เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2568 องค์การจดหมายข่าวนักวิทยาศาสตร์ด้านปรมาณู (Bulletin of the Atomic Scientists) ได้ปรับ “นาฬิกาวันสิ้นโลก” (Doomsday Clock) ให้เหลือเวลาเพียง 89 วินาทีก่อนเที่ยงคืน ซึ่งเป็นการปรับเวลาให้ใกล้เคียงกับหายนะมากที่สุดในประวัติศาสตร์ 
การปรับเวลาครั้งนี้สะท้อนถึงความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นจากหลายปัจจัย เช่น ความขัดแย้งทางนิวเคลียร์ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการพัฒนาของปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่อาจก่อให้เกิดภัยคุกคามต่อมนุษยชาติ 
แดเนียล โฮลซ์ ประธานคณะกรรมการองค์การจดหมายข่าวนักวิทยาศาสตร์ด้านปรมาณู กล่าวว่า “เราตั้งนาฬิกาให้ใกล้เที่ยงคืนมากขึ้น เพราะเราไม่เห็นความคืบหน้าในการแก้ปัญหาระดับโลกที่เราเผชิญอยู่ รวมถึงความเสี่ยงจากนิวเคลียร์ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ภัยคุกคามทางชีวภาพ และความก้าวหน้าในเทคโนโลยีที่ก่อกวน” 
“
คนไทยเฮ! นาฬิกาวันสิ้นโลกเดินหน้า เหลือ 89 วินาที!”
หลังจากที่องค์การจดหมายข่าวนักวิทยาศาสตร์ด้านปรมาณู (Bulletin of the Atomic Scientists) ประกาศปรับ “นาฬิกาวันสิ้นโลก” (Doomsday Clock) ให้เหลือเพียง 89 วินาทีก่อนเที่ยงคืน คนทั่วโลกอาจตื่นตระหนกกับข่าวนี้ แต่คนไทยจำนวนไม่น้อยกลับแสดงความยินดีและเฉลิมฉลองกับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้!
ข้อดีของนาฬิกาวันสิ้นโลกที่เดินหน้า
1. ปลดหนี้ ปลดสิน ไม่ต้องผ่อนอะไรอีกแล้ว
ใครที่กำลังเป็นหนี้บ้าน หนี้รถ หรือมีบัตรเครดิตรูดเต็มวงเงิน งานนี้แทบไม่ต้องกังวล! ถ้านาฬิกาเดินถึงเที่ยงคืนจริง ๆ โลกอาจล่มสลายก่อนที่ธนาคารจะตามมาทวงหนี้เสียอีก!
2. ไม่ต้องกังวลอนาคต ทำวันนี้ให้ดีที่สุด
ปกติแล้ว คนเรามักจะกังวลเรื่องอนาคต ต้องวางแผนการเงิน เก็บเงินเพื่อวัยเกษียณ แต่เมื่อเวลาโลกเหลืออีกไม่กี่นาที จะเครียดไปทำไม? ใช้ชีวิตให้เต็มที่ กินของแพง เที่ยวให้สุด แล้วค่อยว่ากันอีกที (ถ้ายังมีวันพรุ่งนี้)
3. โบนัสความสุข : งานไม่ต้องทำ การบ้านไม่ต้องส่ง
สำหรับพนักงานที่โดนหัวหน้ากดดัน หรือเด็กนักเรียนที่มีการบ้านเป็นกองพะเนิน ข่าวนี้อาจเป็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ ไม่ต้องเครียดกับเดดไลน์อีกต่อไป เพราะเดดไลน์ของโลกอาจมาเร็วกว่าที่คิด!
4. เลิกกังวลเรื่องสิ่งแวดล้อม โลกจะแก้ปัญหาตัวเอง!
ปัญหาโลกร้อน? น้ำแข็งขั้วโลกละลาย? ไม่ต้องห่วงแล้ว เพราะถ้าโลกถึงจุดจบจริง ๆ ปัญหาสิ่งแวดล้อมจะกลายเป็นอดีตทันที!
