หลังโควิดเป็นต้นมา เราคิดว่าเศรษฐกิจโลกไม่ดีเป็นส่วนใหญ่ แต่ถ้ามองเรื่องการท่องเที่ยวอย่างเดียวนี่ถือว่าไม่จริงเลย ตอนนี้หลายประเทศเจอปัญหาจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มกลับมาอย่างรวดเร็ว ต่างประเทศใช้คำว่า Revenge Travel ก็คืออัดอั้นมานาน ต้องตะลุยเที่ยวเอาคืนให้สาสม พอเป็นแบบนี้ก็เลยมีผลกระทบกับแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งประเทศปลายทางเริ่มมองว่าเป็นปัญหา ต้องมีมาตรการบรรเทาแก้ไข ลองรวบรวมสรุปข่าวที่ได้อ่านได้ดูในรอบหลายเดือนเกี่ยวกับเรื่องนี้ในหลายๆ ประเทศ 


1.    ฝรั่งเศส รัฐบาลมีแผนการจะย้ายภาพเขียน Mona Lisa ออกไปจัดแสดงในห้องแยก ก็คือมีห้องส่วนตัวไปเลยเพื่อลดความแออัด และมีแผนจัดเก็บภาษีเพิ่มเติมจากนักท่องเที่ยวที่มาจากนอกสหภาพยุโรป 

2.    โครเอเทีย ประเทศนี้มีนักท่องเที่ยวจากเรือสำราญเยอะมาก มีแผนการที่จะลดจำนวนโต๊ะ-เก้าอี้ ในร้านอาหาร ร้านกาแฟ ลดจำนวนร้านขายของที่ระลึกเพื่อจำกัด ลดความแออัดจำนวนนักท่องเที่ยว

3.    สเปน เคยมีปัญหากระทบกระทั่งระหว่างนักท่องเที่ยวกับคนท้องถิ่น มีการประท้วงขับไล่นักท่องเที่ยว

4.    ไอซแลนด์ Iceland ประเทศนี้ค่าใช้จ่ายสูงอยู่แล้ว เก็บภาษีเพิ่มอีก และเพิ่มการเก็บภาษีจากเรือสำราญ Cruise ship

5.    ญี่ปุ่น เกาหลีใต้  มีการจำกัดจำนวน หรือจำกัดโซน จำกัดพื้นที่ห้ามเข้าสำหรับนักท่องเที่ยว

6.    อินโดนีเซีย ระงับการสร้างโรงแรมใหม่บนเกาะบาหลีทั้งหมด ปัจจุบันนี้มีชาวต่างชาติอาศัยอยู่ที่บาหลีแบบระยะยาวอยู่แล้วประมาณ 200,000 คน

7.    กรีซ มีโบราณสถานเก่าแก่จำนวนมาก ใช้การจองคิวเข้าชมล่วงหน้า เป็นรายชั่วโมง รายวัน จำกัดจำนวนเรือ cruise ship ที่เข้าจอดบริเวณเกาะ 

8.    นิวซีแลนด์ เกาะกาลาปากอส เพิ่มภาษีนักท่องเที่ยว มีหลายประเทศมากที่ใช้วิธีเพิ่มภาษีนักท่องเที่ยว จำได้ไม่หมด และบางประเทศ ถึงเพิ่มภาษีแล้ว นักท่องเที่ยวก็ยังเพิ่มขึ้นอยู่ดี 

9.    อเมริกา : ประเทศใหญ่ ส่วนใหญ่แล้วปัญหานักท่องเที่ยวล้นเมืองไม่มี จะมีปัญหาผู้อพยพล้นเมืองซะมากกว่า คนอเมริกันเองก็เที่ยวแถวเม็กซิโก แคริบเบียนกันเยอะ แต่กลับกัน คนจากประเทศรอบข้างมาเที่ยวอเมริกากันไม่มากเพราะค่าใช้จ่ายสูงกว่า
*** เมืองนิวยอร์คเคยออกกฎห้ามการเข้าพักระยะสั้น แต่กลายเป็นว่าทำให้ New Jersey มีการเติบโตของลูกค้า Airbnb สูงสุดในประเทศ

แล้วกรุงเทพของเรา ถือว่านักท่องเที่ยวล้นเมืองหรือยังครับ