สวัสดีค่ะ ขอระบายความในใจ และขอคำแนะนำจากเพื่อนๆด้วยค่ะ
พ่อแม่ของเราเลิกกันตั้งแต่เรา2ขวบ ตายาย(ญาติห่างๆทางฝั่งแม่)เป็นคนดูแลเรามาตลอด พ่อเราไม่เคยมาหา ส่วนแม่เราไปๆมาๆ ถ้าแม่มีแฟนใหม่ก็ไปอยู่บ้านแฟนใหม่ ถ้าเลิกกับแฟนก็กลับมาอยู่บ้านตายายค่ะ(ตอนนี้เลิกไปแล้ว2คน) ตายายคู่นี้หมายถึงคนที่เลี้ยงเรามานะคะ แกไม่มีลูกค่ะ เห็นเราตอนเด็กๆน่ารัก เลยเอามาเลี้ยง แม่เราก็คอยมาดูแลถ้าแม่มาอยู่ที่นี่ก็คือทำทุกอย่างค่ะ ดูแลทุกอย่างเลย ตายายเริ่มจะเจ็บป่วยช่วงที่เราเข้ามหาวิทยาลัยค่ะ เราเรียนที่ต่างจังหวัด แม่เราเลยมาดูแลตายายทำให้แม่ต้องเลิกกับแฟนใหม่เพราะแฟนใหม่แม่ไม่โอเคที่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน ระหว่างเราเรียน ตายายพ่อแม่ ก็ส่งเงินให้ค่ะ เป็นค่าเทอม ค่าหอ ค่ากิน ไม่เคยลำบากเลยค่ะ
ผ่านมา4ปี เราเรียนจบป.ตรี กลับมาอยู่บ้าน อยู่ดีๆ ยายก็ให้เรากับแม่พาไปธนาคาร ไปถอนเงินจากบัญชีของยาย8แสน เอามาซื้อสลากดิจิทัลเป็นชื่อของเรา (ไม่ได้บอกว่าจะให้เรา) พอแม่รู้ว่าเรามีเงิน แม่ขอยืมทำเรื่องให้พี่ชายไปทำงานที่ต่างประเทศ (พี่ชายคนละพ่อกับเรา ไม่สนิทกัน โสด อายุ30 แต่ไม่ทำงานทำการ ขอเงินแม่ทุกวัน แม่คิดว่าส่งไปอยู่ตปท.จะได้ไกลๆกัน ให้ไปทำงานเลี้ยงตัวเองบ้าง) ขอยืมเรา1แสน เราก็บอกว่าไม่ใช่เงินของเรา นี่คือเงินของยายให้มาซื้อสลากเก็บไว้ จะยืมก็ไปขอยายเอง เราก็ต่อว่าพี่ก็ไม่ทำงานทำการ ส่งไปอยู่คนเดียวคิดเหรอว่าจะไปรอด สรุปว่าแม่ก็จะไปทำงานด้วย เพื่อดูแล และควบคุมเงินของพี่ชาย และจะทยอยคืนเงินเรา เราก็ลำบากใจ แต่อยู่เฉยๆพี่ชายและแม่ก็ไม่มีรายได้ (แม่มาดูแลตายายก็เอาเงินเก็บมาใช้ ยายให้ไปซื้อกับข้าวบ้างเป็นบางครั้ง) เราก็เลยตัดสินใจให้ยืม เพราะคิดว่าแค่1แสน ไม่กี่เดือนคงจะคืนหมด เราไปถอนสลากที่ซื้อไว้ และเสียดอกเบี้ย เพราะยังฝากไม่ครบระยะเวลาที่กำหนด ให้แม่ยืม1แสน แม่กับพี่ชายไปลงครอสเรียน ต้องจ่ายค่าที่พักค่ากินเอง ผ่านไปไม่ถึง2เดือนเงินหมดเพราะไม่มีรายได้ และสอบไม่ผ่าน ยืมเราเพิ่มอีก1แสน บอกว่าจะรีบจัดการให้เสร็จ เราก็ให้ไป
