วันนี้เรามีประสบการณ์เรื่องการจ่ายเงินที่บิ๊กซี มาแชร์ให้ทุกคนรับรู้ และถามความคิดเห็นชาวพันทิปด้วยค่ะ
เรื่องเกิดเมื่อวาน 22 มกราคม 2568 ช่วงเวลาค่ำๆ เรากับแฟนไปบิ๊กซี สาขาพระราม 2 (ที่ตรงข้ามโลตัส พระราม2 เพราะบ้านอยู่ฝั่งเดียวกับบิ๊กซี เลยขี้เกียจปีนสะพานลอย ทั้งที่ในใจช่วงหลัง พอใจกับโลตัสมากกว่า) เราเข้าเคาน์เตอร์ เลข 9 เคาน์เตอร์สุดท้าย พนง.ใส่ชุดธรรมดา ยอดสินค้า 169 บาท เราก็ยื่นแบงก์ 1000 ให้ 1 ใบ และบอกแคชเชียร์ว่า พี่มีเศษ 9 บาท ระหว่างที่ควักหยิบเศษ ก็เหมือนจะเหลือบๆ เห็นมีคนมาต่อคิว และมีพนง.อีกคนมาที่ตู้นี้ แต่ก็ไม่สนใจอะไร ยื่นเหรียญให้ พนง.ก็ยื่นแบงก์ให้ เรารับมาพร้อมใบเสร็จ ยังไม่ได้นับ และยังถือในมือ อีกมือเราก็ช่วยแฟนหยิบของใส่กระเป๋าช้อปปิ้งที่เตรียมมา พนง.คนคิดเงินก็เดินออกไป และพนง.คนใหม่นี้ใส่ชุดกี่เพ้า ก็คิดเงินให้คนในคิว
คราวนี้ เรากำลังจะเก็บเงิน เราก็เช็คใบเสร็จ และมองเงินในมือ เราจำได้ว่า เรายื่นแบงก์พัน (เพราะในตัวมีแบงก์พัน กะแบงก์ร้อย แต่ต้องการแตกแบงก์พันอีกใบ ก็เลยจ่ายด้วยแบงก์พัน) เราก็รีบเปิดกระเป๋าสตางค์เราดูว่า เราเก็บแบงก์ 500 ไปหรือยัง และรีบค้นในกระเป๋าช้อปปิ้งว่า มันหล่นในกระเป๋าหรือเปล่า ก็หาไม่เจอ ก็เลยบอกแคชเชียร์ที่ใส่กี่เพ้าว่า น้องช่วยดูให้พี่ ทำไมเงินทอนมีแค่นี้ พี่ให้แบงก์พัน และใบเสร็จก็ระบุว่า 1009 ในยอดที่ชำระ
พนง.กี่เพ้าก็บอกว่า จะไปถามให้ หลังจากนั้นกลับมาพูดว่า ลูกค้ายื่นแบงก์ 500 ค่ะ พนง.คีย์ผิด คีย์เป็นแบงก์พัน เรานะ งงสุดๆ อึ้งกิมกี่ พูดไม่ออกแป๊บนึง แล้วก็รีบยืนกรานว่า ยื่นแบงก์พัน สักพัก พนง.ในชุดฟอร์มบิ๊กซี คาดว่า มีตำแหน่งที่สามารถเปิดเก๊ะเงินได้ มารับใบเสร็จไป และถามว่า ลูกค้าชำระเท่าไร เรารีบตอบ 1009 บาท ซึ่งตรงกับที่แสดงในใบเสร็จ และเราถามหากล้องวงจรปิด ซึ่งมองไม่เห็นสักจุด พนง.คนดังกล่าวนี้ก็แจ้งว่า ต้องขอนับเงินที่เคาน์เตอร์ดูก่อน เราก็เห็นด้วย และระหว่างนั้น สังเกตเห็นพนง.ในชุดฟอร์มอีกคน เป็นผู้ชาย เดินมาและจดๆ จ้องๆ เรากะแฟน
