1 ที่มาของคำว่า "รถยนต์" คำว่า "automobile" มาจากภาษากรีก "auto" แปลว่า "ด้วยตัวเอง" และภาษาละติน "mobilis" แปลว่า "เคลื่อนที่ได้"
รถยนต์คันแรกในไทย (พ.ศ. 2447 / ค.ศ. 1904)
รถยนต์คันแรกถูกนำเข้ามาในประเทศไทยในรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) เป็นรถยนต์ยี่ห้อ Daimler และใช้เพื่อการเดินทางของชนชั้นสูง
การเริ่มใช้คำว่า "รถยนต์" คำว่า "รถยนต์" ถูกบัญญัติขึ้นจากการผสมคำว่า "รถ" (ยานพาหนะ) และ "ยนต์" (เครื่องจักร) เพื่อให้สอดคล้องกับลักษณะของพาหนะชนิดนี้
2 ล้อแรกของโลก ล้อถูกประดิษฐ์ขึ้นครั้งแรกประมาณ 3,500 ปีก่อนคริสตกาล แต่ไม่ใช่ล้อของยานพาหนะ เป็นล้อหมุนใช้สำหรับปั้นเครื่องดินเผา
3 ล้อในยูเครน มีการค้นพบล้อดินเผารูปวัวพร้อมล้อในยูเครน
4 รถม้าศึก ชาวฮิตไทต์เป็นผู้บุกเบิกการใช้รถม้าในสงคราม
5 ถนนโรมัน ชาวโรมันสร้างถนน(แบบโบราณ)ยาวกว่า 400,000 กิโลเมตรทั่วจักรวรรดิ
6 รถม้าในกรุงโรม กรุงโรมมีกฎห้ามรถม้าเข้าสู่เมืองในช่วงกลางวันเพื่อป้องกันการจราจรติดขัด
7 รถจักรไอน้ำ นิโคลัส โจเซฟ คูญอต สร้างรถจักรไอน้ำคันแรกในปี 1769
8 รถยนต์ไฟฟ้าแรก โรเบิร์ต แอนเดอร์สัน ประดิษฐ์รถยนต์ไฟฟ้าคันแรกในปี 1832
9 เครื่องยนต์สันดาปภายใน คาร์ล เบนซ์ ได้รับสิทธิบัตรสำหรับรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในในปี 1886
10 การขับรถครั้งแรก เบอร์ธา เบนซ์ ภรรยาของคาร์ล เบนซ์ ขับรถยนต์เป็นระยะทางกว่า 100 กิโลเมตรในปี 1888 เพื่อโปรโมทรถของสามี
11 สายการผลิตรถยนต์ เฮนรี ฟอร์ด เริ่มใช้สายการผลิตในการผลิตรถยนต์รุ่น Model T ในปี 1913
12 ไฟจราจรแรก ไฟจราจรแรกถูกติดตั้งในลอนดอนในปี 1868 แต่เกิดการระเบิดหลังจากใช้งานได้ไม่นาน
13 ไฟจราจรไฟฟ้าแรก ไฟจราจรไฟฟ้าแรกถูกติดตั้งในเมืองคลีฟแลนด์ สหรัฐอเมริกา ในปี 1914
14 สัญญาณไฟจราจรสามสี ไฟจราจรสามสีถูกนำมาใช้ครั้งแรกในดีทรอยต์ในปี 1920
15 วอลโว่เป็นบริษัทแรกที่ติดตั้งเข็มขัดนิรภัยแบบสามจุดในรถยนต์ในปี 1959
16 ถุงลมนิรภัยถูกนำมาใช้ในรถยนต์ครั้งแรกในปี 1973
17 ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS): เมอร์เซเดส-เบนซ์ และบ๊อช ร่วมกันพัฒนาระบบ ABS ในปี 1978
18 ประมาณ 65% ของประชากรโลกขับรถด้านขวา ส่วนที่เหลือขับด้านซ้าย
19 วงเวียนแรกถูกสร้างขึ้นในปารีสที่จัตุรัสชาร์ลส์ เดอ โกล ในปี 1907(ยังไม่ใช่วงเวียนสมัยใหม่)
เดิมเรียกว่า จัตุรัสแห่งดวงดาว (Place de l'Étoile) เนื่องจากมีถนน 12 สายที่มาบรรจบกันในรูปแบบของดวงดาว
ภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็น Place Charles de Gaulle เพื่อเป็นเกียรติแก่ Charles de Gaulle ผู้นำที่สำคัญของฝรั่งเศส วงเวียนนี้ถูกออกแบบให้ล้อมรอบ ประตูชัยฝรั่งเศส (Arc de Triomphe) ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางวงเวียน ถนน 12 สายที่บรรจบกันในลักษณะรัศมีดาว ถูกออกแบบโดย ฌ็อง ชาลแกร็ง (Jean Chalgrin) สถาปนิกชื่อดัง วงเวียนนี้เป็นหนึ่งในพื้นที่แรก ๆ ของโลกที่มีการใช้แนวคิดการจราจรแบบวงกลมเพื่อควบคุมการเคลื่อนตัวของยานพาหนะ
แนวคิดนี้ช่วยลดความสับสนในการขับขี่และเพิ่มความปลอดภัย โดยกำหนดให้ยานพาหนะวิ่งวนตามเข็มนาฬิกา (หรือทวนเข็มในบางประเทศ) รอบจุดศูนย์กลาง
20 ทางด่วนแรกของโลกมีในอิตาลี เปิดใช้ในปี 1924 ทางด่วนสายแรกขั้นแรกของไทย สายดินแดง-ท่าเรือ ก่อสร้างแล้วเสร็จเป็นสายแรก เปิดใช้อย่างไม่เป็นทางการเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม ปี 2524 และมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 4 มกราคม ปี 2525 จากปลายถนนวิภาวดีรังสิต มุ่งไปทิศตะวันออก ถึงทางแยกต่างระดับที่ท่าเรือคลองเตย
21 การจำกัดความเร็วครั้งแรกถูกกำหนดในสหราชอาณาจักรในปี 1865 ที่ 2 ไมล์ต่อชั่วโมงในเมือง และ 4 ไมล์ต่อชั่วโมงนอกเมือง
22 ป้ายจราจรแรกถูกใช้ในกรุงโรมโบราณเพื่อบอกทิศทาง
23 ในปี 1908 นิวยอร์กออกกฎหมายบังคับให้รถยนต์ต้องมีแตร
24 ไฟหน้ารถยนต์ถูกนำมาใช้ครั้งแรกในปี 1898 โดยใช้ก๊าซอะเซทิลีน
25 ไฟเลี้ยวถูกคิดค้นโดยนักแสดงหญิง ฟลอเรนซ์ ลอว์เรนซ์ ในปี 1914
ในยุคเริ่มต้นของรถยนต์ การสื่อสารระหว่างผู้ขับขี่ทำได้ยากมาก และอุบัติเหตุเกิดขึ้นบ่อยเพราะไม่มีสัญญาณเตือนที่ชัดเจน ฟลอเรนซ์ ลอว์เรนซ์ เล็งเห็นปัญหานี้และเริ่มคิดค้นวิธีการสื่อสารสำหรับผู้ขับขี่ เธอออกแบบกลไกที่สามารถติดตั้งไว้ด้านหลังรถ โดยผู้ขับขี่สามารถกดปุ่มเพื่อให้มีแขนกล (mechanical arm) ยื่นออกมาทางด้านซ้ายหรือขวา เพื่อบ่งบอกทิศทางการเลี้ยว ระบบนี้ยังไม่มีไฟฟ้าหรือแสงไฟ แต่ทำหน้าที่ได้ดีในยุคนั้น เธอยังพัฒนาระบบที่แสดงไฟเตือนเมื่อคนขับเหยียบเบรก เพื่อแจ้งเตือนรถคันหลัง ลดโอกาสการชนท้าย แม้ฟลอเรนซ์จะไม่ได้รับผลประโยชน์ทางการเงินจากสิ่งประดิษฐ์นี้ แต่เธอได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้หญิงที่ไม่เพียงแค่สร้างแรงบันดาลใจในวงการบันเทิง แต่ยังเป็นนักประดิษฐ์ที่มีวิสัยทัศน์ในการแก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน
ไฟเลี้ยวที่เราใช้ในปัจจุบันสามารถสืบย้อนรากฐานกลับไปยังสิ่งประดิษฐ์ของฟลอเรนซ์ ลอว์เรนซ์ในปี 1914 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความคิดล้ำยุคของเธอที่มีส่วนช่วยให้การขับขี่บนถนนปลอดภัยยิ่งขึ้น
26 แมรี่ แอนเดอร์สัน ประดิษฐ์ใบปัดน้ำฝนในปี 1903
27 เรย์ ฮาร์รูน ใช้กระจกมองหลังครั้งแรกในการแข่งขัน Indianapolis 500 ในปี 1911
28 Toyota Corolla ถือเป็นรถยนต์ที่มียอดขายสะสมสูงที่สุดในโลก Corolla กลายเป็นรถยนต์ที่มียอดขายสะสมสูงที่สุดในโลก โดยมียอดขายมากกว่า 50 ล้านคัน (ข้อมูล ณ ปี 2023)
29 ถนน Spreuerhofstraße ในเยอรมนี มีความกว้างเพียง 31 เซนติเมตร
30 ลอสแอนเจลิสมีจำนวนรถยนต์มากกว่าจำนวนประชากรในเมือง ลอสแอนเจลิสมีประชากรประมาณ 4 ล้านคน (ข้อมูลปี 2023) แต่มีรถยนต์จดทะเบียนมากกว่า 6 ล้านคัน ซึ่งหมายถึงประชากรจำนวนมากมีรถยนต์มากกว่าหนึ่งคัน
31 Tesla Roadster เปิดตัวในปี 2008 เป็นรถยนต์ไฟฟ้าคันแรกที่วิ่งได้ระยะทางเกิน 200 ไมล์ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง
32 Pan-American Highway มีความยาวกว่า 30,000 กิโลเมตร เชื่อมโยงทวีปอเมริกาเหนือและใต้
33 เครื่องยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในรถยนต์: Bugatti Veyron ใช้เครื่องยนต์ W16 ที่มีความจุ 8 ลิตร
34 รถยนต์ที่เล็กที่สุดในโลก: Peel P50 รถยนต์ที่ผลิตในปี 1962 มีความยาวเพียง 1.37 เมตร และน้ำหนักเพียง 59 กิโลกรัม
35 ถนนที่สูงที่สุดในโลก: ถนน Ladakh ในอินเดีย สูงกว่า 5,600 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล
36 ถนนที่ชันที่สุดในโลก: ถนน Baldwin ในประเทศนิวซีแลนด์ มีความชันถึง 34.8%
37 Caterpillar 797F เป็นรถบรรทุกที่มีขนาดใหญ่มาก ใช้ในเหมืองแร่ มีน้ำหนักกว่า 600 ตัน
38 อุบัติเหตุรถยนต์ครั้งแรก: เกิดขึ้นในปี 1891 ที่รัฐโอไฮโอ เมื่อรถยนต์ชนเข้ากับต้นไม้
39 Google เริ่มพัฒนารถยนต์ไร้คนขับในปี 2009 และ Tesla ได้ขยายแนวคิดด้วยระบบ Autopilot
40 การเกิดของการจราจรติดขัดครั้งแรกเกิดขึ้นในกรุงปารีสในปี 1895 เมื่อมีการจัดงานแสดงรถยนต์
41 Alfred P. Sloan Jr. ซึ่งเป็นผู้บริหารคนสำคัญของ GM ในปี 1920s ได้กำหนดแนวทางที่เป็นเอกลักษณ์ให้ GM โดยเสนอรถยนต์ที่ตอบสนองความต้องการของทุกกลุ่มเป้าหมาย GM แบ่งแบรนด์ออกเป็นหลายระดับราคาตั้งแต่ Chevrolet (สำหรับผู้เริ่มต้น) ไปจนถึง Cadillac (สำหรับตลาดหรูหรา) ซึ่งแตกต่างจาก Ford ที่มุ่งเน้นการผลิตรถยนต์รุ่นเดียวอย่าง Model T