ตัดภาพมาที่ชีวิตเรานะคะ ตายายไม่แข็งแรงต้องมีคนช่วยดูแลตลอด แม่เรากำลังจะไปทำงานต่างประเทศ เราตัดสินใจไม่ไปทำงานประจำ เราคบกันแฟนมานานแล้ว เราคุยเรื่องแต่งงาน อยากจัดงานแต่งให้เสร็จก่อนที่แม่จะไปต่างประเทศ แฟนก็ให้ญาติผู้ใหญ่มาขอ สินสอดเงิน5แสน ทอง2บาท ถัดมาอีก1เดือนก็จัดงานแต่งเลยค่ะ เสร็จจากงานแต่ง เราตัดสินใจเปิดร้านขายของชำ เพื่อที่จะดูแลตากับยายได้ และหลังร้านทำห้องนอนห้องน้ำห้องครัว เพราะเราจะนอนอยู่ที่ร้าน บ้านตากับยายห่างจากร้านประมาณ15เมตรค่ะ เดินไปมาหากันได้สะดวก เราเอาเงินสินสอดมาทำร้านและลงของหมดไป5.2แสน แฟนช่วยออกเงินเพิ่ม
จนถึงตอนนี้ แม่กับพี่ชายก็ยังไม่ได้ไปต่างประเทศ เพราะสอบไม่ผ่าน แม่เลยขอยืมเราเพิ่มอีก2แสน จะไปแบบผิดกฎหมาย มีคนพาไปที่โรงงาน แต่เรียกเก็บคนละ8หมื่น มาร้องไห้บอกว่าไหนๆก็เสียเงินไปแล้วถ้าไม่ให้แม่ยืมแม่ก็ไม่รู้จะเอาที่ไหนมาคืน แม่ขอยืมเพื่อเพื่อที่จะไปทำงาน จะได้รีบหามาคืน สรุปเราให้ยืมอีก2แสน แม่ก็โอนให้คนพาไป ทำเรื่องต่างๆไม่ถึง2สัปดาห์ก็ได้บินค่ะ ไปถึงผ่านเข้าประเทศ เข้าที่พักใกล้ๆโรงงาน แล้วเขาก็ให้เริ่มทำงานเลยค่ะ แม่กับพี่ชายไปเจอเถ้าแก่ใจดี เมียเถ้าแก่เป็นคนไทย พาญาติๆไปอยู่ที่นั่นกันหลายคน ทำให้รู้จักคนไทยเยอะค่ะ รายได้ดีเลยค่ะ ส่งเงินกลับมาคืนเราเดือนละ 20,000 ฝากให้ตากับยายอีก 10,000 ผ่านไป3เดือนกว่าๆ แม่ปวดหลัง ต้องกินยานอนพัก ไปทำงานวันเว้นวัน แต่เถ้าแก่ไม่ได้ไล่ออก เพราะเมียเถ้าแก่สงสารแม่เรา อยู่ที่นั่นเป็นคนเถื่อน หาหมอไม่ได้ ทำได้แค่ฝากเมียเถ้าแก่ซื้อยา โทรมาหาเราด้วยความเป็นแม่ลูกเราก็สงสาร บอกให้แม่กลับมาที่ไทย จะได้มารักษาตัว แม่ก็ตัดสินใจกลับมาค่ะ โดยฝากให้คนไทยที่นั่นดูแลพี่ชายให้ด้วย เพราะเขาก็เห็นว่าพี่ชายเป็นหลาน ทำ มาถึงก็พักรักษาตัวอยู่แปปนึง ขอยืมเงินเราไปเปิดร้านกาแฟหน้าโรงพยาบาล เพราะคนเยอะ น่าจะขายดี เจ้าของเก่าเซ้งร้าน 150,000 แม่เราหุ้นกับเพื่อนคนละครึ่ง ขอยืมเงินเราอีก7หมื่น เราก็ให้อีกค่ะ แม่จะได้มีรายได้ ระหว่างนี้พี่ชายก็ไม่เคยติดต่อมาหาแม่เลยค่ะ เมียเถ้าแก่โทรมาบอกว่าขอลาออกไปทำโรงงานอื่น เพราะมีเพื่อนที่เป็นคนไทยแล้ว จะไปทำโรงงานเดียวกับเพื่อน และเมียเถ้าแก่ก็ติดต่อไม่ได้ แม่ก็ขายกาแฟ(ระหว่างนี้ไม่ได้คืนเงินเรา) พี่ชายก็ทำงานอยู่ต่างประเทศ ไม่ได้ส่งเงินมาให้ ผ่านไป4เดือนค่ะ สถานทูตที่ตปท.ติดต่อมา ว่าเป็นญาติของพี่ชายหรือเปล่า พี่ชายโดนตำรวจจับ 1.เมาแล้วขับ (รถของเถ้าแก่คนใหม่) 2.ขับรถไม่มีใบอนุญาตขับขี่ 3.วีซ่าหมดอายุ
ทางต่างประเทศโทรมาแจ้งแม่เราว่าพี่ชายต้องติดคุกอยู่ที่นั่น แม่เราก็รีบให้คนไทยที่อยู่ที่นั่นไปหา ไปช่วยทำเรื่องให้ (ไม่รู้ว่าเขาให้ประกันตัวไหม เพราะไม่ได้ถาม รู้แค่ว่าพี่ชายไม่มีเงินเลย ทำงานมาได้ก็โอนให้ผู้หญิงไทยหมด เห็นบอกว่าเจอกันในเฟสบุ๊ค ผู้หญิงให้โอนเงินให้เพื่อเก็บไว้แต่งงาน) เราเลยบอกแม่ว่าให้ติดคุกไปเลย ดัดนิสัยบ้าง แม่เราก็ปล่อยให้ติดคุก สถานทูตบอกว่าในคุกมีงานให้ทำ ให้เก็บเงินค่าตั๋วกลับบ้าน ระหว่างนั้นพี่ชายก็ติดคุกอยู่ และช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน แม่เราขับรถไปชนรถคนอื่น ไม่มีประกัน เขาเรียกแค่ให้จ่ายค่าซ่อมรถให้เขา ค่าทำแผล ค่าทำขวัญเขาไม่เรียก ซ่อมรถเขา รถแม่เราหมดไป 260,000 ยืมเราอีก เราก็ให้ ถ้าไม่รับผิดชอบ กลัวเขาจะจับเข้าคุก พี่ชายติดคุกเกือบ5เดือน เขาให้ติดต่อญาติ ว่าจะให้ส่งกลับไหม แม่เราให้กลับ ยืมเงินส่งค่าตั๋วเครื่องบินให้พี่ชายอีก 30,000 เราก็ให้จ้าาาา พี่ชายกลับมาก็อยู่กับแม่ เราไม่รู้ข้อมูลว่าทำอะไร ประกอบอาชีพอะไร เพราะอยู่คนละที่กัน
ตัดภาพมาที่เรากับแฟน และตากับยาย ร้านค้าเราขายดี เริ่มมีเงินเก็บ อยู่แบบประหยัดไม่ฟุ่มเฟือย ดูแลกันอย่างดี ทำกับข้าว พาไปหาหมอ คือเรากับแฟนทำให้หมดทุกอย่าง ค่าใช้จ่ายค่าน้ำค่าไฟค่ากับข้าว เราจ่ายให้ทุกอย่าง เวลาผ่านไปใกล้จะ2ปี ยายเริ่มถามถึงเงินที่ซื้อสลาก ว่าใกล้ครบ2ปีหรือยัง เพราะจะเอามาลงทุนจ้างคนทำนาเพิ่ม เราก็มือไม้สั่น ไม่กล้าตอบ ตอบไปว่ายังอีกหลายเดือน