- บทนี้เริ่มต้นต่อจากตอนที่แล้ว โลกิฟื้นขึ้นมาและถามแชมร็อคว่าเขามีความเกี่ยวข้องกับโจรสลัด "แชงค์ ผมแดง" หรือไม่

 

โลกิ: โจรสลัดผู้ยิ่งใหญ่กับภาคีอัศวินเทพ เป็นสิ่งที่ตรงข้ามกันโดยสิ้นเชิงเลยนะ แล้วทำไมพวกนายถึงมีหน้าตาเหมือนกันล่ะ?

- แชมร็อคเผยว่า แชงค์ เป็นน้องชายฝาแฝดของเขาที่เติบโตแยกจากกันมา แชมร็อคบอกว่าแชงค์เคยกลับมาที่แมรีจัวส์ครั้งหนึ่ง แต่เขากลับเลือกที่จะใช้ชีวิตอยู่ในโลกสกปรกเบื้องล่างนี้แทน (ไปเป็นโจรสลัด) (ไม่มีแฟลชแบ็คของแชงค์ในส่วนนี้ มีแค่บทสนทนา)

- โลกิ กล่าวต่อว่า น่าสนุกดีที่ตอนนี้เขามีความแค้นกับทั้งคู่เลย 

แชมร็อค: นายกำลังขู่ฉันงั้นหรือ?

กุนโกะ : อย่าเสียเวลากับคนแบบเขาเลย

แชมร็อค: ฉันรู้... ไม่มีความจำเป็นที่ฉันต้องลงมือเอง...เซอร์เบอรัส

- แชมร็อคชักดาบออกมา จากนั้นสุนัขสามหัวขนาดยักษ์ที่เรียกว่า "เซอร์เบอรัส" ก็ปรากฏตัวออกมาจากดาบ (ยังไม่แน่ชัดว่าเป็นพลังของ "อาคุมะ โนะ มิ" หรือไม่)

- เซอร์เบอรัสตัวนี้คล้ายกับซอมบี้ของ โมเรีย แต่ดูน่ากลัวกว่ามาก มีกลุ่มเมฆสีดำลอยอยู่รอบคอ และมีดาบสามเล่มโผล่ออกมาจากปากของมันแต่ละหัว

- กุนโกะใช้พลังลูกธนูสร้างนกขนาดยักษ์ขึ้นมา แล้วลอยตัวขึ้นบนฟ้าพร้อมแชมร็อค ก่อนที่ทั้งคู่จะลอยบนฟ้าไปพร้อมธนูนกยักษ์ แชมร็อคก็แปลงกลายเซอร์เบอรัสเป็นดาบสามเล่ม ก่อนพวกเขาทั้งคู่จะบินจากไป

แชมร็อค : ถ้าแกรอดไปจากนี่ได้ อยากมาแก้แค้นก็ตามสบาย ฉันจะเป็นคู่ต่อสู้ให้เอง 

- หัวของหมาสามหัวกลายเป็นดาบแล้วพุ่งเข้าใส่โลกิ โลกิกล่าวในใจว่าถ้าโดงแทงด้วยดาบนี้เขาแย่แน่ ๆ พร้อมตะโกนด่าว่า ภาคีอัศวินเทพนั้นเลวที่สุด ก่อนดาบทั้งสามเล่มจะแทงเข้าตัวโลกิไปอย่างจัง

- ขณะเดียวกัน แชมร็อค และกุนโกะที่บินจากมาก็คุยกันว่า ณ ตอนนี้ยังไม่สามารถกดขี่คนยักษ์ได้ ให้เริ่มจากจับยักษ์เด็กก่อน พร้อมสั่งให้เรียกอีกคนมาสมทบ

กุนโกะ: รับทราบ... ต้องการให้เป็นใคร? 

• ตัดฉากไปยัง "ออรัส" ที่ถูกพบในตอนที่แล้ว

- ลูฟี่ โกรธเพราะยักษ์ที่เป็นยามบอกว่าพวกเขาถูก "แชงค์ผมแดง" โจมตี ลูฟี่ไม่อยากเชื่อสิ่งที่ได้ยิน 

- นามิหัวเราะแล้วบอกว่านายเชื่อมั่นในตัวแชงค์มากเลยหรอ

ลูฟี่ (โกรธ): แน่นอนอยู่แล้ว!! นามิ!! เธอก็คงโกรธเหมือนกันถ้ามีใครพูดไม่ดีเกี่ยวกับ โมริแมร์ ใช่ไหมล่ะ!!

นามิ: เขาชื่อ เบลเมล ต่างหาก!

