รถราก็น้อยลง การเผาเพื่อการเกษตรก็น้อยลง ที่ว่าง ที่เว้นวรรคก็มากขึ้น ที่สีเขียวก็มากขึ้น กิจกรรมทางสังคมก็หายไปเกือบครึ่ง โรงงานอุตสาหกรรมไม่มีแรงงาน ก็คงหายไปเกือบครึ่ง เนี้ย!!! ปัญหา PM 2.5 ก็จบลงโดยปริยาย
ขนาดเศรษฐกิจแน่นอน ก็คงลดลง หุ้นก็คงลง แล้วยังไง GDP โตปีละไม่ถึง 5 อย่างทุกวันนี้ชีวิตมันก็ไม่ได้ดีเด่อะไร แต่ตายผ่อนส่ง มะเร็งปอดจะถามหาวันไหนก็ไม่รู้ กลับกัน GDP เหลือ 1 แต่ประชาชนมีกินมีใช้ ไม่ต้องแก่งแย่งแข่งขันดิ้นรนเบียดเสียด
ยังหาข้อดีของประชากรลดและการไม่มีลูกไม่ออกเลยนะ ทำไมเรียกมันว่าวิกฤติ ทั้งที่ดูดีๆมันคือโอกาสที่คนน้อยๆจะมีชีวิตที่ดีขึ้นเสียอีก
ปัญหา PM 2.5 แก้ได้ด้วยวิกฤติคนไทยเกิดน้อยนั่นเองแหละ เหลือ 40 ล้านคนเมื่อไหร่ก็อยุ่กันหลวมๆละ รออีก 50 ปี
ขนาดเศรษฐกิจแน่นอน ก็คงลดลง หุ้นก็คงลง แล้วยังไง GDP โตปีละไม่ถึง 5 อย่างทุกวันนี้ชีวิตมันก็ไม่ได้ดีเด่อะไร แต่ตายผ่อนส่ง มะเร็งปอดจะถามหาวันไหนก็ไม่รู้ กลับกัน GDP เหลือ 1 แต่ประชาชนมีกินมีใช้ ไม่ต้องแก่งแย่งแข่งขันดิ้นรนเบียดเสียด
ยังหาข้อดีของประชากรลดและการไม่มีลูกไม่ออกเลยนะ ทำไมเรียกมันว่าวิกฤติ ทั้งที่ดูดีๆมันคือโอกาสที่คนน้อยๆจะมีชีวิตที่ดีขึ้นเสียอีก