ถ้าครบกำหนดแล้วจะบอก เรารีบโทรหาแม่ ว่ายายทวงเงินแล้วนะ รีบหามาคืนด้วย แม่บอกว่าจะรีบประกาศขายที่ดิน ถ้าขายได้จะให้ทั้งหมดเลย แม่บอกว่าแม่รู้สึกผิด ซัพพอร์ตพี่ชายหมดเงินไปเยอะ แต่ไม่เคยให้เงินทุนเราตั้งตัวเลย เราก็เอาใจช่วยให้ขายได้ ที่ดินประกาศขาย2ล้าน ก็ไม่มีคนซื้อ ลดเหลือ1.5ล้าน ก็ยังไม่มีคนมาซื้อ ยายก็เริ่มถามบ่อยๆ ว่าเงินฝากจะถอนได้เดือนไหน จะลงทุน จะเช่าที่เพิ่ม เราก็โทรทวงเงินแม่ แม่ก็ตอบว่ารอคนมาซื้อ ตอนนี้ยังไม่มีเงินคืนเรา เรื่องที่ทำให้เราบาดหมางใจมากที่สุดคือ เพื่อนแฟนเรามาทวงเงินกับแฟนเรา เพื่อนสนิทแฟน ที่รู้จักกับแม่เราด้วย บอกว่าแม่เรายืมเงินไป1แสน 3ปีแล้ว โทรไปทวงก็บอกไม่มี ยังไม่มี พักหลังมาบอกว่าให้ไปฟ้องเอาเอง แต่เพื่อนแฟนคงจะหมดความอดทนจริงๆ เพราะเงียบมาตลอด3ปี เรากับแฟนมารู้เรื่องตอนเขาทวง เรากับแฟนคุยกัน เลยตัดสินใจเอาทองไปขาย เพื่อใช้หนี้ให้แม่ เพราะโทรหาแม่ก็พูดแค่ว่าไม่มี ไม่มี และเพื่อนคนนี้สนิทกับแฟนเรามาก และเราว่าเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของแฟนเราแล้วแหละ หลังจากนั้นเราก็ติดต่อแม่ไม่ค่อยได้อีกเลย นานๆจะรับสายสักครั้ง เราถามว่าเรื่องเงินของยายจะเอาอย่างไร แม่ตอบว่าขายที่ได้จะให้หมดเลย เราเลยบอกอีก3เดือนจะครบแล้วนะ ที่ให้เราปิดบังยายมาตลอด แม่บอกว่าเดี๋ยวจะมาบอกความจริงเองว่าเป็นคนเอาเงินไปใช้
ตอนนี้เรากับแฟนทุกข์ใจมากๆค่ะ เรากับแฟนคุยกันทุกเรื่อง ช่วยกันแก้ปัญหาตลอด เงินเก็บขายเริ่มหมด เพราะต้องจ่ายให้ลูกน้อง และเช่าที่นาเพิ่ม เราทำได้แค่ เอาเงินของตัวเองให้ยายครั้งละ 3,000 5,000 เท่าที่ให้ได้ ไม่ได้คุยกับแม่เลยค่ะ เพราะเขาไม่รับสาย อยู่บ้านก็ทุกข์ใจ ลุ้นว่ายายจะถามเรื่องเงินไหม ไม่กล้าบอกความจริง เพราะช่วยโกหกมาตลอด เราเป็นคนที่นายไว้ใจให้ดูแลเงิน แต่เราทำไม่ได้ ที่ไร่ที่นา บ้าน ที่ขายกำลังจะโอนให้ เราก็คงไม่ได้แล้วค่ะ และถ้าบอกความจริงกลัวยายจะช็อคด้วยค่ะ เดือนเมษายนนี้ก็ครบ2ปีแล้ว เราควรทำอย่างไรดีคะ เพื่อนๆให้คำแนะนำหน่อยได้ไหมคะ
