ผมรัก สวนสยาม (สยามอะเมซิ่งพาร์ค) มาก เลยต้องจัดไปอีกแล้วครับ

19 ม.ค. 2568

พอดีเดือนนี้เป็นเดือนเกิดของผม ผมจึงได้เข้าฟรี ตามโปรที่สวนสยามจัดอยู่

ลูกชายสูงไม่ถึง เข้าฟรี และภรรยา ผมกดซื้อตัวออนไลน์ล่วงหน้า 2 วัน ได้ราคาพิเศษช่วงนี้ก็  240 บาท

สรุปค่าผ่านประตู รวมเครื่องเล่น รวมสวนน้ำ ไปทั้งหมด 3 คนผมเสียไปทั้งหมดแค่ 240 บาท



และตรงทะเลเทียมนี้ครับ ผมมีความทรงจำ คือตอนนั้นผมอายุประมาณ 6 ขวบ ผมมานั่งเล่นตรงนี้ครั้งแรกครับ โรงเรียนที่ผมเรียนตอนนั้นคือโรงเรียนวิริยาลัย 

พามาทัศนศึกษา (ต่อมาผมเข้าเรียนโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย ซึ่งโรงเรียนก็อยู่ตรงกันข้ามกับซอยโรงเรียนเดิม)

ตอนนั้นผมยังไม่มีกางเกงว่ายน้ำเลย แม่ให้ใส่กางเกงในแอปเปิ้ล มันคล้ายๆกางเกงว่ายน้ำ แต่การ์ด ของสวนสยาม ก็เดินมาเห็นและบอกว่าใส่แบบนี้ไม่ได้นะ

ผมก็งงๆ เค้าก็แค่พูดเฉยๆและปล่อยให้ผมนั่งเล่นน้ำต่อไป

ผ่านมา 40 ปีแล้วครับ ใช่แล้วครับ ตอนนี้ ผมอายุ 47 ปีแล้ว

เริ่มแรกก็ต้องพาลูกขึ้นม้าหมุนก่อนครับ ช่วงนี้ม้าหมุนเปิดเฉพาะแค่ชั้นล่างนะครับ





มังกร 2 หัว ยังเปิดอยู่ครับ ได้แต่ดูครับ ยังไม่พร้อมนั่ง เพราะเดี๋ยวลูกขอขึ้นด้วย 555



ถ่ายย้อนกลับไปที่ม้าหมุนครับ สวยดีนะครับ







นี่ครับตัวการ์ตูนของสวนสยาม เท่ห์ดีครับ

.
ดูดีๆการออกแบบแมว 2 ตัวนี้เป็นแนวโมเดิร์น ทันสมัยมากนะครับ





เครื่องเล่นนี้ครับ ลักษณะข้างบนทำเป็นเหมือนบอลลูน ให้เรานั่งวนๆไป สีสันรูปทรงสวยงามครับ



แต่ว่าเราจะไขว่เขว ไม่ได้ครับ เพราะจุดมุ่งหมายสูงสุดของเราคือไปเล่นสวนน้ำ ครับ ลูกชายชอบมากครับ จะได้ไปลื่นสไลเดอร์ ของเด็กกัน

ถ้ามัวแต่เล่นเครื่องเล่นก็จะมีเวลาเล่นน้ำน้อยครับ

อันนี้เป็นโซนเด็กครับ ก็มีของเล่นสำหรับให้เด็กเล็กเล่นได้ครับ

แต่ผมก็ต้องรีบเดินผ่านไป เพราะเป้าหมายอยู่ที่สวนน้ำ



เดินผ่านบริเวณนี้ครับจะมีอาหารขาย มีโต๊ะเก้าอี้ให้นั่งครับ



รถแบบนี้มีให้บริการสำหรับคนไม่ชอบเดินนะครับ เสียค่าบริการไม่แพงครับ





มาถึงแล้วครับทางเข้าสวนน้ำ

เราก็จะเห็นม้าสีทองตัวนี้ อยู่ท่ามกลางน้ำพุ



ก่อนจุดสแกนเข้าสวนน้ำ จะมีห้องน้ำตรงนี้ด้วยครับ เข้าตรงนี้ก็ดีนะครับ ในวันที่คนเยอะ ห้องน้ำตรงนี้จะไม่ค่อยมีคน 



