"ปชน."เปิดวอร์รูมหลังปิดหีบเลือกตั้ง มั่นใจชนะหลายจังหวัด เร่งส่ง 16 เคสร้องเรียนให้กกต.
https://www.khaosod.co.th/politics/news_9616283
 
 
“ปชน.” เปิด ”วอร์รูม“ หลังปิดหีบเลือกตั้งนายกฯ อบจ. “เท้ง” รับตื่นเต้น จะได้เข้าไปทำงานท้องถิ่น มั่นใจ ชนะหลายจังหวัด เผย พบ 70 เคสร้องเรียน 16 เคสมีมูล เร่งส่งเรื่องให้ กกต.
 
เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 1 ก.พ.2568 ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหว ณ ที่ทำกาพรรคประชาชน มีการตั้งวอร์รูมติดตามผลการนับคะแนนการเลือกตั้ง อบจ. ทั่วประเทศ โดยนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน เดินทางเข้ามาที่ทำการพรรคเพื่อสังเกตการณ์ และเตรียมความพร้อม
 
จากนั้น เวลา 17.20 น. นายณัฐพงษ์ ได้ให้สัมภาษณ์ถึงภาพรวมการเลือกตั้ง อบจ.ครั้งนี้ว่า มองว่าครั้งนี้ประชาชนตื่นตัวมากกว่าครั้งก่อนๆ ที่มีการรายงานกับสื่อมวลชนต่างๆ อย่างไรก็ตาม เหตุที่การเลือกตั้งในวันเสาร์ เป็นอุปสรรค ทำให้ประชาชนออกไปใช้สิทธิ์ได้ยากกว่าปกติ แต่ก็ถือว่าเป็นบรรยากาศที่คึกคักมากขึ้น ทางพรรคได้รับรายงานเหตุผิดปกติของการเลือกตั้งตั้งแต่เมื่อวาน (30 ม.ค.) เข้ามาราว 70 กรณี ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้น พบ 16 กรณีที่มีมูล ขณะนี้ได้ส่งต่อไปยังทีมงาน เพื่อส่งเรื่องไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)
 
เมื่อถามถึงกรณีหลายพื้นที่มีบรรยากาศเงียบเหงา นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า การที่ กกต.ตัดสินใจจัดการเลือกตั้งในวันเสาร์ ก็เป็นส่วนหนึ่งของอุปสรรค โดยเฉพาะการเลือกตั้งท้องถิ่นที่ไม่มีการเลือกตั้งล่วงหน้า อย่างไรก็ตาม ต้องรอดูผลการเลือกตั้ง ว่าจำนวนผู้ออกมาใช้สิทธิ์มีมากน้อยเพียงใด
 
เมื่อถามว่า รู้สึกตื่นเต้นหรือไม่กับผลการเลือกตั้ง นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า รู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เข้าไปทำงาน เพราะเรามีความมั่นใจอยู่ และเชื่อว่าจะมีจังหวัดที่ชนะการเลือกตั้งได้ และได้เข้าไปบริหารในนาม อบจ.
 
เมื่อถามว่า มีนักวิชาการหลายคน ออกมาทํานายผลการเลือกตั้งนายก อบจ. ที่บางคนให้พรรคประชาชนได้ถึง 8 ที่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ก็มีมากมีน้อย เข้าใจว่าไม่ได้มีเฉพาะแค่ 8 บางคนวิเคราะห์ให้ 0 ที่ก็มี เพราะฉะนั้น ตอนนี้เราก็ต้องติดตามสถานการณ์ มอนิเตอร์อยู่ ทุกสนามที่เราส่งก็มีโอกาสชนะการเลือกตั้งได้ ซึ่งขณะนี้ปิดหีบแล้ว อีกไม่กี่ชั่วโมงก็จะเห็นแนวโน้ม
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคประชาชนจะแถลงข่าวภายหลังผลการเลือกตั้ง ณ ชั้น 7 ของที่ทำการพรรคในเวลา 21.00 น. ซึ่งนายณัฐพงษ์ และนายศรายุทธิ์ ใจหลัก เลขาธิการพรรคประชาชน จะเป็นผู้แถลงผล
 
ทั้งนี้ มีรายงานว่าทางด้านนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า จะเดินทางไปติดตามเฝ้าสถานการณ์ปิดหีบลงคะแนนที่ จ.สมุทรปราการ ก่อนจะเดินทางมาที่ทำการพรรคประชาชน ร่วมกับ น.ส.พรรณิการ์ วานิช ผู้ช่วยหาเสียงพรรคประชาชน ที่จะเข้ามาร่วมสังเกตการณ์