แม่ยืมเงิน8แสนที่ยายฝากไว้ จนทำให้เราเดือดร้อนเพราะใจอ่อนให้ยืม
พ่อแม่ของเราเลิกกันตั้งแต่เรา2ขวบ ตายาย(ญาติห่างๆทางฝั่งแม่)เป็นคนดูแลเรามาตลอด พ่อเราไม่เคยมาหา ส่วนแม่เราไปๆมาๆ ถ้าแม่มีแฟนใหม่ก็ไปอยู่บ้านแฟนใหม่ ถ้าเลิกกับแฟนก็กลับมาอยู่บ้านตายายค่ะ(ตอนนี้เลิกไปแล้ว2คน) ตายายคู่นี้หมายถึงคนที่เลี้ยงเรามานะคะ แกไม่มีลูกค่ะ เห็นเราตอนเด็กๆน่ารัก เลยเอามาเลี้ยง แม่เราก็คอยมาดูแลถ้าแม่มาอยู่ที่นี่ก็คือทำทุกอย่างค่ะ ดูแลทุกอย่างเลย ตายายเริ่มจะเจ็บป่วยช่วงที่เราเข้ามหาวิทยาลัยค่ะ เราเรียนที่ต่างจังหวัด แม่เราเลยมาดูแลตายายทำให้แม่ต้องเลิกกับแฟนใหม่เพราะแฟนใหม่แม่ไม่โอเคที่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน ระหว่างเราเรียน ตายายพ่อแม่ ก็ส่งเงินให้ค่ะ เป็นค่าเทอม ค่าหอ ค่ากิน ไม่เคยลำบากเลยค่ะ
ผ่านมา4ปี เราเรียนจบป.ตรี กลับมาอยู่บ้าน อยู่ดีๆ ยายก็ให้เรากับแม่พาไปธนาคาร ไปถอนเงินจากบัญชีของยาย8แสน เอามาซื้อสลากดิจิทัลเป็นชื่อของเรา (ไม่ได้บอกว่าจะให้เรา) พอแม่รู้ว่าเรามีเงิน แม่ขอยืมทำเรื่องให้พี่ชายไปทำงานที่ต่างประเทศ (พี่ชายคนละพ่อกับเรา ไม่สนิทกัน โสด อายุ30 แต่ไม่ทำงานทำการ ขอเงินแม่ทุกวัน แม่คิดว่าส่งไปอยู่ตปท.จะได้ไกลๆกัน ให้ไปทำงานเลี้ยงตัวเองบ้าง) ขอยืมเรา1แสน เราก็บอกว่าไม่ใช่เงินของเรา นี่คือเงินของยายให้มาซื้อสลากเก็บไว้ จะยืมก็ไปขอยายเอง เราก็ต่อว่าพี่ก็ไม่ทำงานทำการ ส่งไปอยู่คนเดียวคิดเหรอว่าจะไปรอด สรุปว่าแม่ก็จะไปทำงานด้วย เพื่อดูแล และควบคุมเงินของพี่ชาย และจะทยอยคืนเงินเรา เราก็ลำบากใจ แต่อยู่เฉยๆพี่ชายและแม่ก็ไม่มีรายได้ (แม่มาดูแลตายายก็เอาเงินเก็บมาใช้ ยายให้ไปซื้อกับข้าวบ้างเป็นบางครั้ง) เราก็เลยตัดสินใจให้ยืม เพราะคิดว่าแค่1แสน ไม่กี่เดือนคงจะคืนหมด เราไปถอนสลากที่ซื้อไว้ และเสียดอกเบี้ย เพราะยังฝากไม่ครบระยะเวลาที่กำหนด ให้แม่ยืม1แสน แม่กับพี่ชายไปลงครอสเรียน ต้องจ่ายค่าที่พักค่ากินเอง ผ่านไปไม่ถึง2เดือนเงินหมดเพราะไม่มีรายได้ และสอบไม่ผ่าน ยืมเราเพิ่มอีก1แสน บอกว่าจะรีบจัดการให้เสร็จ เราก็ให้ไป
