เริ่มเข้าสู่เดือนแห่งความรัก
แต่ยังเป็นควันหลงงานแต่งเดือนมกราคมยังไม่จาง
โดยเฉพาะเจ้าบ่าวเจ้าสาววิกพระราม 4
ที่ใช้เดือนนี้เป็นเดือนวิวาห์พร้อมบรรยากาศและอากาศเป็นใจ
แต่ขอเลือกที่งานวิวาห์ที่สวนผึ้ง 17 องศา ของเจมส์ จิรายุ
ที่ได้สร้างความตื่นเต้นให้วงการตั้งแต่ปลายเดือนตุลา จนถึงกลางเดือนธันวา
ที่พร้อมฤกษ์วิวาห์ที่มาก่อนใคร และพร้อมเกิดขึ้นอีก 1 สัปดาห์หลังจากนั้น
และมีอีกงานที่งดงามราวกับฉากจบละครที่เป็นไวรัลงานวิวาห์แห่งขุนเขา
งานวิวาห์ที่มีความหมายของเจ้าบ่าวเจ้าสาว และคนที่มาร่วมยินดีในวันนั้น

ตามธรรมชาติของวงการบันเทิง
ถ้าพระเอกจะปลูกต้นรักสาวนอกวงการ
ในขณะที่กำลังเป็นดาวโลดแล่นบนทองฟ้า
มันจะไม่มีวันวิวาห์เกิดขึ้นได้เลย จนดาวดวงนี้อาจต้องลับตาไปก่อน
ถึงจะสามารถได้เวลาสร้างครอบครัวของตัวเอง
โดยเฉพาะช่วงหลังที่พระเอกหน้าจอแต่งงานกันแบบสายฟ้าแลบ
มาพร้อมแพคเกจที่จะเตรียมลืมตาดูโลกในอีกไม่ช้ากันทั้งนั้น
ใครได้ฟังข่าวจากเจมส์ตอนแรกก็คงคิดอะไรในใจหลายอย่าง
จะตามรอยรุ่นพี่ไปอีกคนแล้วใช่ไหม
แต่สุดท้ายการแต่งงานในแต่ละวัน
มันมีความหมายต่อตัวเขาและคนรักของเขา

ภาพแรกก่อนจะบทสัมภาษณ์ที่เตรียมบอกวันวิวาห์ก็คือ Gallery Prewedding แบบฉ่ำ ๆ
ซึ่งก็คงไม่ตื่นเต้นมากเท่าไหร่เพราะว่าเจ้าบ่าวลงภาพขอแต่งงานไปแล้ว
มันเป็นไปตามขึ้นตอนก่อนจะถึงงานวิวาห์ 
ซึ่งจริง ๆ ถ้าเอาจะแตกตื่นกันทั้งโซเชียล คือ ลงภาพอัลตราซาวด์อันนั้นจะตกใจจริง ๆ
แต่นั่นไม่ใช่ เจมส์ จิรายุ แม้เป้าหมายของงานวิวาห์คือการสร้างครอบครัว
แต่ภาพวันวิวาห์จากคู่ที่ไม่คิดว่าจะมีวันเกิดขึ้น ถ้ามันเกิดขึ้นมันคงวันที่พวกเขาจะจำไม่ลืม
 
วันแต่งงานของทั้งสองคน ที่เลือกใช้วันเกิดของกันและกันจัดงาน
จากบทสัมภาษณ์ที่จะแบ่งงานเป็น 2 วัน กับคำตอบดูจะคลุมเครือ
เพราะแบ่งเป็นวันผู้ใหญ่  กับวันของเด็ก ๆ  เป็นรูปแบบการจัดงานที่แปลกดี
วันที่ 19 ธันวา อย่างที่ทราบวันที่ 19 เป็นวันเกิดของเจมส์
พิธีการในงานไม่ได้มีอะไรมากมาย แต่ความสำคัญอยู่ที่คนมาร่วมงาน
ในงานเล็ก ๆ ในสวนอาหาร แต่มีผู้ใหญ่ของทั้งเจ้าบ่าวเจ้าสาว
โดยเฉพาะเจ้าบ่าวที่เชิญผู้ใหญ่ทางสถานี ผู้จัดละครที่เคยร่วมงาน
แม้แต่นักแสดงร่วมงานตั้งแต่ปีแรกที่เข้าวงการ เนย โชติกา และ บีม กวี
ก็ได้เข้ามาเป็นคนสำคัญในงาน รวมถึงการเชิญสื่อมาทำการสัมภาษณ์
วันนี้สำหรับเจ้าบ่าวผู้คนที่ได้เชิญมาในงานวันนี้
เป็นคนที่หล่อหลอมให้เขาเป็นทั้งดาราและนักแสดงที่ชื่อเจมส์ จิรายุ
 