---

ต้องสืบต่อ! We Watch เจอ 6 หน่วย ‘บัตรเลือกตั้งไม่พอ’ เผย กกต.อ้างตรงกัน
https://www.matichon.co.th/politics/local-election/news_5029537

ต้องสืบต่อ!  We Watch เจอ 6 หน่วย ‘บัตรเลือกตั้งไม่พอ’ จำนวนผู้ออกมาใช้สิทธิ กกต.อ้างตรงกัน ‘คนน่าจะมาใช้สิทธิน้อย’
 
เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 1 กุมภาพันธ์ เครือข่ายเยาวชนสังเกตการณ์การเลือกตั้งเพื่อประชาธิปไตย หรือ We Watch เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากนักสังเกตการณ์จากภาคใต้ ภาคอีสาน และภาคกลาง ได้แก่ ยะลา หนองบัวลำภู ลพบุรี มีอย่างน้อย 6 หน่วยเลือกตั้งที่จำนวนบัตรเลือกตั้งไม่เพียงพอกับจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง
 
โดยมีข้อมูลดังต่อไปนี้
 
1. หน่วยที่ 4 หมู่ที่ 4 ตำบลท่าสาป อำเภอเมือง จังหวัดยะลา สถานที่เลือกตั้ง อาคารเรียนโรงเรียนบ้านบาโด จำนวนคนที่มีสิทธิเลือกตั้ง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด จำนวน 686 คน สมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด จำนวน 678 คน ทว่ามีจำนวนบัตรเลือกตั้งที่เตรียมไว้ จำนวน 680 ใบ จำนวนบัตรเลือกตั้งนายกฯ ไม่ครบ 6 ใบ
 
2. หน่วยที่ 1 หมู่ที่ 3 ตำบล ท่าสาป อำเภอเมือง จังหวัดยะลา สถานที่เลือกตั้ง โรงเรียนบ้านลิมุด จำนวนคนที่มีสิทธิเลือกตั้ง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดจำนวน 623 คน สมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด จำนวน 619 คน แต่ว่ามีจำนวนบัตรเพียง 620 ใบ บัตรเลือกตั้งนายกฯ ไม่ครบ 3 ใบ
 
3. หน่วยที่ 2 หมู่ที่ 3 ตำบล ท่าสาป อำเภอเมือง จังหวัดยะลา สถานที่เลือกตั้ง โรงเรียนบ้านลิมุด จำนวนคนที่มีสิทธิเลือกตั้ง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด จำนวน 638 คน สมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด จำนวน 632 คน จำนวนบัตรเลือกตั้ง 620 ใบ บัตรเลือกตั้งนายกฯ ไม่เพียงพอจำนวน 18 ใบ และ บัตรเลือกตั้ง ส.อบจ. ไม่พอ 12 ใบ
 
4. หน่วยที่ 6 เขตเลือกตั้งที่ 2 ตำบลหันนางาม อำเภอศรีบุญเรือง จังหวัดหนองบัวลำภู สถานที่เลือกตั้ง ศาลากลางบ้านโนนข่า จำนวนคนที่มีสิทธิเลือกตั้ง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด 648 คน สมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด 642 แต่ว่ามีจำนวนบัตร 640 บัตร โดยบัตรเลือกนายกฯ ไม่ครบ 8 ใบ และสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ไม่ครบ 2 ใบ
 
5. หน่วยที่ 3 เขตเลือกตั้งที่ 2 หมู่ที่ 2 ตำบลทะเลชุบศร อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี สถานที่เลือกตั้ง ศาลาเอนกประสงค์วัดนิโครธ จำนวนคนที่มีสิทธิเลือกตั้งนายกฯ อบจ. 717 คน สมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด 707 คน แต่มีจำนวนบัตร 700 ใบ
 
6. หน่วยเลือกตั้งที่ 1 เขตเลือกตั้งที่ 4 โรงเรียนบ้านวังยาววิทยายน อำเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม พบว่าจำนวนคนที่มีสิทธิเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด จำนวน 364 คน สมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด 361 คน แต่มีจำนวนบัตรเลือกตั้งจำนวน 360 ใบ
 
สำหรับแนวปฏิบัติโดยทั่วไป จะต้องกำหนดโดยจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งแต่ละหน่วย หรือเกินไว้ 5% เพราะบางครั้งอาจจะมีบัตรเลือกตั้งที่เสียหาย และมีบัตรเลือกตั้งที่ใช้การไม่ได้จริง
 
ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญประจำ We Watch คาดการณ์ว่าเหตุผลที่บัตรเลือกตั้งมีจำนวนไม่ถึงจำนวนผู้มีสิทธิ อาจจะมาจากหลายสาเหตุ อาทิ เกิดการสลับกันในขั้นตอนของการแจกจ่ายอุปกรณ์จัดการเลือกตั้ง หรือเกิดจากความผิดพลาดเกิดจากการเข้าใจผิดอะไรบางอย่าง
 
อย่างไรก็ตาม จะต้องมีการค้นหาข้อเท็จจริงกันต่อไป ว่าเหตุใดมีหลายหน่วยเลือกตั้งมีจำนวนบัตรไม่เพียงพอกับจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง

---

โรม กางระเบียบชัด กฟภ.ตัดไฟได้ ร่ายยิบตปท.รุมคว่ำบาตร ‘พันตรีติ่งวิน’ เจ้าของบริษัทซื้อไฟ
https://www.matichon.co.th/politics/news_5029117

โรม กางระเบียบชัด กฟภ.ตัดไฟได้ ร่ายยิบตปท.คว่ำบาตร พันตรีติ่งวิน เจ้าของบริษัทซื้อไฟ
 
จากกรณีที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ยืนยันพร้อมให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ตัดไฟฟ้าทันที หากหน่วยงานความมั่นคงระบุว่าการจำหน่ายไฟฟ้าให้พม่าเป็นภัยความมั่นคง เพราะ กฟภ.ขายไฟฟ้าตามคำรับรอง และตามข้อสั่งการของหน่วยงานความมั่นคงนั้น
 
ล่าสุด (1 ก.พ.) นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กถึงกรณีดังกล่าวว่า 
 
คุณอนุทินต้องหยุดโบ้ยไปให้หน่วยงานอื่นได้แล้ว ถ้าไม่พร้อมจะทำหน้าที่เป็น รมว.มหาดไทย ก็ไปหาคนอื่นมาทำ เรื่องตัดไฟฟ้าเป็นอำนาจของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ระเบียบการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ว่าด้วยการใช้ไฟฟ้าและบริการ ปี 2562 ข้อ 51.7 ก็ระบุอย่างชัดเจนว่า การไฟฟ้ามีอำนาจในการงดจ่ายไฟหากพบว่า การจ่ายไฟฟ้ากระทบต่อความมั่นคงของชาติ การไฟฟ้าสามารถตัดไฟฟ้าตั้งแต่ท่าขี้เหล็ก เมียวดี จนถึงพญาตองซูได้เลย
 
คุณอนุทินหยุดแถ หยุดปกป้องแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้แล้ว คนไทยเสียหายจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์รายวัน บางคนคิดสั้นจะฆ่าตัวตาย ครอบครัวแตกสลาย บางคนลูกยังเล็ก ท่านไม่รู้สึกเห็นใจคนเหล่านี้บ้างเลยหรือ จะเลือดเย็นไปถึงไหน
 
ผมขอยืนยันเป็นครั้งที่ร้อยว่า เรื่องนี้มหาดไทยสามารถสั่งการให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคดำเนินการได้เลย
 
ผมคิดว่า รัฐบาลต้องไม่ปล่อยให้คุณอนุทินลอยหน้าลอยตาปกป้องแก๊งคอลเซ็นเตอร์แบบนี้ การตัดไฟฟ้ารัฐบาลสามารถทุบโต๊ะสั่งให้ดำเนินการได้ ใครไม่ทำตามก็เอาผิดได้เลย ท่านนายกรัฐมนตรีช่วยทุบโต๊ะเรื่องนี้หน่อยได้ไหมครับ เห็นแก่ประโยชน์ของชาติเถอะครับ
 
จากนั้น นายรังสิมันต์ได้โพสต์อีกว่า 
 
กราบเรียนพี่น้องประชาชน เมื่อวานคุณอนุทินได้แบกแก๊งคอลเซ็นเตอร์อีกครั้ง ผมเริ่มสับสนแล้วว่า คุณอนุทินทำงานให้ใครกันแน่
 
