JJNY : วีระยุทธ เขียนวิธีดีลกับทรัมป์│มวลอากาศเย็นระลอกใหม่│กทม.เช้านี้ค่า PM2.5 สูง│เม็กซิโกไม่ปลื้ม“ทรัมป์”เปลี่ยนชื่v

วีระยุทธ เขียนวิธีดีลกับทรัมป์ แชร์ประสบการณ์อดีตทูตอังกฤษ แนะรบ. กระชับ อารมณ์ขัน ไม่โอนอ่อน.
https://www.matichon.co.th/politics/news_5010863

วีระยุทธ เขียนวิธีดีลกับทรัมป์ แชร์ประสบการณ์จากอดีตทูตอังกฤษ แนะรบ. กระชับ อารมณ์ขัน ไม่โอนอ่อน
 
เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2568 วีระยุทธ กาญจน์ชูฉัตร รองหัวหน้าพรรคประชาชน ได้โพสต์ข้อข้อเขียน “วิธีดีลกับทรัมป์ : กระชับ มีอารมณ์ขัน ยืนหยัดทรนง” แสดงความเห็นผ่านเฟซบุ๊กเสนอแนะการเจรจากับรัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของนายโดนัลด์ ทรัมป์ เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ สมัยที่ 2 โดยมีเนื้อหาดังนี้

วิธีดีลกับทรัมป์: กระชับ มีอารมณ์ขัน ยืนหยัดทรนง
Be brisk, swap banter, never look weak
 
ในสัปดาห์ที่โดนัลด์ ทรัมป์ ทำพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ประเทศตะวันตกดูจะตื่นตระหนกมากกว่าฝั่งเอเชียเราเสียอีก
นักการเมือง นักการทูต นักวิชาการ ฯลฯ ที่เคยดีลกับประธานาธิบดีทรัมป์ในสมัยแรก (2017-2021) ต่างออกมาแชร์ประสบการณ์กันจำนวนมาก
ในบรรดาคำแนะนำทั้งหลาย ผมชอบของ Kim Darroch อดีตเอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรประจำสหรัฐฯ ในยุค Trump 1.0 มากที่สุด
Darroch เขียนแนะนำนายกรัฐมนตรีและนักการทูตของอังกฤษไว้ แต่ผมคิดว่าสามารถมาประยุกต์ใช้กับไทยได้เช่นกัน
เขาแนะนำว่า ประธานาธิบดีทรัมป์เกลียดบทสนทนายืดยาว ถ้าคุณเริ่มพูดอะไรยืดเยื้อเมื่อไหร่ ทรัมป์จะแทรกตัดบทหรือไม่ก็เบือนหน้าหนีทันที แล้วอำนาจต่อรองของคุณก็จะหายไปทันควัน
 
คำแนะนำในการเจรจากับทรัมป์คือ
Be brisk, swap banter, and never look weak
 
ผมชอบคำว่า Brisk เป็นพิเศษ คำนี้แปลว่า quick, energetic and practical
คือต้องพูดให้กระชับ มีพลัง แต่ตรงประเด็น เอาไปทำต่อได้เลย เช่น พูดถึงสินค้าอะไร ภาษีเท่าไร
 
Swap banter เป็นสไตล์ทูตอังกฤษ คือใช้อารมณ์ขันเพื่อสร้างบรรยากาศที่เป็นมิตร เช่นการปล่อยมุกตลกเรื่องสภาพอากาศ แต่ต้องเป็นอารมณ์ขันที่ทั้งสองฝ่ายมีประสบการณ์ร่วมด้วยนะครับ เพื่อจะได้สื่อสารสองทางในเรื่องเบาๆ ก่อน

Never look weak อันนี้ชัดเจน อย่าแสดงความอ่อนแออ่อนข้อออกมาเป็นอันขาด
 
ตามคำแนะนำของ Darroch การไปบอกว่าหากสหรัฐฯ ขึ้นภาษีจะทำร้ายเศรษฐกิจไทยอย่างไรจะไม่มีประโยชน์เลย ต้องโน้มน้าวว่าการขึ้นภาษีจะทำร้ายอเมริกาอย่างไรจึงจะได้ผล
 
หมายความว่าผู้นำประเทศคู่เจรจาก็ต้องรู้จักข้อมูลประเทศตัวเองและสถานการณ์สหรัฐฯ ดีพอที่จะจับประเด็นมาโต้ได้ทันควัน
อาจไม่ได้ทุกอย่างในการเจรจาหนึ่งรอบ แต่ก็ไม่ควรกลับมามือเปล่า หรือโอนอ่อนยอมให้เขาฝ่ายเดียว
 
อย่างน้อยที่สุด ไทยควรยืนหยัดสู้กับ Trump 2.0 ในฐานะประเทศ Middle Power

ขยับไปอีกขั้นคือ เราคุยกับเพื่อนอาเซียนไว้สัก 2-3 ประเทศเพื่อเป็นพันธมิตรยามยากที่สามารถต่อสายช่วยกันได้ทันที
Thailand should stand tall in the Trump 2.0 era.
 
