หาเงินหารายได้📢 เปิดบริษัททำคอนเทนต์ลง YouTube/TikTok ต้องใช้เงินลงทุนเท่าไหร่? 🤔💰

กระทู้สนทนา
แชร์ไอเดียหาเงิน ครับ
การเปิดบริษัททำคอนเทนต์ลง YouTube/TikTok ว่าต้องใช้เงินลงทุนเท่าไหร่ 
และมีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง 💸


1️⃣ โครงสร้างบริษัทและตำแหน่งจำเป็น
ถ้าเริ่มต้นแบบ ทีมเล็ก ขอแนะนำให้มี 2 ตำแหน่งหลัก เพื่อประหยัดต้นทุน
✅ 1. Content Creator (นักสร้างคอนเทนต์/พิธีกร/นักพูด) – คนคิดคอนเทนต์, ถ่ายคลิป, ตัดต่อ
✅ 2. Video Editor (ตัดต่อคลิป/กราฟิก) – คนที่ช่วยตัดต่อให้คลิปน่าสนใจ
🎯 ทางเลือกเสริม
ถ้ามีทุนเพิ่ม อาจจ้าง Script Writer (คนเขียนบท) 
และ Social Media Manager (ดูแลเพจและการตลาด)

 
2️⃣ ค่าใช้จ่ายหลักในการเริ่มต้น
📌 ค่าอุปกรณ์ (ลงทุนครั้งเดียว ต้นทุนประมาณ 50,000 - 150,000 บาท)
💻 คอมพิวเตอร์ตัดต่อ (MacBook หรือ PC แรงๆ) – 40,000 - 80,000 บาท
📷 กล้องถ่ายวิดีโอ (Sony ZV-1 หรือ Mirrorless) – 20,000 - 50,000 บาท
🎤 ไมโครโฟน (BOYA, Rode) – 1,500 - 5,000 บาท
💡 ไฟสตูดิโอ (Ring Light, Softbox) – 3,000 - 10,000 บาท
📌 ค่าเงินเดือนพนักงาน (จ่ายรายเดือน)
🎥 Content Creator – 20,000 - 30,000 บาท/เดือน
✂ Video Editor – 20,000 - 25,000 บาท/เดือน
รวม = 40,000 - 55,000 บาท/เดือน
อาจลดลง  เมื่อมีช่วงลองงานหรือโปร เป็นเดือนละ15000บาทหรือตามตกลง

📌 ค่าใช้จ่ายรายเดือนอื่นๆ
📡 อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง – 1,000 - 2,000 บาท
📍 ค่าโฆษณา (Ads/Boost Post) – 5,000 - 20,000 บาท
🏠 ค่าเช่าสตูดิโอ (ถ้ามี) – 5,000 - 15,000 บาท
 

3️⃣ รายได้และการคืนทุน
การหารายได้จาก YouTube/TikTok 💰
✅ YouTube AdSense → ค่า RPM เฉลี่ย 0.35 USD (12.50 บาท) / 1,000 วิว
✅ TikTok Creator Fund → รายได้ขึ้นกับยอดวิวและความนิยม
✅ สปอนเซอร์ (Brand Deals) → รายได้หลักของครีเอเตอร์
✅ ขายสินค้า/บริการ (Merch, คอร์สเรียน, Affiliate Marketing)

📌 ตัวอย่างการคำนวณรายได้ YouTube
ถ้า RPM = 0.35 USD (12.50 บาท)
ต้องการ 50,000 บาท/เดือน
👉 ต้องมียอดวิวรวม 4,000,000 วิว/เดือน
👉 ถ้าลง 8 คลิป/เดือน → ต้องการ 500,000 วิว/คลิป
🎯 แผนเพิ่มรายได้
ถ้าหา สปอนเซอร์ 1 เจ้า/เดือน อาจได้ 20,000 - 50,000 บาท
เพิ่มยอดวิวด้วย SEO, แชร์ลง Facebook, IG, Shorts, Reels

 
4️⃣ สรุปงบลงทุน
📌 ลงทุนเริ่มต้น (อุปกรณ์) ประมาณ 50,000 - 150,000 บาท
📌 เงินทุนหมุนเวียน (ค่าแรง + ค่าใช้จ่าย) ประมาณ 50,000 - 80,000 บาท/เดือน
📌 คืนทุนภายใน 6-12 เดือน ถ้ามีแผนหารายได้ที่ดี
💡 คำแนะนำ
✅ ถ้ายังไม่มีทุนเยอะ อาจเริ่มจาก ทำเองก่อน 1-2 เดือน แล้วค่อยจ้างทีม
✅ หา สปอนเซอร์หรือทำ Affiliate Marketing เสริม
✅ ลง เนื้อหาที่มี RPM สูง เช่น การเงิน, เทคโนโลยี, การศึกษา
 