ถ้าจำกันได้หนึ่งในบริษัทที่เป็นคู่สัญญากับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคที่ชื่อว่า SMTY (Shwe Myint Thaung Yinn Industry & Manufacturing Company
Limited) ซึ่งบริษัทนี้เป็นของ พันตรี ติ่งวิน หรือ Saw Tin Win คุณอนุทินบอกว่าบริษัทนี้ขาวสะอาด ป.ป.ส.ได้ทำหนังสือถึงคุณอนุทินว่า ไม่พบการกระทำความผิดอะไรเลย ทั้งๆ ที่ติ่งวินคนนี้ มีความสำคัญและถูกจับตามองจากหลายๆ ประเทศ หลายประเทศได้ตัดสินใจคว่ำบาตรพันตรีติ่งวิน
 
ไม่รู้ทำไม ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ประเทศเราถึงได้ทำงานอย่างบกพร่องได้ถึงขนาดนี้ เอาหูไปนาเอาตาไปไร่ ไม่สนใจว่าการประกอบธุรกิจโดยเฉพาะการขายไฟฟ้าให้กับบริษัทเอกชนมันจะนำมาซึ่งความเสียหายต่อประเทศชาติมากมายเพียงใดทั้งปัญหายาเสพติดและแก๊งคอลเซ็นเตอร์
 
ต่อไปนี้คือข้อมูลรายละเอียดการแซงก์ชั่น (คว่ำบาตร) โดยประเทศต่างๆ จะเห็นได้ว่าพันตรีติ่งวินคนนี้ ถูกคว่ำบาตรจากหลากหลายประเทศ อาทิเช่น สหภาพยุโรป ฝรั่งเศส สวิตเซอร์แลนด์ และโมนาโก
 
ติ่งวินโดนคว่ำบาตรจากหลากหลายประเทศ แต่เขากลับเป็นคนดีในสายตาของผู้มีอำนาจในประเทศไทย มอบสัญญาขายไฟฟ้า เพื่อให้นำไปใช้สำหรับแก๊งคอลเซ็นเตอร์และธุรกิจผิดกฎหมายต่างๆ ตามแนวชายแดน
 
พันตรีติ่งวิน ซึ่งเป็นเจ้าของ SMTY เขาเป็นเบอร์ 2 ของ BGF/KNA ซึ่งให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์อย่างชเวโก๊กโก่ และ KK Park เช่า BGF/KNA หัวหน้าใหญ่ชื่อหม่อง ชิต ตู ร่วมทุนกับเสอจื้อเจียง (ปัจจุบันถูกจับอยู่ในไทย เป็นที่ต้องการตัวของจีนอย่างมาก) เปิดชเวโก๊กโก่ ปัจจุบันก็เป็นหุ้นส่วนของแก๊งคอลเซ็นเตอร์นี้
 
เวลาพวกนี้มาขอซื้อไฟฟ้าจากเรา ก็ต้องอ้างประชาชน อ้างโรงเรียน อ้างโรงพยาบาลเป็นธรรมดา แต่ในทางปฏิบัติมีหรือที่ชนกลุ่มน้อยเหล่านี้จะไม่ให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ตัวเองร่วมทุนใช้ไฟฟ้า มีหรือที่เขาจะบอกว่าพวกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ไปหาไฟฟ้าเอาเอง มีหรือที่จะบอกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้ปั่นไฟเอาอย่างเดียว อย่าอุตริมาใช้ไฟฟ้าของประเทศไทยโดยเด็ดขาด พวกแก๊งคอลเซ็นเตอร์จงไปใช้ไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์เอาเอง

ถามจริงๆ มันเมกเซนส์หรือครับ คอลเซ็นเตอร์นี่คือธุรกิจของ BGF ที่มีติ่งวินเป็นเบอร์ 2 เขาปกป้องพวกนี้ เป็นบอดี้การ์ดให้ทุนจีนเทาที่มาลงทุนในพื้นที่เขา มีหรือเขาจะไม่ช่วยเหลือกันเต็มที่ นี่มันแหล่งรายได้ของพวก BGF เลยนะครับ
 
ถ้ารัฐบาลจะปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และปัญหายาเสพติดอย่างจริงจัง การตัดไฟฟ้าจะเป็นก้าวแรกในการทำลายโครงสร้างของเครือข่ายพวกนี้ ถ้าก้าวแรกยังเดินกันไม่ได้ ชีวิตของคนไทยทรัพย์สินของคนไทย ก็จะตกอยู่ในความเสี่ยงของอาชญากรข้ามชาติเหล่านี้
ได้โปรดสงสารประชาชนเถอะครับ
 
ถ้าหนูจะแบกคอลเซ็นเตอร์ขนาดนี้ ได้โปรดท่านนายกรัฐมนตรีช่วยลงมาดูเรื่องนี้จัดการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้สิ้นซากเถอะครับ