พอเขานับเงินเสร็จ เขาก็คุยแบบซุบซิบๆ กับพนง.ผู้ชายคนนี้ และยื่นแบงก์ 500 คืนเรา และขอโทษเรา เราก็พูดว่า พี่ถูกใช่ไหม ทำไมเป็นแบบนี้ ตอนนั้นอารมณ์ขึ้นละ พนง.ตอบว่า น้องเขาคงเบลอ แล้วก็ขอโทษอีก และพนง.ผู้ชายก็พูดขอโทษเช่นกัน และพวกเขาก็เดินไปที่เคาน์เตอร์ลูกค้าสัมพันธ์ (customer service) เรายังรู้สึกโกรธ เลยเดินตามไป ถามว่า น้องคนไหน พนง.คนในชุดฟอร์มที่นับเงิน พูดว่า ไม่ใช่น้อง แต่เป็นพี่ เราก็มองตามสายตาเขา ณ จุดตรงนั้นมีพนง.นั่งหน้าคอมพ์ 1 คน และยืนคร่อมคนนั่งอีก 2 คน แต่ทั้ง 3 คนนั้น ไม่มีใครสักคนที่หันมามองเรา ซึ่งเรารู้สึกแปลกใจมาก คิดในใจว่า นี่หรือ customer service บริการแบบนี้กันหรอ เรากวาดตาไปมองอีกด้าน เห็นพนง.ชุดกี่เพ้าคนนั้นมองมาสบตาเรา ด้วยสายตาไม่เป็นมิตร เราก็เลยพูดขึ้นมาว่า พี่เสียความรู้สึกจริงๆ และก็เดินออกไป ไม่หันกลับไปมองอีก
เรากลับถึงบ้าน ยังมีอารมณ์โกรธ เลยเล่าให้พี่น้องในกลุ่มไลน์ฟัง พี่ชายคนแรกแนะให้นับเงินทอนเรียบร้อยก่อนเดินออกจากเคาน์เตอร์ พี่ชายอีกคนบอกว่า พนง.พูดแบบจงใจโทษว่า ลูกค้าผิดเอง ต้องเขียนคำติชม ส่วนพี่ชายอีกคนก็บอกว่า สาขานี้ไม่ค่อยมีคนแล้ว น้องชายบอกว่า เขาเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ ถ้าเป็นหลักร้อย ต้องนับก่อน เหมือนตั้งใจทอนไม่ครบ
ก่อนนอน เราเลยเข้าเวบไซต์ของบิ๊กซี และไปหย่อนคำติชม แต่ก็รู้ว่า มันคงไปไม่ถึงไหน แล้วพนง.ก็อาจทำอีก (หากเขาตั้งใจทุจริต)
เช้านี้เลยคิดๆ ว่า เราต้องการอะไรกันแน่จากเหตุการณ์เมื่อคืน
- ต้องการเอาผิดพนง.แคชเชียร์ที่ทอนเงินผิด และจงใจปัดความผิดว่าเป็นลูกค้าที่ผิด
- ต้องการเอาผิดพนง.ชุดกี่เพ้าที่จ้องหน้าจ้องตาจะกินเลือดเรา และสายตาไม่สำนึกผิด
-ต้องการเอาผิดบริษัทบิ๊กซี ที่ไม่อบรมพนง.ให้มี service mind มากกว่านี้
และคิดเพิ่มไปอีกว่า ที่เราโกรธ เพราะกระทบอัตตาเราหรือเปล่า
กรรมใดใครก่อ กรรมนั้นย่อมสนอง เราควรปล่อยให้กรรมลงโทษคนก่อ หากผู้นั้นมีเจตนาทำให้เราเสียหายหรือเปล่า
คำตอบของเรา คือ ไม่รู้ค่ะ ... 555
ยังมีคำถามในหัวอยู่ เช่น
พนง.แคชเชียร์สามารถคีย์เงินผิดได้ โดยไม่ต้องแก้ไขได้ด้วยหรอ
ทำไมพวกเขาทำเหมือนเป็นเรื่องปกติกันเลย และหากพนง.แคชเชียร์แอบตอดแบงก์ 500 ขึ้นมา (ไม่รู้ทำได้ไหม) แล้วคนนับเงิน นับไม่ตรง เขาจะแก้ไขเหตุการณ์นี้ยังไง เขาจะยังคืนเงินเราไหม เรื่องคงต้องถึงโรงพัก ใช่ไหม
ชาวพันทิปเคยเจอแบบนี้กันไหม..