ยักษ์:  ถ้าอย่างนั้น... เขาก็คงเป็นใครสักคนที่หน้าตาเหมือนกันเป๊ะ... หรือไม่ก็อาจจะเป็นพี่น้องกัน...

ลูฟี่: พี่ชายของแชงค์เหรอ? ถ้ามีจริง ๆ ฉันก็นึกออกอยู่ ว่าจะต้องเป็นคนดีแน่ ๆ แต่ฉันไม่เคยได้ยินแชงค์พูดถึงครอบครัวของเขาเลยนะ เท่าที่รู้เขาอยู่บนเรือโจรสลัดตั้งแต่เด็ก ๆ มั้งนะ ฉันว่าครอบครัวของเขาคงเป็นพวกโรเจอร์, เรย์ลี่... ลูกเรือโรเจอร์ทั้งหมดนั่นแหละ!! ยกเว้นเจ้าบาร์กี้

(ขณะที่ลูฟี่พูดถึงกลุ่มโจรสลัดโรเจอร์ ฉากก็ตัดไปที่ชายลึกลับที่เคยเห็นเมื่อไม่กี่ตอนก่อน)

- เราเห็นเพียงแผ่นหลังของเขา แต่เขาคือคนเดียวกับที่เคยนั่งดื่มกับ โครคัส ในภาพปกตอนที่ 632

- ชายลึกลับกำลังเดินไปยัง ปราสาทออรัส ตอนนี้เขาอยู่ใกล้ประตูหลักมากแล้ว

• ตัดฉากไปที่แฟรงกี้

- แฟรงกี้กำลังตรวจสอบ "Treasure Tree Adam" ร่วมกับ ริปลีย์

- แฟรงกี้มองเห็น ภาพจิตรกรรมฝาผนังขนาดใหญ่ ที่สลักอยู่บนต้นไม้ (แต่ตอนนี้เรายังมองไม่เห็นว่ามันเป็นภาพอะไร)

ริปลีย์: ฉันเชื่อว่านี่เป็นภาพวาดของเด็ก ๆ จากอดีตที่กลายเป็นฟอสซิลและหลอมรวมเข้ากับเปลือกไม้

ภาพจิตรกรรมฝาผนังนี้มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์อย่างยิ่ง จนถือเป็นหนึ่งในมรดกทางวัฒนธรรมของประเทศนี้เลย มีการคาดการณ์ว่าภาพเหล่านี้ถูกวาดขึ้นเมื่อราว ๆ 800 ถึง 900 ปีก่อน ถ้านั่นเป็นเรื่องจริง ก็หมายความว่ามันอยู่ในช่วงเวลาเดียวกับ ร้อยปีที่ว่างเปล่านะ 

แฟรงกี้: ว่าไงนะ!? งั้นเราต้องให้โรบินดู... เดี๋ยวฉันจะบอกเธอทีหลังเอง แต่แปลกจังถ้าเป็นภาพวาดของเอลบัฟมันไม่ดูเหมือน 'ยักษ์' เลยนะ

- ขณะที่ แฟรงกี้ พูด เราเห็นภาพบางส่วนจากจิตรกรรมฝาผนังนั้น: เจ้าหญิงเงือก, หุ่นยนต์ที่ดูคล้ายเอมีธ, และ สิ่งมีชีวิตที่มีหูแปลกประหลาด

ริปลีย์:  ฉันก็คิดแบบนั้น... ในประวัติศาสตร์ที่เรารู้มา แม้ว่าจะเคยมีสงครามระหว่างเผ่าพันธุ์ต่าง ๆ แต่ก็ไม่มีการรวมตัวกันเป็นพันธมิตรเลยสักครั้ง ซึ่งทำให้แน่ใจว่าภาพนี้เป็นเพียงแค่ภาพวาดของเด็ก ๆ เท่านั้นแหละ

• ตัดฉากไปที่ "หอสมุดนกฮูก"

- เซาโล หยิบหนังสือ "ฮาร์ลีย์" ซึ่งเป็นคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ของเอลบัฟ ออกมาเพื่อให้โรบินดู

- หนังสือเล่มนี้เก่าแก่เป็นอย่างมาก และมี สัญลักษณ์พระอาทิตย์บนปกหนังสือ ซึ่งเหมือนกับสัญลักษณ์ที่เราเคยเห็นในโบสถ์ของ คุมะ ในฉากย้อนอดีตของเขา

- เซาโล อธิบายว่ามีการตีความเกี่ยวกับ "เทพแห่งดวงอาทิตย์" อยู่มากมาย ตัวเขาและจังหวะกลองของเขาปรากฏในตำนานทั่วโลก