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=pfbid02iodnQZXd1t9nr8o2vqNw7LN1XGRnvkFE8ympG3dUzmmTnVWD933n2i48eNuQrvc1l&id=61553732966651




มวลอากาศเย็นระลอกใหม่ กรมอุตุฯ เตือน อุณหภูมิลดฮวบ 5 องศา ลมแรง
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_9600228

กรมอุตุฯ พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า ลมหนาวยังไม่หมด เช็กที่นี่ มวลอากาศเย็นระลอกใหม่มาวันไหน อุณหภูมิลดฮวบ 5 องศา ลมแรง กทม.ต่ำสุดเหลือ 17 องศา
 
วันที่ 22 ม.ค.2568 กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 7 วันรายภาค ระหว่างวันที่ 21-27 มกราคม พ.ศ. 2568 ระบุว่า ในช่วงวันที่ 21-25 ม.ค. 68 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้จะมีกำลังอ่อนลง ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวจะมีอุณหภูมิสูงขึ้น แต่ยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีหมอกหนาในบางพื้นที่
สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันจะมีกำลังอ่อนลง ทำให้คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังอ่อนลง โดยอ่าวไทยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ทะเลอันดามันมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
 
ส่วนในวันที่ 26-27 ม.ค. 68 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงระลอกใหม่จากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้
 
ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอุณหภูมิลดลงกับมีลมแรงก่อน ส่วนภาคอื่นๆอุณหภูมิจะลดลงในระยะถัดไป โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนืออุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส
 
สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนเพิ่มขึ้นและฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังแรงขึ้น โดยอ่าวไทยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 2-3 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร
 
ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 21-25 ม.ค. 68 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยระวังอันตรายจากอัคคีภัยเนื่องจากสภาพอากาศแห้ง รวมทั้งระวังอันตรายจากการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกไว้ด้วย
 
ส่วนในช่วงวันที่ 26-27 ม.ค. 68 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลง รวมทั้งระวังอันตรายจากอัคคีภัยเนื่องจากสภาพอากาศแห้งและลมแรง
 
สำหรับประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออกระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก รวมทั้งระวังอันตรายจากคลื่นที่ซัดเข้าหาชายฝั่งไว้ด้วย
 
ส่วนชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง เรือเล็กบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่ง
คาดหมายอากาศรายภาค ระหว่างวันที่ 21-27 มกราคม พ.ศ. 2568
 
ภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 21-26 ม.ค. 68 อากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีหมอกหนาบางพื้นที่ และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 13-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-35 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 3-13 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 5-15 กม./ชม.
 
ส่วนในวันที่ 27 ม.ค. 68 อากาศเย็นถึงหนาว กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 9-16 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 24-29 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 2-10 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
 
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในช่วงวันที่ 21-25 ม.ค. 68 อากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกบางในตอนเช้า โดยมีหมอกหนาบางพื้นที่ และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 2-4 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 12-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 – 34 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-14 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-15 กม./ชม.
 
ส่วนในช่วงวันที่ 26-27 ม.ค. 68 อากาศเย็นถึงหนาว กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 8-17 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 25-29 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศหนาวถึงหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 3-10 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
 
ภาคกลาง ในช่วงวันที่ 21-26 ม.ค. 68 อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า โดยมีหมอกหนาบางพื้นที่ และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 2-4 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 17-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-15 กม./ชม.
 
ส่วนในวันที่ 27 ม.ค. 68 อากาศเย็นถึงหนาว กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 13-17 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-31 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
 
ภาคตะวันออก ในช่วงวันที่ 21-26 ม.ค. 68 อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 17-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ส่วนในวันที่ 27 ม.ค. 68 อากาศเย็นถึงหนาว กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 14-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-31 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 2-3 เมตร
 
ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก) ตอนบนของภาคมีอากาศเย็นในตอนเช้า ตลอดช่วงในช่วงวันที่ 21-23 ม.ค. 68 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ทางตอนล่างของภาค ส่วนในช่วงวันที่ 24-27 ม.ค. 68 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ทางตอนล่างของภาค ในช่วงวันที่ 21-25 ม.ค. 68
 
ตั้งแต่ จ.สุราษฎร์ธานี ขึ้นไป ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร ตั้งแต่ จ.นครศรีธรรมราช ลงมา ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ส่วนในวันที่ 26-27 ม.ค. 68 ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 19-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส
 
ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก) ตอนบนของภาคมีอากาศเย็นในตอนเช้า โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ตลอดช่วง ในช่วงวันที่ 21-26 ม.ค. 68 ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
 
ส่วนในวันที่ 27 ม.ค. 68 ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 2-3 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-35 องศาเซลเซียส
 
กรุงเทพและปริมณฑล ในช่วงวันที่ 21-26 ม.ค. 68 อากาศเย็น กับมีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 20-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-15 กม./ชม.
 
ส่วนในวันที่ 27 ม.ค. 68 อากาศเย็น กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 17-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-31 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
 

 
ฝุ่นคลุมเมือง! กทม.เช้านี้ค่า PM2.5 สูงแตะระดับสีแดง 6 พื้นที่ แนะนำสวมหน้ากากงดกิจกรรมกลางแจ้ง
https://www.dailynews.co.th/news/4315370/

ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานคร รายงานสถานการณ์ฝุ่นPM2.5 ในกทม. เวลา 07.00 น.พบค่าฝุ่นเกินมาตรฐานทุกพื้นที่ อยู่ในระดับสีแดง 6 พื้นที่ ค่าเฉลี่ยฝุ่น 62.6 มคก./ลบ.ม. คุณภาพอากาศส่วนใหญ่อยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ แนะนำสวมหน้ากากลดเวลาทำกิจกรรมกลางแจ้ง

เมื่อเวลา 08.25 น. วันที่ 22 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทีมโฆษกศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานคร รายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ของสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศของกรุงเทพมหานคร ประจำวันพุธที่ 22 ม.ค.68 เวลา 07.00 น. ค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง ของฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) ตรวจวัดได้ 45.7-85 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) พบว่าเกินมาตรฐานอยู่ในระดับสีแดง มีผลกระทบต่อสุขภาพ (มาตรฐาน 75.1 มคก./ลบ.ม.ขึ้นไป ) จำนวน 6 พื้นที่ คือ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่