ใครเคยเจอแบบเราบ้างคะ
เรื่องเกิดเมื่อวาน 22 มกราคม 2568 ช่วงเวลาค่ำๆ เรากับแฟนไปบิ๊กซี สาขาพระราม 2 (ที่ตรงข้ามโลตัส พระราม2 เพราะบ้านอยู่ฝั่งเดียวกับบิ๊กซี เลยขี้เกียจปีนสะพานลอย ทั้งที่ในใจช่วงหลัง พอใจกับโลตัสมากกว่า) เราเข้าเคาน์เตอร์ เลข 9 เคาน์เตอร์สุดท้าย พนง.ใส่ชุดธรรมดา ยอดสินค้า 169 บาท เราก็ยื่นแบงก์ 1000 ให้ 1 ใบ และบอกแคชเชียร์ว่า พี่มีเศษ 9 บาท ระหว่างที่ควักหยิบเศษ ก็เหมือนจะเหลือบๆ เห็นมีคนมาต่อคิว และมีพนง.อีกคนมาที่ตู้นี้ แต่ก็ไม่สนใจอะไร ยื่นเหรียญให้ พนง.ก็ยื่นแบงก์ให้ เรารับมาพร้อมใบเสร็จ ยังไม่ได้นับ และยังถือในมือ อีกมือเราก็ช่วยแฟนหยิบของใส่กระเป๋าช้อปปิ้งที่เตรียมมา พนง.คนคิดเงินก็เดินออกไป และพนง.คนใหม่นี้ใส่ชุดกี่เพ้า ก็คิดเงินให้คนในคิว
คราวนี้ เรากำลังจะเก็บเงิน เราก็เช็คใบเสร็จ และมองเงินในมือ เราจำได้ว่า เรายื่นแบงก์พัน (เพราะในตัวมีแบงก์พัน กะแบงก์ร้อย แต่ต้องการแตกแบงก์พันอีกใบ ก็เลยจ่ายด้วยแบงก์พัน) เราก็รีบเปิดกระเป๋าสตางค์เราดูว่า เราเก็บแบงก์ 500 ไปหรือยัง และรีบค้นในกระเป๋าช้อปปิ้งว่า มันหล่นในกระเป๋าหรือเปล่า ก็หาไม่เจอ ก็เลยบอกแคชเชียร์ที่ใส่กี่เพ้าว่า น้องช่วยดูให้พี่ ทำไมเงินทอนมีแค่นี้ พี่ให้แบงก์พัน และใบเสร็จก็ระบุว่า 1009 ในยอดที่ชำระ
พนง.กี่เพ้าก็บอกว่า จะไปถามให้ หลังจากนั้นกลับมาพูดว่า ลูกค้ายื่นแบงก์ 500 ค่ะ พนง.คีย์ผิด คีย์เป็นแบงก์พัน เรานะ งงสุดๆ อึ้งกิมกี่ พูดไม่ออกแป๊บนึง แล้วก็รีบยืนกรานว่า ยื่นแบงก์พัน สักพัก พนง.ในชุดฟอร์มบิ๊กซี คาดว่า มีตำแหน่งที่สามารถเปิดเก๊ะเงินได้ มารับใบเสร็จไป และถามว่า ลูกค้าชำระเท่าไร เรารีบตอบ 1009 บาท ซึ่งตรงกับที่แสดงในใบเสร็จ และเราถามหากล้องวงจรปิด ซึ่งมองไม่เห็นสักจุด พนง.คนดังกล่าวนี้ก็แจ้งว่า ต้องขอนับเงินที่เคาน์เตอร์ดูก่อน เราก็เห็นด้วย และระหว่างนั้น สังเกตเห็นพนง.ในชุดฟอร์มอีกคน เป็นผู้ชาย เดินมาและจดๆ จ้องๆ เรากะแฟน