5. ไม่ต้องรอวันหวยออก ชีวิตคือการเดิมพันครั้งสุดท้าย
สำหรับคอหวยที่ลุ้นทุกงวด ข่าวนี้อาจทำให้ไม่ต้องรอให้ถึงวันที่ 1 หรือ 16 อีกต่อไป เพราะชีวิตทั้งชีวิตอาจจะเป็นการเสี่ยงโชคครั้งใหญ่ที่ไม่มีใครรู้ผลลัพธ์ล่วงหน้า
คนไทยมองโลกในแง่ดี!
แม้ว่านาฬิกาวันสิ้นโลกจะเป็นสัญลักษณ์เตือนภัยของมนุษยชาติ แต่คนไทยจำนวนไม่น้อยก็ยังคงใช้ชีวิตด้วยอารมณ์ขัน และหาทางสนุกกับทุกสถานการณ์ ไม่ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นจะดีหรือร้ายก็ตาม
“ถ้าจะสิ้นโลกจริง ๆ ก็ขอให้ได้กินหมูกระทะก่อนสักมื้อ!” เสียงจากชาวโซเชียลที่ยังคงโพสต์กันสนุกสนาน
ถึงแม้ว่านาฬิกาวันสิ้นโลกจะเดินหน้าไปเรื่อย ๆ แต่ตราบใดที่ยังมีวันนี้ คนไทยก็ยังคงใช้ชีวิตให้มีความสุข และไม่ลืมที่จะหัวเราะให้กับทุกสถานการณ์!
นาฬิกาวันสิ้นโลกถูกสร้างขึ้นในปี 1947 เพื่อเตือนสาธารณชนถึงความเสี่ยงที่มนุษยชาติกำลังเผชิญ โดยใช้เวลาเที่ยงคืนเป็นสัญลักษณ์ของจุดสิ้นสุดของโลก การปรับเวลาในครั้งนี้เป็นการเตือนให้ผู้นำโลกและประชาชนทั่วไปร่วมมือกันแก้ไขปัญหาที่อาจนำไปสู่หายนะ 
เกิดอะไรขึ้น ! คนไทยแห่ดีใจ หลังมีประกาศนับถอยหลังเวลา ปรับ ‘นาฬิกาวันสิ้นโลก’ เหลือ 89 วินาทีก่อนเที่ยงคืน
การปรับเวลาครั้งนี้สะท้อนถึงความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นจากหลายปัจจัย เช่น ความขัดแย้งทางนิวเคลียร์ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการพัฒนาของปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่อาจก่อให้เกิดภัยคุกคามต่อมนุษยชาติ 
แดเนียล โฮลซ์ ประธานคณะกรรมการองค์การจดหมายข่าวนักวิทยาศาสตร์ด้านปรมาณู กล่าวว่า “เราตั้งนาฬิกาให้ใกล้เที่ยงคืนมากขึ้น เพราะเราไม่เห็นความคืบหน้าในการแก้ปัญหาระดับโลกที่เราเผชิญอยู่ รวมถึงความเสี่ยงจากนิวเคลียร์ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ภัยคุกคามทางชีวภาพ และความก้าวหน้าในเทคโนโลยีที่ก่อกวน” 
“คนไทยเฮ! นาฬิกาวันสิ้นโลกเดินหน้า เหลือ 89 วินาที!”
หลังจากที่องค์การจดหมายข่าวนักวิทยาศาสตร์ด้านปรมาณู (Bulletin of the Atomic Scientists) ประกาศปรับ “นาฬิกาวันสิ้นโลก” (Doomsday Clock) ให้เหลือเพียง 89 วินาทีก่อนเที่ยงคืน คนทั่วโลกอาจตื่นตระหนกกับข่าวนี้ แต่คนไทยจำนวนไม่น้อยกลับแสดงความยินดีและเฉลิมฉลองกับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้!
ข้อดีของนาฬิกาวันสิ้นโลกที่เดินหน้า
1. ปลดหนี้ ปลดสิน ไม่ต้องผ่อนอะไรอีกแล้ว
ใครที่กำลังเป็นหนี้บ้าน หนี้รถ หรือมีบัตรเครดิตรูดเต็มวงเงิน งานนี้แทบไม่ต้องกังวล! ถ้านาฬิกาเดินถึงเที่ยงคืนจริง ๆ โลกอาจล่มสลายก่อนที่ธนาคารจะตามมาทวงหนี้เสียอีก!
2. ไม่ต้องกังวลอนาคต ทำวันนี้ให้ดีที่สุด
ปกติแล้ว คนเรามักจะกังวลเรื่องอนาคต ต้องวางแผนการเงิน เก็บเงินเพื่อวัยเกษียณ แต่เมื่อเวลาโลกเหลืออีกไม่กี่นาที จะเครียดไปทำไม? ใช้ชีวิตให้เต็มที่ กินของแพง เที่ยวให้สุด แล้วค่อยว่ากันอีกที (ถ้ายังมีวันพรุ่งนี้)
3. โบนัสความสุข : งานไม่ต้องทำ การบ้านไม่ต้องส่ง
สำหรับพนักงานที่โดนหัวหน้ากดดัน หรือเด็กนักเรียนที่มีการบ้านเป็นกองพะเนิน ข่าวนี้อาจเป็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ ไม่ต้องเครียดกับเดดไลน์อีกต่อไป เพราะเดดไลน์ของโลกอาจมาเร็วกว่าที่คิด!
4. เลิกกังวลเรื่องสิ่งแวดล้อม โลกจะแก้ปัญหาตัวเอง!
ปัญหาโลกร้อน? น้ำแข็งขั้วโลกละลาย? ไม่ต้องห่วงแล้ว เพราะถ้าโลกถึงจุดจบจริง ๆ ปัญหาสิ่งแวดล้อมจะกลายเป็นอดีตทันที!
5. ไม่ต้องรอวันหวยออก ชีวิตคือการเดิมพันครั้งสุดท้าย
สำหรับคอหวยที่ลุ้นทุกงวด ข่าวนี้อาจทำให้ไม่ต้องรอให้ถึงวันที่ 1 หรือ 16 อีกต่อไป เพราะชีวิตทั้งชีวิตอาจจะเป็นการเสี่ยงโชคครั้งใหญ่ที่ไม่มีใครรู้ผลลัพธ์ล่วงหน้า
คนไทยมองโลกในแง่ดี!
แม้ว่านาฬิกาวันสิ้นโลกจะเป็นสัญลักษณ์เตือนภัยของมนุษยชาติ แต่คนไทยจำนวนไม่น้อยก็ยังคงใช้ชีวิตด้วยอารมณ์ขัน และหาทางสนุกกับทุกสถานการณ์ ไม่ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นจะดีหรือร้ายก็ตาม
“ถ้าจะสิ้นโลกจริง ๆ ก็ขอให้ได้กินหมูกระทะก่อนสักมื้อ!” เสียงจากชาวโซเชียลที่ยังคงโพสต์กันสนุกสนาน
ถึงแม้ว่านาฬิกาวันสิ้นโลกจะเดินหน้าไปเรื่อย ๆ แต่ตราบใดที่ยังมีวันนี้ คนไทยก็ยังคงใช้ชีวิตให้มีความสุข และไม่ลืมที่จะหัวเราะให้กับทุกสถานการณ์!
นาฬิกาวันสิ้นโลกถูกสร้างขึ้นในปี 1947 เพื่อเตือนสาธารณชนถึงความเสี่ยงที่มนุษยชาติกำลังเผชิญ โดยใช้เวลาเที่ยงคืนเป็นสัญลักษณ์ของจุดสิ้นสุดของโลก การปรับเวลาในครั้งนี้เป็นการเตือนให้ผู้นำโลกและประชาชนทั่วไปร่วมมือกันแก้ไขปัญหาที่อาจนำไปสู่หายนะ