นอกจากกรมที่ดินซึ่งให้บริการวัด-จัดแบ่งที่ดิน
และกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งการทำพาสปอร์ต เก็บค่าธรรมเนียมหลักพัน
หน่วยงานภาครัฐที่คิดค่าบริการค่อนข้างแพง อีกแห่ง คือ สำนักงานขนส่ง
ล่าสุด ต่อใบขับขี่ ค่าธรรมเนียม 500 บาท
500 บาท นี่ชาวบ้าน หาเช้ากินค่ำ อาจจะไม่สามารถไปต่อใบขับขี่ได้
เพราะราคาสูงกว่าค่าแรงประจำวันของเขาเสียอีก
อย่างกรณี โรงเรียน
ประชาชนจ่ายภาษี กลายเป็นเงินเดือนครู และงบประมาณของโรงเรียน
ทำให้โรงเรียนรัฐ เก็บค่าเทอมไม่สูง / ไม่รวมภาคบังคับถึง ม.3 ซึ่งได้เรียนฟรี
ดังนั้นหน่วยงานภาครัฐอื่นๆ ก็ไม่น่าจะต้องเรียกเก็บค่าบริการที่สูงเกินไป
สำหรับการออกเอกสารต่างๆ เนื่องจากต้นทุนการออกเอกสาร
ประมวลผลด้วยเทคโนโลยี ทำให้ต้นทุนไม่ได้สูง
เห็นด้วยว่าการต่อใบขับขี่ น่าจะมีค่าธรรมเนียมที่สมเหตุสมผล ประมาณ 200 บาท
เพราะมีต้นทุนสำหรับประชาชน ดังนี้
-การจัดทำบทเรียนอบรมออนไลน์ ความยาว 1 ชม.
-การถ่ายภาพบัตร
-การสืบประวัติการขับขี่
-การตรวจสมรรถนะทางกายภาพ
แต่ไม่น่าจะถึง 500 บาท/ 1 ใบ
หมายความว่า
หน่วยงานมีกำไรในการดำเนินงาน
เช่นเดียวกับภาคเอกชน ทั้งที่ควรจะมีบทบาทให้บริการประชาชน
ตามงบประมาณที่รัฐจัดให้ และตามการบริหารจัดการที่เหมาะสม
ระหว่างค่าธรรมเนียมที่จัดเก็บ กับ การบริหารต้นทุนจัดบริการให้มีประสิทธิภาพ
ยิ่งคนที่มีอาชีพขับรถ ราคาค่าธรรมเนียมก็สูงยิ่งขึ้นไปอีก
ซึ่งทำให้คนจนยิ่งไม่มีโอกาสทำมาหากิน
และอีกประเด็นที่อยากฝากให้พิจารณา
หน่วยงานราชการ เช่น สำนักงานขนส่งทั่วประเทศ โรงพยาบาล
ควรทำป้ายบอกส่วนงานภายในอาคารระบบ 2 ภาษา
ประเทศไทยกำลังเป็นสังคมนานาชาติ มีคนชาติอื่นอยู่ร่วมกับเรามากขึ้น
อยากให้พัฒนาให้ทันสมัย ระดับสากล
ต่อใบขับขี่ 500 บาท ใช้ได้ 5 ปี เป็นบริการภาครัฐที่แพงไปไหม ?
และกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งการทำพาสปอร์ต เก็บค่าธรรมเนียมหลักพัน
หน่วยงานภาครัฐที่คิดค่าบริการค่อนข้างแพง อีกแห่ง คือ สำนักงานขนส่ง
ล่าสุด ต่อใบขับขี่ ค่าธรรมเนียม 500 บาท
500 บาท นี่ชาวบ้าน หาเช้ากินค่ำ อาจจะไม่สามารถไปต่อใบขับขี่ได้
เพราะราคาสูงกว่าค่าแรงประจำวันของเขาเสียอีก
อย่างกรณี โรงเรียน
ประชาชนจ่ายภาษี กลายเป็นเงินเดือนครู และงบประมาณของโรงเรียน
ทำให้โรงเรียนรัฐ เก็บค่าเทอมไม่สูง / ไม่รวมภาคบังคับถึง ม.3 ซึ่งได้เรียนฟรี
ดังนั้นหน่วยงานภาครัฐอื่นๆ ก็ไม่น่าจะต้องเรียกเก็บค่าบริการที่สูงเกินไป
สำหรับการออกเอกสารต่างๆ เนื่องจากต้นทุนการออกเอกสาร
ประมวลผลด้วยเทคโนโลยี ทำให้ต้นทุนไม่ได้สูง
เห็นด้วยว่าการต่อใบขับขี่ น่าจะมีค่าธรรมเนียมที่สมเหตุสมผล ประมาณ 200 บาท
เพราะมีต้นทุนสำหรับประชาชน ดังนี้
-การจัดทำบทเรียนอบรมออนไลน์ ความยาว 1 ชม.
-การถ่ายภาพบัตร
-การสืบประวัติการขับขี่
-การตรวจสมรรถนะทางกายภาพ
แต่ไม่น่าจะถึง 500 บาท/ 1 ใบ
หมายความว่า หน่วยงานมีกำไรในการดำเนินงาน
เช่นเดียวกับภาคเอกชน ทั้งที่ควรจะมีบทบาทให้บริการประชาชน
ตามงบประมาณที่รัฐจัดให้ และตามการบริหารจัดการที่เหมาะสม
ระหว่างค่าธรรมเนียมที่จัดเก็บ กับ การบริหารต้นทุนจัดบริการให้มีประสิทธิภาพ
ยิ่งคนที่มีอาชีพขับรถ ราคาค่าธรรมเนียมก็สูงยิ่งขึ้นไปอีก
ซึ่งทำให้คนจนยิ่งไม่มีโอกาสทำมาหากิน
และอีกประเด็นที่อยากฝากให้พิจารณา
หน่วยงานราชการ เช่น สำนักงานขนส่งทั่วประเทศ โรงพยาบาล
ควรทำป้ายบอกส่วนงานภายในอาคารระบบ 2 ภาษา
ประเทศไทยกำลังเป็นสังคมนานาชาติ มีคนชาติอื่นอยู่ร่วมกับเรามากขึ้น
อยากให้พัฒนาให้ทันสมัย ระดับสากล