กระทู้นี้เเค่มาระบายในฐานะคนป่วยโรคซึมเศร้าเฉย ๆ ครับ รู้สึกอิจฉาคนที่มีพลังในการใช้ชีวิตจังครับ

ผมรู้สึกอิจฉาคนที่มีพลังในการใช้ชีวิตจังครับ (จากที่มองภายนอกพสกเขาเป็นคนที่มีพลังในการใช้ชีวิตมาก เช่น รู้สึกอิจฉาอาจารย์ที่เขาสอนติดกันได้นานถึง 3 ชั่วโมงเเละเขาดูมีความสุขที่ได้สอน) ผมที่เป็นซึมเศร้าเเค่จะลุกจะเดินก็อ่อนเพลียเเล้วครับ มันเบลอ ตาเเดง ง่วงนอน น้ำตาเเทบจะติดขอบตาตลอด เหมือนอยากนอนตลอดเวลา พอนอนก็นอนไม่หลับง่าย ๆ ไม่สามารถโฟกัสอะไรได้เลย เวลาเรียนก็ชอบลอย (เหมือนได้หลับในเเละพักไปในตัว) รู้สึกร่างกายไม่เเข็งเเรง พูดก็เรียบเรียงคำพูดจากพูดง่าย ๆ ได้ก็กลายเป็นยาก คุยยาว ๆ ไม่รู้เรื่อง นำเสนอหน้าห้องก็เสียงสั่น อ่านหนังสือไม่ได้เลยพอจะอ่านก็ไม่มีสามาธิ ร้องไห้เกลียดที่บังคับตัวเองไม่ได้ สอบผ่านเเบบ 10/20 ทำงานเเบบทำวันนี้ส่งพรุ่งนี้ ทำวันนี้ส่งวันนี้ก็มี ตอนนี้สิ่งที่เป็นอาการใหม่คือเริ่มรู้สึกเหนื่อยที่จะพูดคุยครับ เเบบชัดเจนมากจนไม่ค่อยนั่งเรียนติดกันกับเพื่อนเเล้ว เพื่อนไปกินข้าวไม่ไปกินด้วย เพื่อนรู้ว่าเราป่วยครับเเละเราเลยบอกเพื่อนว่าไม่ต้องเเปลกใจเราไม่ได้ไม่พอใจเเกหรือมีอะไรมันเเค่เป็นอาการของโรคเรา เพื่อนรู้มานานเเล้วครับ เพื่อนก็ไม่มาถามหรืออะไรมากกับเราครับ อยากอยู่คนเดียวจนตอนนี้หา่างเหินกับเพื่อนในดลุ่มที่อยู่กันมาตั้งเเต่ปี 1 (คืออาการผมหนักเริ่มชัดเจนช่วงปี 1 เทอม 1 ครับ ตอนนี้ผมอยู่ปี 2 เทอม 2 เกรดผมตั้งเเต่ปี 1 ถึงตอนนี้มันตกมาเรื่อย ๆ  ด้วยครับ)

ไม่เหมือนตอนเด็กกว่านี้ ต่างจากตอนอายุ ่15-17 เป็นช่วงที่รู้สึกว่าสมองตัวเองดีที่สุดทุกอย่างในชีวิตสมบูรณ์เเบบที่สุดถ้านับเเค่ตั้งเเต่เกิดถึงอายุ 20 ปีนะครับ) (จริง ๆ ลองนึกเเล้วจตัวเองคงจะมีอาการซึม ๆ มาตั้งเเต่สมัย 5-6 ขวบเลยมั้งครับสงสัยมันยังไม่ชัดเท่าตอนนี้) ตอน 15-16 กล้าพูดกล้าเเสดงออกกว่านี้ ทำงานเสร็จก่อนเวลาจนเพื่อนบอกจะรีบไปไหน คือมีพลังที่จะใช้ชีวิตมากกว่าตอนนี้อะครับ เช่นถ้าวาดรูประบายสีก็จะตั้งใจมากมาก ทำได้นาน ทำได้หลายชั่วโมง เคยทำงานวาดระบายสีที่ครูสั่ง 7 ชั่วโมงติดกัน (เเค่ 1 หน้ากระดาษเอสี่นะครับ) ที่นานเพราะเล่นสีตกเเต่งเยอะครับ55 ตอนนั้นชอบอยู่กับเพื่อนชอบพูดคุยกับเพื่อนมากกว่าตอนนี้ (เดิมก็ไม่ใช่คนพูดคุยเก่งอยู่เเล้วนะครับเเค่มันดีกว่าตอนนี้)  

อาการผมค่อย ๆ เพิ่มระดับขึ้นตั้งเเต่ปลาย ๆ ม.5 ครับ ช่วงนั้นเริ่มสั่งตัวเองให้ทำตามจิตสำนึกที่ดีไม่ได้ เเต่ก็ดีกว่าตอนนี้มากอยู่ครับ (จริง ๆ ลองนึกเรื่องที่เคยผ่านมาอาการซึม ๆ น่าจะมีมาตั้งเเต่สมัย 5-6 ขวบเลยมั้งครับ มันคงไม่ชัดเท่าตอนนี้) เวลาครูสอนอะไรก็จะจับใจความเเละทวนเรืองที่ครูพูดได้เลยด้วยซ้ำ (เเบบไม่ยาวมากนะครับ)

ทุกวันนี้มันเหมือหน้ามือเป็นหลังมืออะครับ ทุกวันนี้คิดเเต่จะลาออก คิดว่าคงใช้สมองไม่ได้ดีเหมือนเดิมเเล้ว จะลาออกไปทำงงานที่ไม่ใช้สมองมากก็ไม่มั่นใจว่าตัวเองจะทำไหว เคยทำงานพาร์ทไทม์ ถ้าให้พูดเเค่ระดับความหนักของมัน ผมว่ามันคงไม่ต่างกันกับการใช้สมองเรียนหรือทำงานเลยครับ เเค่คนละเเบบ (จากความรู้สึกเรานะครับ)
ตอนนี้ในหัวมีเเต่การเลือก การถามตัวเองอยู่ทุกวันเลยครับ ว่าจะเรียนต่อหรือจะลาออก ในความคิดหนึ่งผมคิดว่าตัวเองคงทำงานที่ใช้สมองไม่ได้ ไม่รู้จะฝืนเรียนไปทำไม ลาออกไปทำงานดีกว่า ขนาดตอนนี้ยังเบลอจะไปทำงานที่มันยากกว่านี้ได้ยังไง ในอีกความคิดก็บอกตัวเองว่าจะทำงานไหวหรอ งานไม่ใช้สมองที่บอกน่ะ

พอมันเลือกไม่ได้เเบบเด็ดขาดสักทีมันเลยพาความคิดไปเเต่เรื่องจะจบชีวิตนั้นดีที่สุดครับ เราจะไม่รับรู้ไม่เหนื่อยเเล้ว
ถ้าเราจะจบชีวิตเราจะไปที่ที่ไม่มีใครมาเจอง่าย ๆ เครอบครัวจะได้ไม่ต้องเสียเงินทำศพเรา อยู่ไปก็รู้สึกทรมานที่ต้องรู้สึกเเบบนี้ รู้สึกไม่มีทางเลือกเลยครับ ทั้งที่ผมเพิ่งอายุ 20 เวลาผมนั่งเรียนเเล้วเห็นอาจารย์เขาสอนติด ๆ กันได้เป็น 3 ขั่วโมง ยืนเเทบทั้งคาบเเบบไม่ดูเหนื่อย จากที่ที่ดูคือเขามีความสุขที่ได้ทำอะครับ ผมก็ได้เเต่สงสัยว่าทำไมเขามีพลังเยอะจัง เขามักจะเล่าว่าเขาชอบอ่านหนังสือ วรรณกรรมเรื่องนี้เรื่องนั้น ทำให้เขาได้ความรู้เกี่ยวกับการใช้ภาษาหรือมีความรู้รอบตัวมาก ชอบลงพื้นที่ศึกษา เขาน่าจะรอบรู้ทุกอย่างหรือเยอะมาก ๆ เกี่ยวกับเอกที่เขาสอน ซึ่งก็ไม่เเปลกใจว่าทำไถึงได้มาเป็นอาจารยได้ ั้ซึ่งผมรู้สึกว่าตัวเองคงไม่สามารถเป็นเเบบเขาได้ก็เศร้าครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่