคราะห์ข้อมูล สร้างรายได้ และโต้ตอบกับผู้ชม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและขยายฐานผู้ติดตามบน YouTube ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

* Google AdSense (adsense.google.com)
Google AdSense ช่วยสร้างรายได้จากเว็บไซต์โดยให้ผู้ลงโฆษณาแข่งขันแย่งพื้นที่โฆษณาของคุณ โฆษณาปรับขนาดอัตโนมัติ เพิ่มรายได้และควบคุมการแสดงผลได้ง่ายดาย เพียงใส่โค้ด AdSense ลงในเว็บไซต์ของคุณ

* Dailymotion Studio (dailymotion.com/dm/partner/onboarding )
Dailymotion ก่อตั้งขึ้นในฝรั่งเศส แขกผู้ใช้กลายเป็นเนื้อหาที่สร้างรายได้จากวิดีโอโดยโปรแกรม Creator สามารถเปิดโฆษณาในวิดีโอเพื่อสร้างรายได้ได้ รับเงินเมื่อมียอดครบ 100$ payoneer paypal ก่อตั้งขึ้นในเดือนมีนาคม พ.ศ.2548

 
3. การขายภาพ (Stock Photos & Videos)
👉 วิธีหาเงิน: ถ่ายรูปหรือวิดีโอ แล้วอัปโหลดขายให้คนที่ต้องการใช้งาน
🌍 รายชื่อเว็บที่ใช้ขายภาพและวิดีโอ:

* Shutterstock (https://submit.shutterstock.com)
Shutterstock เปิดโอกาสให้ช่างภาพทั่วโลกสร้างรายได้จากการขายภาพถ่ายและวิดีโอผ่านแพลตฟอร์มที่ใช้งานง่าย พร้อมรับคำแนะนำเพื่อความสำเร็จ และมีเครื่องมือช่วยติดตามรายได้อย่างสะดวกสบาย

* Adobe Stock (https://contributor.stock.adobe.com)
Adobe Stock เป็นแพลตฟอร์มที่ให้คุณขายภาพถ่าย วิดีโอ และเวกเตอร์ออนไลน์ได้ฟรี เพียงสมัครเป็นศิลปินด้วย Adobe ID คุณต้องมีอายุ 18 ปีและถือครองลิขสิทธิ์เนื้อหาทั้งหมดของคุณเอง

* Getty Images (https://www.gettyimages.com/workwithus)
Getty Images และ iStock เปิดโอกาสให้ผู้สร้างสรรค์แบ่งปันผลงานกับลูกค้าทั่วโลก โดยอัปโหลดภาพถ่าย วิดีโอ หรือภาพประกอบที่ไม่ใช้ AI ผ่านแอป Contributor เพื่อรับรายได้จากการขายลิขสิทธิ์.

* Freepik Contributor (https://contributor.freepik.com/dashboard)
เป็นผู้สนับสนุน Freepik! อัปโหลดรูปภาพ เพื่อเริ่มสร้างรายได้ เนื้อหาต้องมีคุณภาพสูง ใช้ในเชิงพาณิชย์ได้ และไม่ซ้ำกับเนื้อหาเดิมบนเว็บไซต์

* Dreamstime ( https://www.dreamstime.com/sell-stock-photos-images)
Dreamstime เปิดโอกาสให้ขายภาพถ่ายและวิดีโอออนไลน์ โดยมีข้อกำหนดไฟล์เฉพาะ ผู้ร่วมงานได้รับส่วนแบ่งรายได้ 25-50% และโบนัสสำหรับไฟล์พิเศษ สามารถขอรับเงินเมื่อยอดถึง $100

* 123RF ( https://www.123rf.com/contributors )
123RF เปิดโอกาสให้คุณสร้างรายได้จากภาพถ่ายและเวกเตอร์ โดยรับค่าคอมมิชชั่น 30%-60% จากผู้ซื้อกว่า 5 ล้านคนทั่วโลก คุณยังคงเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ผลงานของคุณเอง

* Depositphotos ( https://depositphotos.com/seller-price.html )
Depositphotos เปิดโอกาสให้ผู้สนับสนุนขายภาพถ่าย ภาพประกอบ และเวกเตอร์อาร์ต โดยลงทะเบียนฟรี อัปโหลดไฟล์ที่ผ่านการตรวจสอบตามข้อกำหนดเพื่อเริ่มทำกำไรได้ทันที
 
4. ครีเอเตอร์ (Creator) – ทำคอนเทนต์แล้วรับเงิน
👉 วิธีหาเงิน: รับเงินจากสปอนเซอร์ หรือผู้ติดตามสนับสนุนโดยตรง
🌍 เว็บที่ใช้หาเงินจากคอนเทนต์:

* TikTok Creator  (https://www.tiktok.com/tiktokstudio)
TikTok Creator Marketplace (TCM) เป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยให้แบรนด์และครีเอเตอร์บน TikTok ทำงานร่วมกันได้ง่ายขึ้น โดยแบรนด์สามารถค้นหาครีเอเตอร์ที่ตรงใจ และจ่ายค่าตอบแทนเป็นส่วนแบ่งรายได้จากการขายสินค้า

* Facebook Creator ( https://creators.facebook.com )
Facebook เปิดตัวเครื่องมือใหม่ช่วยครีเอเตอร์สร้างรายได้และจัดการตัวตนผ่านโฆษณา สร้างรายได้จากความคิดสร้างสรรค์บน Facebook ด้วยวิดีโอ, Reels, รูปภาพ และโพสต์ข้อความ เพียงทำเนื้อหาให้ตรงกับตัวตนและกลุ่มเป้าหมายของคุณ