นอกจากนั้นห้องน้ำตรงนี้ยังมีที่อาบน้ำ และ ที่เปลี่ยนเสื้อผ้าด้วย



เข้ามาในสวนน้ำก็จะพบกับอันนี้ก่อนเลยครับ สไลเดอร์  Super Spiral



เราก็เดินลัดเลาะไปเพื่อไปห้องน้ำ และตู้ล็อกเกอร์ เพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าและเก็บข้าวของ


นี่ครับสไลเดอร์ยักษ์ สายรุ้ง 7 สี







เอาละครับ เปลี่ยนเสื้อผ้า และเก็บของบางส่วนไว้ในล็อกเกอร์ เสร็จแล้วก็หาทำเล ดีๆนั่งเลยครับ

ผมกับครอบครัวมานั่งกันอยู่แถวๆนี้ ครับ เพราะมีที่น้ำตื้นๆให้ลูกผมเล่นได้สบายครับ



มีเตียงผ้าใบ ให้เช่านั่ง รู้สึกจะตัวละเพียง 20 บาท





ต่อจากนั้นผมก็ออกไปหาอาหาร และเครื่องดื่มมาให้ทุกคนรับประทานครับ



อาหารก็จะแพงหน่อยนะครับ


กะเพราะไข่ดาว 105 บาท


กาแฟดำร้อน 65 บาท



ผลไม้ถุงละ 40 บาท



ข้าวโพด 40 บาท



ผลไม้แบบนี้ 40 บาท ครับ



ข้าวผัด 90 บาท



เดี๋ยวนี้สวนสยามมีห้องอาบน้ำแล้วนะครับ สมัยก่อนต้องอาบกันรวมๆข้างนอกแบบฝักบัว แบบที่ต้องช่วยกันกด พอน้ำหยุดก็โยกกด ให้น้ำไหลออกมา อันนั้นก็สนุกดี



นี่ครับ  เมื่อวันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2552 กินเนสส์ เวิลด์ เร็คคอร์ด ร่วมกับสมาคมสวนน้ำโลก มอบรางวัลหนังสือรับรอง "ทะเลเทียมที่ใหญ่ที่สุดในโลก" ให้แก่ ทะเล-กรุงเทพฯ สวนสยาม



บริเวณที่ผมนั่งครับ



ข้าวโพดคั่วครับรู้สึกจะ 50 บาท (ถ้าจำผิดขออภัยนะครับ)



ตรงนี้ครับ  เห็นคำว่าสวนสยาม แบบคลาสสิกครับ เก่าแก่มาก




เก็บภาพสวนน้ำสวยๆมาให้ชมกันครับ

ที่คนน้อยๆนี่คือสวนน้ำกำลังจะปิดนะครับ จวนหมดเวลาเล่นแล้ว



อ่อเห็นละ เตียงผ้าใบค่าเช่าเตียงละ 10 บาทครับ แต่แฟนผมเล่าว่า ตอนจ่ายค่าเตียง ป้าคนเก็บบอกว่าบางคนก็ไม่จ่าย บอกว่าขอสแกน ป้าเค้าก็ไม่มีให้สแกน


โซนนี้สมัยผมเด็กๆยังไม่มีนะครับ มันจะมีจังหวะที่เค้าเทน้ำลงมา เต็มไปหมดเด็กๆจะชอบมาก



ถึงเวลาต้องจากไปจากสวนน้ำแล้วครับ



ม้าสีทอง ในยามเย็น สวยดีครับ

ประตูเปิดเหลือแค่ช่องเดียวเลย

แวะดูเครื่องเล่น Vortex ซะหน่อย





อันนี้ครับตอนเป็นวัยรุ่นชอบเล่นมาก



ปลาหมึกตอนเด็กๆนั่งเสียวมาก



แหมถ้ายังเป็นวัยรุ่นอยู่จะเข้าไปแจมซักหน่อย



เป็นอันว่าจบทริป สวนสยาม ก็คือสวนสยามครับ มากี่ครั้ง ก็มีความสุขทุกครั้งครับ

แล้วคงจะไปอีกเรื่อยๆครับ

ขอบคุณที่ติดตามชมครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่