ตัดภาพมาที่ชีวิตเรานะคะ ตายายไม่แข็งแรงต้องมีคนช่วยดูแลตลอด แม่เรากำลังจะไปทำงานต่างประเทศ เราตัดสินใจไม่ไปทำงานประจำ เราคบกันแฟนมานานแล้ว เราคุยเรื่องแต่งงาน อยากจัดงานแต่งให้เสร็จก่อนที่แม่จะไปต่างประเทศ แฟนก็ให้ญาติผู้ใหญ่มาขอ สินสอดเงิน5แสน ทอง2บาท ถัดมาอีก1เดือนก็จัดงานแต่งเลยค่ะ เสร็จจากงานแต่ง เราตัดสินใจเปิดร้านขายของชำ เพื่อที่จะดูแลตากับยายได้ และหลังร้านทำห้องนอนห้องน้ำห้องครัว เพราะเราจะนอนอยู่ที่ร้าน บ้านตากับยายห่างจากร้านประมาณ15เมตรค่ะ เดินไปมาหากันได้สะดวก เราเอาเงินสินสอดมาทำร้านและลงของหมดไป5.2แสน แฟนช่วยออกเงินเพิ่ม
จนถึงตอนนี้ แม่กับพี่ชายก็ยังไม่ได้ไปต่างประเทศ เพราะสอบไม่ผ่าน แม่เลยขอยืมเราเพิ่มอีก2แสน จะไปแบบผิดกฎหมาย มีคนพาไปที่โรงงาน แต่เรียกเก็บคนละ8หมื่น มาร้องไห้บอกว่าไหนๆก็เสียเงินไปแล้วถ้าไม่ให้แม่ยืมแม่ก็ไม่รู้จะเอาที่ไหนมาคืน แม่ขอยืมเพื่อเพื่อที่จะไปทำงาน จะได้รีบหามาคืน สรุปเราให้ยืมอีก2แสน แม่ก็โอนให้คนพาไป ทำเรื่องต่างๆไม่ถึง2สัปดาห์ก็ได้บินค่ะ ไปถึงผ่านเข้าประเทศ เข้าที่พักใกล้ๆโรงงาน แล้วเขาก็ให้เริ่มทำงานเลยค่ะ แม่กับพี่ชายไปเจอเถ้าแก่ใจดี เมียเถ้าแก่เป็นคนไทย พาญาติๆไปอยู่ที่นั่นกันหลายคน ทำให้รู้จักคนไทยเยอะค่ะ รายได้ดีเลยค่ะ ส่งเงินกลับมาคืนเราเดือนละ 20,000 ฝากให้ตากับยายอีก 10,000 ผ่านไป3เดือนกว่าๆ แม่ปวดหลัง ต้องกินยานอนพัก ไปทำงานวันเว้นวัน แต่เถ้าแก่ไม่ได้ไล่ออก เพราะเมียเถ้าแก่สงสารแม่เรา อยู่ที่นั่นเป็นคนเถื่อน หาหมอไม่ได้ ทำได้แค่ฝากเมียเถ้าแก่ซื้อยา โทรมาหาเราด้วยความเป็นแม่ลูกเราก็สงสาร บอกให้แม่กลับมาที่ไทย จะได้มารักษาตัว แม่ก็ตัดสินใจกลับมาค่ะ โดยฝากให้คนไทยที่นั่นดูแลพี่ชายให้ด้วย เพราะเขาก็เห็นว่าพี่ชายเป็นหลาน ทำ มาถึงก็พักรักษาตัวอยู่แปปนึง ขอยืมเงินเราไปเปิดร้านกาแฟหน้าโรงพยาบาล เพราะคนเยอะ น่าจะขายดี เจ้าของเก่าเซ้งร้าน 150,000 แม่เราหุ้นกับเพื่อนคนละครึ่ง ขอยืมเงินเราอีก7หมื่น เราก็ให้อีกค่ะ แม่จะได้มีรายได้ ระหว่างนี้พี่ชายก็ไม่เคยติดต่อมาหาแม่เลยค่ะ เมียเถ้าแก่โทรมาบอกว่าขอลาออกไปทำโรงงานอื่น เพราะมีเพื่อนที่เป็นคนไทยแล้ว จะไปทำโรงงานเดียวกับเพื่อน และเมียเถ้าแก่ก็ติดต่อไม่ได้ แม่ก็ขายกาแฟ(ระหว่างนี้ไม่ได้คืนเงินเรา) พี่ชายก็ทำงานอยู่ต่างประเทศ ไม่ได้ส่งเงินมาให้ ผ่านไป4เดือนค่ะ สถานทูตที่ตปท.ติดต่อมา ว่าเป็นญาติของพี่ชายหรือเปล่า พี่ชายโดนตำรวจจับ 1.เมาแล้วขับ (รถของเถ้าแก่คนใหม่) 2.ขับรถไม่มีใบอนุญาตขับขี่ 3.วีซ่าหมดอายุ
ทางต่างประเทศโทรมาแจ้งแม่เราว่าพี่ชายต้องติดคุกอยู่ที่นั่น แม่เราก็รีบให้คนไทยที่อยู่ที่นั่นไปหา ไปช่วยทำเรื่องให้ (ไม่รู้ว่าเขาให้ประกันตัวไหม เพราะไม่ได้ถาม รู้แค่ว่าพี่ชายไม่มีเงินเลย ทำงานมาได้ก็โอนให้ผู้หญิงไทยหมด เห็นบอกว่าเจอกันในเฟสบุ๊ค ผู้หญิงให้โอนเงินให้เพื่อเก็บไว้แต่งงาน) เราเลยบอกแม่ว่าให้ติดคุกไปเลย ดัดนิสัยบ้าง แม่เราก็ปล่อยให้ติดคุก สถานทูตบอกว่าในคุกมีงานให้ทำ ให้เก็บเงินค่าตั๋วกลับบ้าน ระหว่างนั้นพี่ชายก็ติดคุกอยู่ และช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน แม่เราขับรถไปชนรถคนอื่น ไม่มีประกัน เขาเรียกแค่ให้จ่ายค่าซ่อมรถให้เขา ค่าทำแผล ค่าทำขวัญเขาไม่เรียก ซ่อมรถเขา รถแม่เราหมดไป 260,000 ยืมเราอีก เราก็ให้ ถ้าไม่รับผิดชอบ กลัวเขาจะจับเข้าคุก พี่ชายติดคุกเกือบ5เดือน เขาให้ติดต่อญาติ ว่าจะให้ส่งกลับไหม แม่เราให้กลับ ยืมเงินส่งค่าตั๋วเครื่องบินให้พี่ชายอีก 30,000 เราก็ให้จ้าาาา พี่ชายกลับมาก็อยู่กับแม่ เราไม่รู้ข้อมูลว่าทำอะไร ประกอบอาชีพอะไร เพราะอยู่คนละที่กัน
ตัดภาพมาที่เรากับแฟน และตากับยาย ร้านค้าเราขายดี เริ่มมีเงินเก็บ อยู่แบบประหยัดไม่ฟุ่มเฟือย ดูแลกันอย่างดี ทำกับข้าว พาไปหาหมอ คือเรากับแฟนทำให้หมดทุกอย่าง ค่าใช้จ่ายค่าน้ำค่าไฟค่ากับข้าว เราจ่ายให้ทุกอย่าง เวลาผ่านไปใกล้จะ2ปี ยายเริ่มถามถึงเงินที่ซื้อสลาก ว่าใกล้ครบ2ปีหรือยัง เพราะจะเอามาลงทุนจ้างคนทำนาเพิ่ม เราก็มือไม้สั่น ไม่กล้าตอบ ตอบไปว่ายังอีกหลายเดือน