ลิงค์:
https://www.youtube.com/watch?v=76NGFpsUTtM
สรุปเหตุการณ์นะครับ
1. โจรใช้บัตร ปชช ปลอม เขาไปแจ้งที่ศูนย์เครือข่ายมือถือว่าซิมหาย และขอทำซิมใหม่ (ซึ่งพนักงานก็ทำซิมใหม่ให้)
2. โจรใช้ซิมใหม่ที่ได้มา เปิดใช้งานมือถืออีกเครื่อง และทำการดูดเงินจากบัตรเครดิตที่ผูกไว้ในแอพฯ แอพนึง
ขอเสริมตรงว่า (ผมเดาว่าโจรมันเล็งเข้าแอพที่ความปลอดภัยไม่สูงมาก ดังนั้นใครที่ผูกบัตร หรือผูกบัญชีธนาคารไว้ในแอพฯพวกนี้เพื่อง่ายต่อการซื้อของ อาจจะต้องคิดใหม่นะครับ เพราะมันกลายเป็นเป้าของมิจฉาชีพ)
3. ผู้เสียหายรู้ตัว เพราะซิมตัวเองใช้งานไม่ได้จึงโทรไปสอบถามที่ผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือ และผู้ให้บริการจึงชี้แจ้งว่ามีการทำตามข้อที่ 1 และ 2 ผู้เสียหายจึงแจ้งไปว่าตนคือตัวจริงและน่าจะถูกโจรสวมลอย จึงสามารถกลับมาใช้งานซิมได้อีกครั้ง
4. ไม่วาย โจรก็โทรไปแจ้งแบบเดียวกันโดยอ้างว่าตัวโจรคือตัวจริงเจ้าของซิม ทางค่ายมือถือเลยเปิดสัญญาณให้โจรอีกครัง
5. สรุปคือโจรดูดเงินจากบัตรเครดิตไปได้เต็มวงเงินจำนวน 70,000 บาท
ข้อสังเกตุ ในข้อที่ 1. โจรใช้บัตรประชาชนปลอม ที่ปลอมทั้งรูปทั้งวันที่และหลาย ๆ อย่าง พอสอบถามพนักงาน พนักงานตอบว่าตนเองเพียงแค่เอาบัตรประชาชนของโจรมาถ่ายเอกสารสำเนาเท่านั้น ไม่ได้นำไปเสียบเครื่องเพื่อเช็คข้อมูลบัตร (คือถ้าเสียบก็จะรู้ทันทีว่าเป็นบัตร ปชช ปลอม)
ผู้เสียหายเลยตั้งคำถามว่า ทำไมพนักงานถึงไม่เสียบบัตรปรพชาชน และเช็คให้ดีก่อน??
ผู้เสียหายทิ้งทายอีกว่าคงจะดำเนินการเรียกร้องค่าเสียหายจากค่ายมือถือเจ้านี้ เพราะเป็นช่องโหว่ที่โจรใช้ในการดูดเงินครั้งนี้
มุกใหม่มาอีกแล้ว!! โจรแจ้งเปิดซิมใหม่ใช้ดูดเงินเหยื่อกว่า 7 หมื่น!
สรุปเหตุการณ์นะครับ
1. โจรใช้บัตร ปชช ปลอม เขาไปแจ้งที่ศูนย์เครือข่ายมือถือว่าซิมหาย และขอทำซิมใหม่ (ซึ่งพนักงานก็ทำซิมใหม่ให้)
2. โจรใช้ซิมใหม่ที่ได้มา เปิดใช้งานมือถืออีกเครื่อง และทำการดูดเงินจากบัตรเครดิตที่ผูกไว้ในแอพฯ แอพนึง
ขอเสริมตรงว่า (ผมเดาว่าโจรมันเล็งเข้าแอพที่ความปลอดภัยไม่สูงมาก ดังนั้นใครที่ผูกบัตร หรือผูกบัญชีธนาคารไว้ในแอพฯพวกนี้เพื่อง่ายต่อการซื้อของ อาจจะต้องคิดใหม่นะครับ เพราะมันกลายเป็นเป้าของมิจฉาชีพ)
3. ผู้เสียหายรู้ตัว เพราะซิมตัวเองใช้งานไม่ได้จึงโทรไปสอบถามที่ผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือ และผู้ให้บริการจึงชี้แจ้งว่ามีการทำตามข้อที่ 1 และ 2 ผู้เสียหายจึงแจ้งไปว่าตนคือตัวจริงและน่าจะถูกโจรสวมลอย จึงสามารถกลับมาใช้งานซิมได้อีกครั้ง
4. ไม่วาย โจรก็โทรไปแจ้งแบบเดียวกันโดยอ้างว่าตัวโจรคือตัวจริงเจ้าของซิม ทางค่ายมือถือเลยเปิดสัญญาณให้โจรอีกครัง
5. สรุปคือโจรดูดเงินจากบัตรเครดิตไปได้เต็มวงเงินจำนวน 70,000 บาท
ข้อสังเกตุ ในข้อที่ 1. โจรใช้บัตรประชาชนปลอม ที่ปลอมทั้งรูปทั้งวันที่และหลาย ๆ อย่าง พอสอบถามพนักงาน พนักงานตอบว่าตนเองเพียงแค่เอาบัตรประชาชนของโจรมาถ่ายเอกสารสำเนาเท่านั้น ไม่ได้นำไปเสียบเครื่องเพื่อเช็คข้อมูลบัตร (คือถ้าเสียบก็จะรู้ทันทีว่าเป็นบัตร ปชช ปลอม)
ผู้เสียหายเลยตั้งคำถามว่า ทำไมพนักงานถึงไม่เสียบบัตรปรพชาชน และเช็คให้ดีก่อน??
ผู้เสียหายทิ้งทายอีกว่าคงจะดำเนินการเรียกร้องค่าเสียหายจากค่ายมือถือเจ้านี้ เพราะเป็นช่องโหว่ที่โจรใช้ในการดูดเงินครั้งนี้