พอเขานับเงินเสร็จ เขาก็คุยแบบซุบซิบๆ กับพนง.ผู้ชายคนนี้ และยื่นแบงก์ 500 คืนเรา และขอโทษเรา เราก็พูดว่า พี่ถูกใช่ไหม ทำไมเป็นแบบนี้ ตอนนั้นอารมณ์ขึ้นละ พนง.ตอบว่า น้องเขาคงเบลอ แล้วก็ขอโทษอีก และพนง.ผู้ชายก็พูดขอโทษเช่นกัน และพวกเขาก็เดินไปที่เคาน์เตอร์ลูกค้าสัมพันธ์ (customer service) เรายังรู้สึกโกรธ เลยเดินตามไป ถามว่า น้องคนไหน พนง.คนในชุดฟอร์มที่นับเงิน พูดว่า ไม่ใช่น้อง แต่เป็นพี่ เราก็มองตามสายตาเขา ณ จุดตรงนั้นมีพนง.นั่งหน้าคอมพ์ 1 คน และยืนคร่อมคนนั่งอีก 2 คน แต่ทั้ง 3 คนนั้น ไม่มีใครสักคนที่หันมามองเรา ซึ่งเรารู้สึกแปลกใจมาก คิดในใจว่า นี่หรือ customer service บริการแบบนี้กันหรอ เรากวาดตาไปมองอีกด้าน เห็นพนง.ชุดกี่เพ้าคนนั้นมองมาสบตาเรา ด้วยสายตาไม่เป็นมิตร เราก็เลยพูดขึ้นมาว่า พี่เสียความรู้สึกจริงๆ และก็เดินออกไป ไม่หันกลับไปมองอีก
เรากลับถึงบ้าน ยังมีอารมณ์โกรธ เลยเล่าให้พี่น้องในกลุ่มไลน์ฟัง พี่ชายคนแรกแนะให้นับเงินทอนเรียบร้อยก่อนเดินออกจากเคาน์เตอร์ พี่ชายอีกคนบอกว่า พนง.พูดแบบจงใจโทษว่า ลูกค้าผิดเอง ต้องเขียนคำติชม ส่วนพี่ชายอีกคนก็บอกว่า สาขานี้ไม่ค่อยมีคนแล้ว น้องชายบอกว่า เขาเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ ถ้าเป็นหลักร้อย ต้องนับก่อน เหมือนตั้งใจทอนไม่ครบ
ก่อนนอน เราเลยเข้าเวบไซต์ของบิ๊กซี และไปหย่อนคำติชม แต่ก็รู้ว่า มันคงไปไม่ถึงไหน แล้วพนง.ก็อาจทำอีก (หากเขาตั้งใจทุจริต)
เช้านี้เลยคิดๆ ว่า เราต้องการอะไรกันแน่จากเหตุการณ์เมื่อคืน
- ต้องการเอาผิดพนง.แคชเชียร์ที่ทอนเงินผิด และจงใจปัดความผิดว่าเป็นลูกค้าที่ผิด
- ต้องการเอาผิดพนง.ชุดกี่เพ้าที่จ้องหน้าจ้องตาจะกินเลือดเรา และสายตาไม่สำนึกผิด
-ต้องการเอาผิดบริษัทบิ๊กซี ที่ไม่อบรมพนง.ให้มี service mind มากกว่านี้
และคิดเพิ่มไปอีกว่า ที่เราโกรธ เพราะกระทบอัตตาเราหรือเปล่า
กรรมใดใครก่อ กรรมนั้นย่อมสนอง เราควรปล่อยให้กรรมลงโทษคนก่อ หากผู้นั้นมีเจตนาทำให้เราเสียหายหรือเปล่า
คำตอบของเรา คือ ไม่รู้ค่ะ ... 555
ยังมีคำถามในหัวอยู่ เช่น
พนง.แคชเชียร์สามารถคีย์เงินผิดได้ โดยไม่ต้องแก้ไขได้ด้วยหรอ
ทำไมพวกเขาทำเหมือนเป็นเรื่องปกติกันเลย และหากพนง.แคชเชียร์แอบตอดแบงก์ 500 ขึ้นมา (ไม่รู้ทำได้ไหม) แล้วคนนับเงิน นับไม่ตรง เขาจะแก้ไขเหตุการณ์นี้ยังไง เขาจะยังคืนเงินเราไหม เรื่องคงต้องถึงโรงพัก ใช่ไหม
ชาวพันทิปเคยเจอแบบนี้กันไหม..