"ฮาร์ลีย์" มีทั้งหมด 3 บท และแต่ละบทแสดงถึง "หนึ่งโลก" บทที่สาม คือโลกที่พวกเขาอาศัยอยู่ในปัจจุบัน และตอนท้ายของบทนี้บอกล่วงหน้าถึงสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น

- โรบิน มองไปที่หนังสือ "ฮาร์ลีย์" แล้วบอกว่าจะอ่านมัน เดี๋ยวนี้เลย

- ในหน้าคู่สุดท้ายที่อลังการสุด ๆ ของตอนนี้ เราได้เห็นภาพจิตรกรรมฝาผนังเต็มรูปแบบ พร้อมกับข้อความจากคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ "ฮาร์ลีย์" ที่โรบินกำลังอ่าน

• Treasure Tree Adam ตั้งอยู่ตรงกลางของจิตรกรรมฝาผนังและแบ่งภาพออกเป็นสองส่วน

ด้านบนของต้นไม้ มีอสูรหรือปีศาจที่มีปีก กำลังพ่นไฟออกจากปาก

ด้านขวาของจิตรกรรมฝาผนัง เป็นมืองขนาดใหญ่กำลังถูกโจมตีโดย งูยักษ์

อีกฝั่งหนึ่ง คือเรือยักษ์ (Ark) ที่มี กษัตริย์, เทวทูต และสัตว์ต่าง ๆ อยู่บนเรือ และยังมีดวงจันทร์ และกลุ่มคนที่กำลังถวายเครื่องบูชา (ซึ่งมีลักษณะเหมือนดวงดาว)

ภาพในส่วนนี้คล้ายกับ ภาพวาดที่เอเนลพบในดวงจันทร์

ด้านซ้ายของจิตรกรรมมีสงครามครั้งใหญ่

นิกะ หรือจอยบอย กำลังต่อสู้กับ ปีศาจปีกใหญ่ ที่ถือ ดวงอาทิตย์ ไว้ในมือ นิกะไม่ได้ต่อสู้เพียงลำพัง เพราะข้างกายเขามีพันธมิตรจากเผ่าต่าง ๆ ได้แก่

- ยักษ์ (หนึ่งในนั้นมีเขา)

- ซามูไร

- ลูนาเรียน

- เผ่ามิงค์

- เจ้าหญิงเงือก พร้อมเหล่าสัตว์ทะเล

- เทวทูต

- หุ่นยนต์ที่คล้ายกับเอมีธ

กองเรือมนุษย์จำนวนมากหนึ่งในนั้นดูเหมือนเป็นเรือของอาณาจักรอาราบาสตา

• และนี่คือสิ่งที่ถูกเขียนไว้ใน "คัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ฮาร์ลีย์"

โลกแรก

"บนโลก มีเปลวเพลิง..."

มนุษย์ที่ถูกความโลภครอบงำ ได้แตะต้องดวงอาทิตย์ต้องห้าม ผู้ถูกกดขี่สวดภาวนา เทพแห่งดวงอาทิตย์ ปรากฏตัว เทพแห่งผืนโลกโกรธ พร้อมกับ

อสรพิษแห่งเพลิงนรก พวกเขาได้กลืนกินโลกด้วยความตายและความมืดมิด "พวกเขาไม่อาจพบกันอีกได้..."

โลกที่สอง

"ในความว่างเปล่า ยังมีเสียงลมหายใจ..."

เทพแห่งพงไพร ได้ส่งอสูรออกไป

ดวงอาทิตย์ไม่ได้นำสิ่งใดมา นอกจากการหว่านเมล็ดแห่งสงคราม...

เหล่า "พระจันทร์ครึ่งเสี้ยว" ได้เห็นความฝัน

ผู้คนแห่งดวงจันทร์ ได้เห็นความฝัน

มนุษย์กลายเป็นเทพเจ้า หลังจากล้มล้างดวงอาทิตย์

เทพแห่งท้องทะเลอาละวาด

"พวกเขาไม่อาจพบกันอีกได้..."

โลกที่สาม

"ในความโกลาหล มีความว่างเปล่า..."

จดจำเงามืดที่ทุกข์ทรมานได้

วันแห่งพันธสัญญา และเสียงของดวงจันทร์ที่แตกเป็นเสี่ยง ๆ "เทพแห่งดวงอาทิตย์" เต้นรำและหัวเราะนำพาโลกไปสู่จุดจบ...

ดวงอาทิตย์จะหวนคืนมา และรุ่งอรุณใหม่จะมาถึง

พวกเขาจะได้พบกันอีกครั้ง

---

จบตอน – ไม่หยุดสัปดาห์หน้า