❓เพื่อนๆ คิดว่าควรลงทุนเท่าไหร่ถึงจะคุ้ม?
.............
ทิปเล็กน้อย

1.สัญญาจ้าง ทำสัญญาแบบสัญญาจ้าง ดารา
ผลงานลิขสิทธิ์เป็นของบริษัท
ห้ามนำไปเผยแพร่ที่อื่น
กำหนดรายละเอียดสัญญาให้ละเอียด
2.ก่อนรับพนักงาน  ควรมีช่วงโปร3เดือน 
ให้เงินเดือน15000บาทหรือตามตกลงกัน
............
🔥 Tips ทำบริษัทคอนเทนต์ YouTube/TikTok ให้รุ่ง! 🔥
✅ 1. ทำคลิปให้คนดูจบ (Retention Rate สูง)
หัวใจของ YouTube/TikTok คือ "คนดูต้องอยู่กับเรานาน"
เปิดเรื่องให้ดึงดูดใจ (เช่น พูดปมปัญหาหรือเรื่องลับที่คนอยากรู้)
ตัดต่อให้เร็ว กระชับ ไม่เวิ่นเว้อ (ใส่ Jump Cut ได้)

✅ 2. หัวข้อ (Topic) สำคัญกว่ากล้องแพงๆ
เนื้อหาต้องตรงกับกลุ่มเป้าหมาย และมี "คุณค่า"
คอนเทนต์ที่ทำเงินได้ดีมักเกี่ยวกับ การเงิน, ธุรกิจ, เทคโนโลยี, สุขภาพ, การศึกษา
ใช้เครื่องมือช่วยหาไอเดีย เช่น Google Trends, Answer The Public, TubeBuddy

✅ 3. ตั้งชื่อคลิป + ปกคลิป ให้ดึงดูด (CTR สูงๆ)
ปกคลิปต้องมี ตัวอักษรใหญ่ + ภาพดึงดูดสายตา
ชื่อคลิปต้อง กระตุ้นอารมณ์ หรือสร้างความสงสัย❌ "วิธีหาเงินออนไลน์"
✅ "เด็ก 18 หาเงิน 1 แสนบาทได้ยังไง?"
✅ "กู้เงิน 1 ล้านแบบนี้ ธนาคารให้ผ่านทันที!"
✅ 4. ยิงโฆษณา (YouTube Ads, TikTok Ads) อย่างฉลาด
ถ้าคอนเทนต์ใหม่ๆ คนยังไม่รู้จัก ให้ใช้ งบเล็กๆ (100-500 บาท/วัน) โปรโมตคลิปแรกๆ
ถ้าเจอคลิปที่คนดูเยอะ ให้ยิงโฆษณาซ้ำ เพื่อปั้นให้ติดกระแส

✅ 5. กระจายคอนเทนต์ไปทุกแพลตฟอร์ม
ทำคลิป YouTube 10 นาที → ตัดไฮไลต์ลง TikTok, IG Reels, Facebook Reels
ใส่ลายน้ำหรือเครดิตไว้ในคลิป (กันคนก็อป)
✅ 6. ใช้ AI ช่วยให้ทำงานเร็วขึ้น!
ใช้ ChatGPT ช่วยคิดหัวข้อ + เขียนบท
ใช้ CapCut, Adobe Premiere Pro Auto Subtitle ทำซับไทย/อังกฤษเร็วๆ
ใช้ Canva, Photoshop ออกแบบปกคลิป

✅ 7. หารายได้มากกว่าแค่ YouTube AdSense!
💰 สปอนเซอร์ (Brand Deals) – รายได้หลักของครีเอเตอร์
💰 ขายสินค้า (Merch, คอร์สเรียน, E-Book) – รายได้ที่ Passive
💰 Affiliate Marketing (Shopee, Lazada, Amazon, Klook ฯลฯ)
🔥 จำไว้ว่า… "ยอดวิวเยอะ ≠ รายได้เยอะ" อยู่ที่ว่าเราหาเงินจากช่องทางไหนด้วย!