วันที่ 11 มกรา วันเด็กปีนี้จะมีเด็กสองคนก้าวไปสู่อีกสถานะนึง
งานแต่งในขุนเขาพร้อมม้าหมุนมาเป็นฉากประกอบในงาน
อย่างที่ทราบวันที่ 11 เป็นวันเกิดของโฟมเจ้าสาวของเขา
พร้อมกับพิธีการแต่งงานที่เรียบง่ายและมีสังคมที่ทั้งสองร่วมกันสร้างขยายออกมาร่วมยินดี
เมื่อวันนี้เป็นวันของโฟม งานในวันนี้จึงไม่มีเจมส์ที่เป็นดารา
แต่เป็นเจมส์ของโฟม ที่คนมาร่วมงานจะได้เห็นพวกเขาแบบนั้นอยู่แล้ว
เขาถึงมีความกล้าที่จะแสดงออกในหลาย ๆ อย่าง โดยที่ไม่มีภาพดารามาเคลือบไว้
และไม่ต้องมาถามว่าทำไมถึงไม่เชิญคนนั้นคนนี้ในงานนี้เพราะวันนี้เป็นวันของคนธรรมดาชื่อเจมส์
 
ประโยคสำคัญจากงานนี้ที่ไม่ได้ต้องการให้แค่คนที่ร่วมงานได้ยิน
เป็นคำพูดที่ผู้ชายคนนึงบอกต่อคนรักของเขาที่มีทุกความรู้สึกทั้งความสุข ความเสียใจ
ที่บอกผ่านฟากฟ้าและภูเขาให้มันได้สะท้อนออกไปชัดเจน ตรงไปตรงมา
และกระแทกในความรู้สึกทั้งสื่อบันเทิง แฟนคลับ และคนที่ได้ฟังและอ่าน
ที่เขาอยู่เพื่อทุกความต้องการของทุกคนบนความประนีประนอมมาโดยตลอด
ถ้าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นจะมีใครสักคนที่แบกรับก็ขอให้เป็นแค่เขาคนเดียวก็พอซึ่งสมเป็นเขาดี
อาจจะเป็นกรรมในช่วงวัยรุ่นที่ซุกซนกว่าจะมีวันนี้ก็เลยไม่ง่ายแต่มันก็มีวันนี้จนได้
เมื่อฟ้ามืดลงคืนนั้นเราก็ได้เห็นโชว์ มินิคอนเสิร์ตย่อม ๆ ผ่าน story มากมาย
แขกร่วมงานไปเอาแรงมาจากไหนเพื่อมาเอาใจบ่าวสาวที่สนุกเกินแขก เกินเจ้าภาพ
พร้อมเจ้าบ่าวที่ถือแก้วแบบไม่คิดจะวาง พร้อมร้องเล่นเต้นกันเต็มที่
เป็นพื้นที่สบายใจที่จะเป็นตัวของตัวเองกันแบบสุด ๆ แล้วในค่ำคืนนั้น
 
ปี 2025 ถ้าคุณระมัดะระวังกับคำพูดทั่วไปที่อาจจะบาดลึกความรู้สึก
อย่าง อ้วน ผอม สูง เตี้ย สีผิวต่าง ๆ นานา
ถ้าเป็นดาราคำถามที่ไม่ควรจะไปถามเขาคือ เมื่อเขาคบคนที่ไม่ได้อยู่ในวงการบันเทิง
คำถามง่าย ๆ ที่บางครั้งเขาก็ไม่อยากจะตอบ แต่เพราะเป็นคนสาธารณะก็ต้องตอบ
"หน้าตาแฟน...หน้าตาเป็นไง" คำถามธรรมดาที่แฝงความคาดหวังไว้
และพอได้เห็นก็จะแสดงความเห็น "ก็น่ารักดีนะ" 
แล้วถ้าเขาไม่น่ารักเขาไม่คู่ควรจะเป็นแฟนดาราคนนี้หรอ
สิ่งที่เราทำได้คือการยินดีที่เขามีความรู้สึกดีให้กัน หรือจะไม่ต้องยินดีกับเขาก็ไม่เป็นไร
 
การแต่งงานบางคนคิดว่าเป็นบทสรุปที่สวยงามเหมือนฉากละครตอนจบ
บางคนคิดว่ามันแค่จุดเริ่มต้นของความจริงในชีวิตคู่
แต่ส่วนตัวคิดว่ามันคือการเดินไปอีกสถานะหนึ่งที่เติบโตขึ้นก็เท่านั้น
และมีคนหลายคนไม่ว่าจะวงการไหนที่ได้ก้าวข้ามผ่านไปไม่เว้นวงการบันเทิง
ที่ถึงแม้เขาจะเป็นดาราไม่ว่าจะเป็นสถานะเจ้าบ่าวหรือเจ้าสาว
เขาก็มีสถานะเป็นคนธรรมดาที่แค่ต้องการใครสักคนอยู่เคียงข้างเขา
และขอให้มีคนร่วมยินดีในความรักที่มันเกิดขึ้นของเขากับคู่ชีวิตก็พอแล้ว
ซึ่งวันนี้ เจมส์ จิรายุ ดาราที่แต่งงานแล้วก็ยังจะต้องโลดแล่นต่อไปในวงการ
เป็นพ่อของแม่ที่คงจะจดจำวันสำคัญที่มีคนทั้งโลกร่วมยินดี
และพร้อมจะเป็นหัวหน้าครอบครัวที่เป็นอีกสถานะนึงจะต้องเดินต่อไป