ในภาษาอังกฤษก็มีการ "พูดย้ำ" เหมือนกันครับ ลองดูสำนวนเหล่านี้...
- "step by step" (ทีละขั้นทีละตอน)
- "day by day" (แต่ละมื้อแต่ละเดย์)
- "piece by piece" / "bit by bit" (ทีละชิ้นทีละอัน)
- "side by side" (เคียงบ่าเคียงไหล่)
ไม่ใช่แค่ by บางทีใช้คำอื่นด้วย...
- "face to face" (ตัวต่อตัว)
- "heart to heart" (จากใจสู่ใจ / หมายถึงการเปิดใจคุยกัน)
- "day-to-day" (วันต่อวัน)
- "(from) door to door" (เข้าทุกบ้าน เคาะทุกประตู / *เช่นเวลา MP (ส.ส.) ไปหาเสียง)
- "hand to hand" (ถึงเนื้อถึงตัว)
- "body to body" (ใช้ร่างกายแทนคำพูด / หมายถึงการสื่อสารโดยใช้ภาษากายมากกว่า word ครับ! )
- "back to back" (ต่อเนื่องแบบไม่พัก)
และก็ไม่ใช่แค่ to ครับ ยังมีคำอื่นอีกนะ... (เอาแบบหลากหลายบ้าง)
- "word for word" (คัดลอกมาโดยใช้คำเดียวกันเป๊ะ ๆ)
- "an eye for an eye" (ตาต่อตา / คำพูดเวลาจะไปแก้แค้น)
- "all in all" (สรุปโดยรวม / คำพูดเวลาจะสรุปทุกอย่าง)
- "time and time (again)" (ครั้งแล้วครั้งเล่า)
- "through and through" (อย่างละเอียดถี่ถ้วน)
- "home sweet home" (คำพูดเวลาถึงบ้านหลังจากวันที่เหน็ดเหนื่อย)
และก็ในแบบสุดท้าย ที่ผมชอบที่สุด อาจจะไม่ได้ใช้คำซ้ำกันแบบตรงตัวเลย แต่จะเป็นคำที่มาคู่กันเสมอครับ...
- "safe and sound" (สบายใจหายห่วง)
- "for better or for worse" (ไม่ว่าจะดีหรือร้าย)
- "for love and for honour" (เกือบคล้ายวลี "เพื่อเกียรติและศักดิ์ศรี" ของไทยเรา)
- "rise and shine" (คำพูดเวลาใครสักคนเพิ่งตื่นนอน)
- "live and learn" (ชีวิตคือบทเรียน / You just live and learn, my boys!)
- "tit for tat" (ทำใส่คืนบ้าง)
***คือหมายความว่าใครสักคนทำไม่ดีกับเรา แล้วเราก็ทำกลับ / เกือบคล้าย an eye for an eye แต่เบากว่าเยอะครับ ส่วนมากเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ)
- "sooner or later" (ไม่ช้าก็เร็ว / แต่ภาษาอังกฤษมันเริ่มจาก "ไม่เร็วก็ช้า")
โอเคครับ คิดว่าน่าจะเห็นภาพละ (I'm sure you get the drift!) เป็นแง่มุมหนึ่งของภาษาที่น่าสนใจ จากนี้ถ้าเจอเราจะสังเกตเห็นมันได้มากขึ้นครับ ไว้ครั้งหน้าจะมาลงรายละเอียดว่าการย้ำแต่ละแบบมันเรียกว่าอย่างไรบ้าง และมีหลักการไหนมาช่วยให้เราเข้าใจมากขึ้นนะ
"ไม่จำเป็นต้องรู้ทุกอย่างในวันนี้ แค่รู้ให้มากกว่าเมื่อวานก็พอ"
Stay tuned!
JGC.
การ "ย้ำคำ" ในภาษาอังกฤษ
- "step by step" (ทีละขั้นทีละตอน)
- "day by day" (แต่ละมื้อแต่ละเดย์)
- "piece by piece" / "bit by bit" (ทีละชิ้นทีละอัน)
- "side by side" (เคียงบ่าเคียงไหล่)
ไม่ใช่แค่ by บางทีใช้คำอื่นด้วย...
- "face to face" (ตัวต่อตัว)
- "heart to heart" (จากใจสู่ใจ / หมายถึงการเปิดใจคุยกัน)
- "day-to-day" (วันต่อวัน)
- "(from) door to door" (เข้าทุกบ้าน เคาะทุกประตู / *เช่นเวลา MP (ส.ส.) ไปหาเสียง)
- "hand to hand" (ถึงเนื้อถึงตัว)
- "body to body" (ใช้ร่างกายแทนคำพูด / หมายถึงการสื่อสารโดยใช้ภาษากายมากกว่า word ครับ! )
- "back to back" (ต่อเนื่องแบบไม่พัก)
และก็ไม่ใช่แค่ to ครับ ยังมีคำอื่นอีกนะ... (เอาแบบหลากหลายบ้าง)
- "word for word" (คัดลอกมาโดยใช้คำเดียวกันเป๊ะ ๆ)
- "an eye for an eye" (ตาต่อตา / คำพูดเวลาจะไปแก้แค้น)
- "all in all" (สรุปโดยรวม / คำพูดเวลาจะสรุปทุกอย่าง)
- "time and time (again)" (ครั้งแล้วครั้งเล่า)
- "through and through" (อย่างละเอียดถี่ถ้วน)
- "home sweet home" (คำพูดเวลาถึงบ้านหลังจากวันที่เหน็ดเหนื่อย)
และก็ในแบบสุดท้าย ที่ผมชอบที่สุด อาจจะไม่ได้ใช้คำซ้ำกันแบบตรงตัวเลย แต่จะเป็นคำที่มาคู่กันเสมอครับ...
- "safe and sound" (สบายใจหายห่วง)
- "for better or for worse" (ไม่ว่าจะดีหรือร้าย)
- "for love and for honour" (เกือบคล้ายวลี "เพื่อเกียรติและศักดิ์ศรี" ของไทยเรา)
- "rise and shine" (คำพูดเวลาใครสักคนเพิ่งตื่นนอน)
- "live and learn" (ชีวิตคือบทเรียน / You just live and learn, my boys!)
- "tit for tat" (ทำใส่คืนบ้าง)
***คือหมายความว่าใครสักคนทำไม่ดีกับเรา แล้วเราก็ทำกลับ / เกือบคล้าย an eye for an eye แต่เบากว่าเยอะครับ ส่วนมากเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ)
- "sooner or later" (ไม่ช้าก็เร็ว / แต่ภาษาอังกฤษมันเริ่มจาก "ไม่เร็วก็ช้า")
โอเคครับ คิดว่าน่าจะเห็นภาพละ (I'm sure you get the drift!) เป็นแง่มุมหนึ่งของภาษาที่น่าสนใจ จากนี้ถ้าเจอเราจะสังเกตเห็นมันได้มากขึ้นครับ ไว้ครั้งหน้าจะมาลงรายละเอียดว่าการย้ำแต่ละแบบมันเรียกว่าอย่างไรบ้าง และมีหลักการไหนมาช่วยให้เราเข้าใจมากขึ้นนะ
"ไม่จำเป็นต้องรู้ทุกอย่างในวันนี้ แค่รู้ให้มากกว่าเมื่อวานก็พอ"
Stay tuned!
JGC.