💡 มีทริคอะไรเพิ่มเติมบ้าง? แชร์กันได้นะ! 🚀
..........................
🎯 7 เหตุผลที่ควรเปิดบริษัททำคอนเทนต์

1. ภาษีถูกลง (ลดภาระภาษี)
บุคคลธรรมดา รายได้เกิน 1.2 ล้าน/ปี ต้องเสียภาษีสูงสุดถึง 35%
บริษัท เสียภาษี 15-20% เท่านั้น + ค่าต่างๆ เอามาหักลดหย่อนภาษีได้
ค่าอุปกรณ์ กล้อง ไมค์ ค่าโฆษณา เอามาลดภาษีได้หมด
💡 ถ้ารายได้เกิน 2-3 แสนบาท/เดือน จดบริษัทคุ้มกว่าแน่นอน!
 
2. จับงานสปอนเซอร์แบรนด์ใหญ่ได้ง่ายขึ้น
แบรนด์ใหญ่ๆ ไม่ค่อยจ้างบุคคลธรรมดา แต่ชอบดีลกับบริษัท
การมีบริษัทช่วยให้ ดูน่าเชื่อถือขึ้น ทำให้ได้ดีลโฆษณาแบบระยะยาว
💡 ตัวอย่าง: ถ้าบริษัทโทรศัพท์มือถือจะจ้างรีวิวสินค้า มักจะให้บริษัทออกใบกำกับภาษีได้
 
3. แยกเงินส่วนตัวกับเงินธุรกิจชัดเจน
ถ้าไม่เปิดบริษัท รายได้ทั้งหมดเข้าบัญชีส่วนตัว อาจทำให้จัดการเงินยาก
ถ้ามีบริษัท สามารถแบ่งเงินเดือนให้ตัวเอง + มีบัญชีธุรกิจแยกชัดเจน
💡 ช่วยให้ควบคุมค่าใช้จ่ายและวางแผนธุรกิจได้ดีขึ้น
 
4. จ้างทีมงาน + ขยายธุรกิจได้ง่าย
ถ้าทำคนเดียว = งานหนักมาก!
มีบริษัท = สามารถจ้างทีมงานแบบถูกต้องตามกฎหมาย
ทำให้ขยายธุรกิจได้ เช่น เพิ่มนักตัดต่อ, พิธีกร, ฝ่ายการตลาด
💡 ธุรกิจคอนเทนต์ที่โตไว เช่น ช่อง YouTube ใหญ่ๆ มักมีทีมงานเป็นบริษัท
 
5. สมัครสินเชื่อ/ขอทุนง่ายขึ้น
บริษัทสามารถ กู้เงินธุรกิจ ได้ง่ายกว่า
มีโอกาสขอทุนสนับสนุนจากหน่วยงานรัฐ/เอกชนได้
💡 เช่น: ขอเงินสนับสนุนจากโครงการ Startup หรือกู้สินเชื่อ SME ได้
 
6. ขายบริษัทหรือร่วมทุนได้ในอนาคต
ถ้าบริษัทมีกำไรและมีรายได้สม่ำเสมอ สามารถขายให้บริษัทอื่น หรือหานักลงทุนมาร่วมทุนได้
ทำให้ธุรกิจเติบโตไปอีกระดับ
💡 ตัวอย่าง: มีหลายช่อง YouTube ที่ถูกซื้อไปเพราะมีบริษัทชัดเจน
 
7. เพิ่มโอกาสเติบโตระยะยาว
ถ้าทำแบบบุคคลธรรมดา อาจติดเพดานรายได้หรือเติบโตได้ช้า
มีบริษัท = สร้างแบรนด์ได้ ขยายไปทำธุรกิจอื่นๆ เช่นสร้างสินค้าแบรนด์ตัวเอง
เปิดคอร์สออนไลน์
ทำ Production House
💡 คิดไกล = ได้เปรียบระยะยาว
 
📌 สรุป: ใครควรเปิดบริษัท?
✅ ถ้าทำ YouTube/TikTok เล่นๆ ไม่ต้องเปิดก็ได้
✅ ถ้ารายได้เริ่ม เกิน 200,000 บาท/เดือน หรืออยากขยายทีม จดบริษัทดีกว่า
✅ ถ้าจะรับงานจากแบรนด์ใหญ่ หรือหาเงินหลายทาง (เช่น ขายสินค้า) จดบริษัทคุ้มกว่าเยอะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่