โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยนายกฯ สั่งการคมนาคมแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 เร่งด่วน ล่าสุดให้ขึ้นรถไฟฟ้า รถเมล์ฟรี 7 วัน 25-31 ม.ค.นี้ หวังลดการใช้รถยนต์ส่วนตัว ลดฝุ่น PM2.5
วันนี้ (24 ม.ค.) นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมา น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้มีข้อสั่งการไปยังกระทรวงคมนาคม และส่วนราชการอื่น ๆ ในการแก้ไขปัญหาเร่งด่วน โดยนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คมนาคม ได้รายงานว่า หลังจากที่นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการเร่งด่วน จึงได้มอบหมายให้กระทรวงคมนาคม เข้าดูแลบริหารจัดการ ด้านโครงข่ายคมนาคม เพื่อลดปัญหา PM 2.5 ดังนี้
1. รถไฟฟ้าทั้งบนดิน และใต้ดินให้บริการฟรี 7 วัน ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (25 ม.ค.) ไปถึงวันที่ 31 ม.ค. 2568 โดยได้สั่งการให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ในสังกัดของกระทรวงคมนาคมให้บริการฟรี ทุกเส้นทาง
ส่วนรถไฟฟ้าบีทีเอส และรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน ได้เจรจากับผู้ประกอบการที่ให้บริการประชาชน ซึ่งได้แก่ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จํากัด (มหาชน) และ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ให้ใช้รถไฟฟ้าฟรีทุกสายในระยะ 7 วัน ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (25 ม.ค.) ไปจนถึง 31 ม.ค. 2568 สำหรับรายได้ของทางเอกชนที่สูญเสียไปนั้น ทางรัฐบาลจะชดเชยตามค่าเฉลี่ย 7 วัน รวมประมาณ 140 ล้านบาท โดยมาจากงบกลาง
2. เพื่อเป็นการส่งเสริมการใช้รถสาธารณะ และลดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล จึงให้องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ให้ประชาชนใช้บริการรถเมล์ฟรี ทุกสาย ในระยะเวลา 7 วันเช่นกัน ตั้งแต่วันที่ 25 ม.ค. ถึง 31 ม.ค. 2568
3. ให้หน่วนงานกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ลงพื้นที่ตรวจวัดค่าควันดำรถโดยสารสาธารณะและรถบรรทุก เพื่อแก้ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ในกรุงเทพมหานคร จำนวน 8 จุด ประกอบด้วย 1. บริเวณหน้าฟิวเจอพาร์ครังสิต 2. ท่าเรือคลองเตย 3. หน้าสวนจตุจักร ถนนพหลโยธิน 4. ถนนบางนา-ตราด กม. 1 5. ถนนสุวินทวงศ์ หน้าการประปามีนบุรี 6. ถนนพระรามที่ 2 ขาออก หน้าแขวงการทางบางขุนเทียน 7. ถนนรังสิต-นครนายก กม.4 หน้าโลตัส 8. ถนนบรมราชชนนี ขาเข้า-ออก โดยหลังจากนี้ จะให้เจ้าพนักงานกระจายตามจุดต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อเข้าควบคุมมลภาวะทางรถยนต์ให้ได้มากที่สุด
ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคม พร้อมที่จะพัฒนาโครงข่ายระบบขนส่งสาธารณะหลักให้ครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ขับเคลื่อนการพัฒนาเส้นทางระบบขนส่งสาธารณะรอง (Feeder) ในการเชื่อมต่อการเดินทาง เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนสามารถเข้าถึงระบบขนส่งสาธารณะได้อย่างมีศักยภาพและมีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อโอกาสของประเทศไทย และเพื่อให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นทุกด้าน
4. ให้กรมทางหลวง (ทล.) กรมทางหลวงชนบท (ทช.) การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และหน่วยงานที่มีการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมต่าง ๆ เข้าบริหารจัดการพื้นที่ทันที เบื้องต้นให้ผู้รับเหมาฉีดพรมน้ำ ทำความสะอาดล้อรถที่เข้า – ออกพื้นที่ก่อสร้าง กวาดล้างถนนที่เปื้อนดินจากการก่อสร้าง ปิดคลุมวัสดุก่อสร้างในการเก็บกองและขนย้าย และจัดการขยะอย่างเหมาะสม ห้ามเผาเด็ดขาด