GM เริ่มแนะนำ "การเปลี่ยนรุ่น" หรือ "Model Year" เพื่อสร้างความตื่นเต้นและกระตุ้นให้ลูกค้าซื้อรถใหม่แม้ว่ารถเก่าของพวกเขาจะยังใช้งานได้ดี การอัปเดตการออกแบบและเพิ่มคุณสมบัติใหม่ ๆ ทุกปีช่วยดึงดูดผู้ซื้อ และทำให้แบรนด์ดูทันสมัยและมีนวัตกรรม
42 GM เป็นหนึ่งในบริษัทแรกที่เสนอ "แผนการซื้อผ่อนชำระ" (Installment Plans) ผ่าน GMAC (General Motors Acceptance Corporation) ในปี 1919 ระบบนี้ทำให้ผู้คนทั่วไปสามารถเป็นเจ้าของรถยนต์ได้ง่ายขึ้น และเป็นการขยายฐานลูกค้าอย่างรวดเร็ว ก่อนหน้านี้ต้องซื้รถเงินสดกัน
43 ในประเทศ รัสเซีย หากคุณขับรถที่สกปรกมากจนตัวเลขทะเบียนรถอ่านไม่ออก คุณอาจถูกปรับได้
45 ฝรั่งเศสห้ามจอดรถบริเวณหน้าโรงพยาบาล เนื่องจากพื้นที่นั้นสงวนไว้สำหรับรถพยาบาลและการฉุกเฉินเท่านั้น
46 ที่เดนมาร์ก รถยนต์ทุกคันต้องเปิดไฟหน้าตลอดเวลา แม้ในช่วงกลางวัน
47 ในประเทศแอฟริกาใต้ รถยนต์ส่วนบุคคลไม่สามารถบรรทุกผู้โดยสารเกิน 50 คน กฎหมายนี้แม้จะดูชัดเจน แต่ถูกเขียนไว้เพื่อตัดปัญหาการขนคนเกินจำนวนในพื้นที่ชนบท
48 ในโรมาเนีย หากคุณจอดรถแต่ลืมปิดไฟหน้ารถ อาจถูกปรับ เพราะถือเป็นการสิ้นเปลืองพลังงานและรบกวนสายตาคนอื่น
49 ในดูไบ การขับรถที่มีความสกปรกมาก อาจถูกปรับสูงถึง 3,000 เดอร์แฮม (ประมาณ 27,000 บาท) เนื่องจากมองว่าเป็นการไม่ให้เกียรติสถานที่และสร้างภาพลักษณ์ที่ไม่ดีต่อเมือง หากรถถูกพบว่ามีสิ่งสกปรก เช่น ฝุ่นหรือโคลนสะสมในปริมาณมาก เจ้าของรถอาจถูกปรับสูงถึง 3,000 เดอร์แฮม (ประมาณ 27,000 บาท) ตามกฎจราจรของดูไบ
50 ในเยอรมนี หากคุณป่วยหรือมีอาการที่อาจส่งผลต่อการขับขี่ เช่น มีไข้สูง คุณอาจถูกปรับหากพบว่าการขับขี่ของคุณก่อให้เกิดความเสี่ยง
เป็นอย่างไรกันบ้าง น่าจะได้ความรู้ไปไม่น้อยนะครับ รวบรวมมาจากการถามตอบ Chat GPT และบางส่วนจากหนังสือ brief history of motion โดย ทอม สแตนเดจ(มีฉบับแปลไทยขายอยู่)
อ้อข้อ 44 หายไปไหนเนี่ย
50 เกร็ดเล็กๆน้อยๆ เรื่องยานยนต์
รถยนต์คันแรกในไทย (พ.ศ. 2447 / ค.ศ. 1904)
รถยนต์คันแรกถูกนำเข้ามาในประเทศไทยในรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) เป็นรถยนต์ยี่ห้อ Daimler และใช้เพื่อการเดินทางของชนชั้นสูง
การเริ่มใช้คำว่า "รถยนต์" คำว่า "รถยนต์" ถูกบัญญัติขึ้นจากการผสมคำว่า "รถ" (ยานพาหนะ) และ "ยนต์" (เครื่องจักร) เพื่อให้สอดคล้องกับลักษณะของพาหนะชนิดนี้
