การเดินทางครั้งนี้ได้แรงบันดาลใจจากคลิป youtube ของคนญี่ปุ่นที่ทำ vlog แบบไม่พูด เมื่อหลายปีก่อน คราวนี้ จึงตั้งใจจะไปลองประสบการณ์ใหม่ในการเดินทางด้วยเรือเฟอร์รี่ญี่ปุ่นครับ
          การเดินทางด้วยเรือเฟอร์รี่ญี่ปุ่น ส่วนมากผู้ใช้บริการหลักๆจะเป็นกลุ่มรถบรรทุกขนส่ง แต่ช่วงหลังหลายๆเจ้าก็โปรโมตในเชิงท่องเที่ยว เชิญชวนนักท่องเที่ยวให้มาลองกันมากขึ้น โดยมีหลายเส้นทางด้วยกันในประเทศ แต่ว่าเส้นทางที่คิดว่าน่าจะนิยมมากที่สุดก็คือ เส้นทางภูมิภาค Kansai – Kyushu ซึ่งมีหลายเจ้าที่ให้บริการ เช่น Meimon Teiyo Ferry Hankyu Ferry Sunflower Ferry ซึ่งแต่ละเจ้าจะมีราคา จุดขึ้นลง กิจกรรมในเรือที่แตกต่างกันไป
          สำหรับการเดินทางในครั้งนี้ จขกท เลือกใช้ Meimon Teiyo Ferry เดินทางระหว่างท่าเรือ Osaka Nanko กับท่าเรือ Shin-Moji เพราะว่าราคาถูกที่สุด เหมาะกับสไตล์แบ็คแพ็คเกอร์ และเข้าเมือง Osaka ได้ใกล้ที่สุด

ที่มาภาพ: https://www.cityline.co.jp/english/
          วิธีการจองง่ายๆ เข้าไปที่เว็บไซต์ https://www.cityline.co.jp/english/ แล้วสามารถเลือกจองล่วงหน้าได้ 2 เดือน มีเรือออก 2 เที่ยว/วัน ตามเวลาดังภาพข้างบน มีประเภทห้องให้เลือกหลายแบบ ตั้งแต่แค็ปซูล ไปจนถึงห้องนอนแบบโรงแรมเลย ราคาขึ้นลงตามช่วงเทศกาล ช่วงเทศกาลจะแพงกว่าเดิมประมาณ 10 – 20 %
          เอาล่ะเราไปเดินทางพร้อมกันเลยดีกว่า..

          จขกท เดินทางช่วงธันวาคม 2567 ที่ผ่านมา นั่งรถไฟจากฟุกุโอกะ มาลงที่สถานี Kokura ซึ่งเป็นจุดขึ้นรถ Shuttle bus ฟรีของเรือเฟอรี่ ออกมาให้ตามหาป้าย Shinmoji Ferry Shuttle bus แล้วไปยืนรอรถตรงป้ายเลย (หรือถ้าขึ้นจากฝั่ง Osaka ให้นั่งรถไฟ Osaka metro จากใจกลางเมือง มาลงที่สถานี Ferry terminal แล้วเดินผ่านทางเชื่อมไปขึ้นเรือได้เลย) 

          รถไปส่งที่ท่าเรือแล้ว ให้ไปที่ counter check-in ยื่นอีเมลตอบกลับที่จองเสร็จแล้วในโทรศัพท์ให้กับเจ้าหน้าที่ ก็จะได้ตั๋วจริงๆมา

          เข้าไปในเรือแล้วก็ไปวางกระเป๋าที่เตียงที่พัก จากนั้นก็ไปสำรวจเรือกันเลย

          เวลาเดินทางค่อนข้างนานประมาณ 12 ชั่วโมง แต่ภายในเรือมีกิจกรรมหลายอย่างให้ทำ รับรองว่าไม่มีเบื่อระหว่างเดินทางอย่างแน่นอน เช่น ห้องอาบน้ำออนเซ็น มุมเล่นเกมตู้ arcade ชมวิว ร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ พื้นที่ภายในค่อนข้างกว้างขวางตามขนาดเรือที่ใหญ่มาก 

          สำหรับอาหารการกินรับรองว่า ไม่มีทางอดตายแน่นอน มีร้านอาหาร เปิดช่วงค่ำและเช้า เป็น buffet ต้องจ่ายเพิ่ม หรือถ้าอยากประหยัด ก็มีอาหารกินเล่น บะหมี่ถ้วยให้กดซื้อผ่านตู้ หรือร้านสะดวกซื้อก็ได้

          ความสุขของ จขกท คือซื้อขนม น้ำเก๊กฮวยมานั่งกินแล้วดูวิวจากกระจกผ่านเรือที่วิ่งไปช้าไปด้วย  ฟินมากกกก slow life สุดๆ


          ประเภทห้องที่ จขกท เลือกเป็น แบบห้องรวมแค็ปซูล tourist และ comfort ซึ่ง tourist จะถูกกว่าเล็กน้อยประมาณ 1000 เยน ความแตกต่างมีเพียงแค่เพดานด้านบนที่สูงกว่าเท่านั้น คหสต คิดว่า tourist ก็เพียงพอแล้วสำหรับแบ็คแพคเกอร์สายประหยัด อ้อ! ห้องประเภทนี้ ไม่มีผ้าเช็ดตัว กับชุดนอนให้นะครับ ให้เอามาเผื่อด้วย 

          ถือว่าโชคดี วันที่จขกทไปทั้งขาไป และขากลับ คลื่นทะเลสงบดี เรือไม่ค่อยโคลงเคลง นอนหลับสบายเหมือนอยู่บนฝั่งเลย55555

          เราสามารถออกไปด้านนอกเพื่อรับลมหนาว เอ้ย ชมวิวแบบ panorama ได้ ช่วงเช้าๆอาจจะเห็นนกมาบินโฉบไปมารอบเรือได้

          ถ้าวันไหนมีลมแรงมากๆ จะมีป้ายเตือนปิดที่ประตู ห้ามไม่ให้ออกไปด้านนอกระเบียง เหมือนที่ จขกท เจอตอนขากลับ เศร้ามาก แต่ไม่เป็นไรยังมีโซนห้องชมวิว ที่สามารถดูวิวได้ผ่านกระจกได้ (ก็ไม่ดีเท่าออกไประเบียงข้างนอกเนอะ)

          จบแล้วครับ เป็นรีวิวสั้นๆที่พาพี่ๆน้องๆไปดูว่าการเดินทางด้วยเรือเฟอร์รี่ญี่ปุ่นเป็นอย่างไร ไม่เลวใช่มั้ยครับ? ผมว่าก็เป็นทางเลือกที่ดีเวลาเดินทางระหว่างภูมิภาคไกลๆ ถึงจะใช้เวลาเดินทางนานหน่อย แต่ราคาไม่แพงถ้าเทียบกับรถไฟชินคันเซ็น ห้องประเภท tourist ราคาอยู่ที่ประมาณ 7,000 – 8,000 เยนเอง แถมยังประหยัดค่าที่พักไปได้ 1 คืน เอาเป็นว่าเป็นข้อมูลให้คนที่สนใจละกัน เพราะว่าไม่ค่อยมี update รีวิวเรือเฟอร์รี่ญี่ปุ่นมานานมากแล้วในพันทิป สำหรับผมให้คะแนนไปเลย 10 เต็ม 10 คร้าบ...