ขอบคุณที่มา:
https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000007533?tbref=hp
อุ๊งอิ๊งจัดให้ ขึ้นรถไฟฟ้า-รถเมล์ฟรี 25-31 ม.ค. ลดฝุ่น PM 2.5
วันนี้ (24 ม.ค.) นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมา น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้มีข้อสั่งการไปยังกระทรวงคมนาคม และส่วนราชการอื่น ๆ ในการแก้ไขปัญหาเร่งด่วน โดยนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คมนาคม ได้รายงานว่า หลังจากที่นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการเร่งด่วน จึงได้มอบหมายให้กระทรวงคมนาคม เข้าดูแลบริหารจัดการ ด้านโครงข่ายคมนาคม เพื่อลดปัญหา PM 2.5 ดังนี้
1. รถไฟฟ้าทั้งบนดิน และใต้ดินให้บริการฟรี 7 วัน ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (25 ม.ค.) ไปถึงวันที่ 31 ม.ค. 2568 โดยได้สั่งการให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ในสังกัดของกระทรวงคมนาคมให้บริการฟรี ทุกเส้นทาง
ส่วนรถไฟฟ้าบีทีเอส และรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน ได้เจรจากับผู้ประกอบการที่ให้บริการประชาชน ซึ่งได้แก่ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จํากัด (มหาชน) และ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ให้ใช้รถไฟฟ้าฟรีทุกสายในระยะ 7 วัน ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (25 ม.ค.) ไปจนถึง 31 ม.ค. 2568 สำหรับรายได้ของทางเอกชนที่สูญเสียไปนั้น ทางรัฐบาลจะชดเชยตามค่าเฉลี่ย 7 วัน รวมประมาณ 140 ล้านบาท โดยมาจากงบกลาง
2. เพื่อเป็นการส่งเสริมการใช้รถสาธารณะ และลดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล จึงให้องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ให้ประชาชนใช้บริการรถเมล์ฟรี ทุกสาย ในระยะเวลา 7 วันเช่นกัน ตั้งแต่วันที่ 25 ม.ค. ถึง 31 ม.ค. 2568
3. ให้หน่วนงานกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ลงพื้นที่ตรวจวัดค่าควันดำรถโดยสารสาธารณะและรถบรรทุก เพื่อแก้ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ในกรุงเทพมหานคร จำนวน 8 จุด ประกอบด้วย 1. บริเวณหน้าฟิวเจอพาร์ครังสิต 2. ท่าเรือคลองเตย 3. หน้าสวนจตุจักร ถนนพหลโยธิน 4. ถนนบางนา-ตราด กม. 1 5. ถนนสุวินทวงศ์ หน้าการประปามีนบุรี 6. ถนนพระรามที่ 2 ขาออก หน้าแขวงการทางบางขุนเทียน 7. ถนนรังสิต-นครนายก กม.4 หน้าโลตัส 8. ถนนบรมราชชนนี ขาเข้า-ออก โดยหลังจากนี้ จะให้เจ้าพนักงานกระจายตามจุดต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อเข้าควบคุมมลภาวะทางรถยนต์ให้ได้มากที่สุด
ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคม พร้อมที่จะพัฒนาโครงข่ายระบบขนส่งสาธารณะหลักให้ครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ขับเคลื่อนการพัฒนาเส้นทางระบบขนส่งสาธารณะรอง (Feeder) ในการเชื่อมต่อการเดินทาง เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนสามารถเข้าถึงระบบขนส่งสาธารณะได้อย่างมีศักยภาพและมีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อโอกาสของประเทศไทย และเพื่อให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นทุกด้าน
4. ให้กรมทางหลวง (ทล.) กรมทางหลวงชนบท (ทช.) การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และหน่วยงานที่มีการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมต่าง ๆ เข้าบริหารจัดการพื้นที่ทันที เบื้องต้นให้ผู้รับเหมาฉีดพรมน้ำ ทำความสะอาดล้อรถที่เข้า – ออกพื้นที่ก่อสร้าง กวาดล้างถนนที่เปื้อนดินจากการก่อสร้าง ปิดคลุมวัสดุก่อสร้างในการเก็บกองและขนย้าย และจัดการขยะอย่างเหมาะสม ห้ามเผาเด็ดขาด
ขอบคุณที่มา: https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000007533?tbref=hp