ถ้าครบกำหนดแล้วจะบอก เรารีบโทรหาแม่ ว่ายายทวงเงินแล้วนะ รีบหามาคืนด้วย แม่บอกว่าจะรีบประกาศขายที่ดิน ถ้าขายได้จะให้ทั้งหมดเลย แม่บอกว่าแม่รู้สึกผิด ซัพพอร์ตพี่ชายหมดเงินไปเยอะ แต่ไม่เคยให้เงินทุนเราตั้งตัวเลย เราก็เอาใจช่วยให้ขายได้ ที่ดินประกาศขาย2ล้าน ก็ไม่มีคนซื้อ ลดเหลือ1.5ล้าน ก็ยังไม่มีคนมาซื้อ ยายก็เริ่มถามบ่อยๆ ว่าเงินฝากจะถอนได้เดือนไหน จะลงทุน จะเช่าที่เพิ่ม เราก็โทรทวงเงินแม่ แม่ก็ตอบว่ารอคนมาซื้อ ตอนนี้ยังไม่มีเงินคืนเรา เรื่องที่ทำให้เราบาดหมางใจมากที่สุดคือ เพื่อนแฟนเรามาทวงเงินกับแฟนเรา เพื่อนสนิทแฟน ที่รู้จักกับแม่เราด้วย บอกว่าแม่เรายืมเงินไป1แสน 3ปีแล้ว โทรไปทวงก็บอกไม่มี ยังไม่มี พักหลังมาบอกว่าให้ไปฟ้องเอาเอง แต่เพื่อนแฟนคงจะหมดความอดทนจริงๆ เพราะเงียบมาตลอด3ปี เรากับแฟนมารู้เรื่องตอนเขาทวง เรากับแฟนคุยกัน เลยตัดสินใจเอาทองไปขาย เพื่อใช้หนี้ให้แม่ เพราะโทรหาแม่ก็พูดแค่ว่าไม่มี ไม่มี และเพื่อนคนนี้สนิทกับแฟนเรามาก และเราว่าเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของแฟนเราแล้วแหละ หลังจากนั้นเราก็ติดต่อแม่ไม่ค่อยได้อีกเลย นานๆจะรับสายสักครั้ง เราถามว่าเรื่องเงินของยายจะเอาอย่างไร แม่ตอบว่าขายที่ได้จะให้หมดเลย เราเลยบอกอีก3เดือนจะครบแล้วนะ ที่ให้เราปิดบังยายมาตลอด แม่บอกว่าเดี๋ยวจะมาบอกความจริงเองว่าเป็นคนเอาเงินไปใช้
ตอนนี้เรากับแฟนทุกข์ใจมากๆค่ะ เรากับแฟนคุยกันทุกเรื่อง ช่วยกันแก้ปัญหาตลอด เงินเก็บขายเริ่มหมด เพราะต้องจ่ายให้ลูกน้อง และเช่าที่นาเพิ่ม เราทำได้แค่ เอาเงินของตัวเองให้ยายครั้งละ 3,000 5,000 เท่าที่ให้ได้ ไม่ได้คุยกับแม่เลยค่ะ เพราะเขาไม่รับสาย อยู่บ้านก็ทุกข์ใจ ลุ้นว่ายายจะถามเรื่องเงินไหม ไม่กล้าบอกความจริง เพราะช่วยโกหกมาตลอด เราเป็นคนที่นายไว้ใจให้ดูแลเงิน แต่เราทำไม่ได้ ที่ไร่ที่นา บ้าน ที่ขายกำลังจะโอนให้ เราก็คงไม่ได้แล้วค่ะ และถ้าบอกความจริงกลัวยายจะช็อคด้วยค่ะ เดือนเมษายนนี้ก็ครบ2ปีแล้ว เราควรทำอย่างไรดีคะ เพื่อนๆให้คำแนะนำหน่อยได้ไหมคะ