* Ko-fi ( https://ko-fi.com )
Ko-fiช่วยให้ผู้สร้างสรรค์ผลงานสร้างรายได้จากแฟนๆ ตัวยงของคุณ ไม่ว่าคุณจะเป็นศิลปิน สตรีมเมอร์ หรือผู้สร้างสรรค์ผลงานประเภทใดก็ตาม คุณสามารถรับทิป ตั้งค่าสมาชิก รับคำขอ และขายผลงานของคุณได้ในที่เดียว
 
5. ขาย E-book (หนังสือดิจิทัล)
👉 วิธีหาเงิน: เขียนหนังสือแล้วขายในรูปแบบดิจิทัล
🌍 เว็บที่ใช้ขาย E-book:

* Amazon Kindle Direct Publishing (KDP) (https://kdp.amazon.com)
Amazon Kindle Direct Publishing (KDP) ช่วยให้ผู้เขียนสามารถเผยแพร่หนังสือในรูปแบบพิมพ์และดิจิตอลได้ด้วยตนเอง เข้าถึงผู้อ่านทั่วโลก พร้อมรับค่าลิขสิทธิ์สูงถึง 70% และควบคุมเนื้อหา ราคา และการโฆษณาได้อย่างอิสระ

* Pintobook (https://pintobook.com/writer-dashboard )
การขายอีบุ๊กบนปิ่นโต ผู้ใช้จำเป็นต้องลงทะเบียนนักเขียนก่อน ทั้งนี้ หากเคยลงทะเบียนนักเขียนใน Fictionlog แล้ว จะสามารถสร้างและเผยแพร่อีบุ๊กในปิ่นโตได้ทันที ปิ่นโตใช้ระบบโอนเงินอัตโนมัติแบบรายเดือนให้นักเขียน หากมียอดเงินขั้นต่ำ 100 บาทขึ้นไป

* Mebmarket ( https://www.mebmarket.com/?action=register_publisher )
meb เป็นร้านอีบุ๊กอันดับ 1 ที่มีหนังสือดี นิยายสนุก และนิตยสารดังมากมาย ลงทะเบียนเป็นนักเขียน/สำนักพิมพ์ว รอการอนุมัติจากเจ้าหน้าที่ของ meb ก่อน ขั้นตอนนี้ใช้เวลาประมาณ 1 วันทำการ เมื่อเจ้าหน้าที่ได้ทำการอนุมัติบัญชีผู้ใช้แล้ว ท่านสามารถเพิ่มและอัปโหลดหนังสือเข้ามาในระบบได้ทันที

*  E junkie (https://www.e-junkie.com/wiki/help-file-downloads )
ขายเนื้อหาดิจิทัล เช่น ไฟล์ดาวน์โหลดและรหัสซีเรียล โดยหลังจากชำระเงินเสร็จสิ้น ผู้ซื้อจะได้รับลิงก์ดาวน์โหลดผ่านหน้าขอบคุณหรืออีเมล และสามารถเปลี่ยนเส้นทางไปยังเว็บไซต์ได้ตามต้องการ

* Tentary ( https://tentary.com )
Tentary เป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซสำหรับขายผลิตภัณฑ์และบริการดิจิทัล ใช้งานง่าย ปลอดภัย ไม่มีค่าบริการรายเดือน ค่าธรรมเนียมต่ำ 1-5% รองรับการชำระเงินหลากหลายช่องทางและมีระบบวิเคราะห์ข้อมูลครบครัน

* Etsy (https://www.etsy.com/sell )
ขายบน Etsy Thailand เป็นเวลานานที่คุ้มค่าสำหรับเพียง $0.20 ต่อรายการจ่ายเฉพาะค่าธรรมเนียมเมื่อขายมีเครื่องมือช่วยจัดการธุรกิจและคุณภาพของผู้เชี่ยวชาญตลอดเวลาไม่มีค่ารายเดือนเพิ่มเติม

* eBooks.com (https://www.ebooks.com/en-th/)
eBooks.com ช่วยสนับสนุนและสำนักพิมพ์เล็กๆ ขายหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ทั่วโลกโดยแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น Vearsa และ Ingram Spark เพื่อให้เข้าถึงลูกค้าได้เพื่อรองรับหนังสือเสียง

* Lulu (https://www.lulu.com/)
Lulu เป็นแพลตฟอร์มการพิมพ์และเผยแพร่หนังสือออนไลน์ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถพิมพ์และขายหนังสือทั่วโลกได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการจัดเก็บสินค้า มีเครื่องมือฟรีสำหรับเริ่มต้นธุรกิจนี้อย่างง่ายดาย

* IngramSpark (https://www.ingramspark.com/how-it-works/distribute)
IngramSpark ตลาดหนังสือในยุโรปและเอเชีย เมื่อคุณเผยแพร่ผลงานด้วยตนเองกับ IngramSpark คุณจะเชื่อมต่อกับเครือข่ายการจำหน่ายหนังสือระดับโลกที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในอุตสาหกรรมการพิมพ์ รวมถึงการเข้าถึงหนังสือมากกว่า 45,000 เล่ม

* Creative Fabrica (https://www.creativefabrica.com/open-store/ )
Creative Fabrica คือศูนย์รวมทุกสิ่งที่สร้างสรรค์สำหรับคุณ มีแบบอักษร กราฟิก POD และงานฝีมือ ขายได้ทุกอย่าง เป็นแพลตฟอร์มที่เหมาะสำหรับผู้สร้างสรรค์ในการเริ่มธุรกิจเสริม มีฐานลูกค้ากว้างขวาง รับสูงสุด 75% จากการขาย
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่