2 ล้อแรกของโลก ล้อถูกประดิษฐ์ขึ้นครั้งแรกประมาณ 3,500 ปีก่อนคริสตกาล แต่ไม่ใช่ล้อของยานพาหนะ เป็นล้อหมุนใช้สำหรับปั้นเครื่องดินเผา
3 ล้อในยูเครน มีการค้นพบล้อดินเผารูปวัวพร้อมล้อในยูเครน
4 รถม้าศึก ชาวฮิตไทต์เป็นผู้บุกเบิกการใช้รถม้าในสงคราม
5 ถนนโรมัน ชาวโรมันสร้างถนน(แบบโบราณ)ยาวกว่า 400,000 กิโลเมตรทั่วจักรวรรดิ
6 รถม้าในกรุงโรม กรุงโรมมีกฎห้ามรถม้าเข้าสู่เมืองในช่วงกลางวันเพื่อป้องกันการจราจรติดขัด
7 รถจักรไอน้ำ นิโคลัส โจเซฟ คูญอต สร้างรถจักรไอน้ำคันแรกในปี 1769
8 รถยนต์ไฟฟ้าแรก โรเบิร์ต แอนเดอร์สัน ประดิษฐ์รถยนต์ไฟฟ้าคันแรกในปี 1832
9 เครื่องยนต์สันดาปภายใน คาร์ล เบนซ์ ได้รับสิทธิบัตรสำหรับรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในในปี 1886
10 การขับรถครั้งแรก เบอร์ธา เบนซ์ ภรรยาของคาร์ล เบนซ์ ขับรถยนต์เป็นระยะทางกว่า 100 กิโลเมตรในปี 1888 เพื่อโปรโมทรถของสามี
11 สายการผลิตรถยนต์ เฮนรี ฟอร์ด เริ่มใช้สายการผลิตในการผลิตรถยนต์รุ่น Model T ในปี 1913
12 ไฟจราจรแรก ไฟจราจรแรกถูกติดตั้งในลอนดอนในปี 1868 แต่เกิดการระเบิดหลังจากใช้งานได้ไม่นาน
13 ไฟจราจรไฟฟ้าแรก ไฟจราจรไฟฟ้าแรกถูกติดตั้งในเมืองคลีฟแลนด์ สหรัฐอเมริกา ในปี 1914
14 สัญญาณไฟจราจรสามสี ไฟจราจรสามสีถูกนำมาใช้ครั้งแรกในดีทรอยต์ในปี 1920
15 วอลโว่เป็นบริษัทแรกที่ติดตั้งเข็มขัดนิรภัยแบบสามจุดในรถยนต์ในปี 1959
16 ถุงลมนิรภัยถูกนำมาใช้ในรถยนต์ครั้งแรกในปี 1973
17 ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS): เมอร์เซเดส-เบนซ์ และบ๊อช ร่วมกันพัฒนาระบบ ABS ในปี 1978
18 ประมาณ 65% ของประชากรโลกขับรถด้านขวา ส่วนที่เหลือขับด้านซ้าย
19 วงเวียนแรกถูกสร้างขึ้นในปารีสที่จัตุรัสชาร์ลส์ เดอ โกล ในปี 1907(ยังไม่ใช่วงเวียนสมัยใหม่)
เดิมเรียกว่า จัตุรัสแห่งดวงดาว (Place de l'Étoile) เนื่องจากมีถนน 12 สายที่มาบรรจบกันในรูปแบบของดวงดาว
ภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็น Place Charles de Gaulle เพื่อเป็นเกียรติแก่ Charles de Gaulle ผู้นำที่สำคัญของฝรั่งเศส วงเวียนนี้ถูกออกแบบให้ล้อมรอบ ประตูชัยฝรั่งเศส (Arc de Triomphe) ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางวงเวียน ถนน 12 สายที่บรรจบกันในลักษณะรัศมีดาว ถูกออกแบบโดย ฌ็อง ชาลแกร็ง (Jean Chalgrin) สถาปนิกชื่อดัง วงเวียนนี้เป็นหนึ่งในพื้นที่แรก ๆ ของโลกที่มีการใช้แนวคิดการจราจรแบบวงกลมเพื่อควบคุมการเคลื่อนตัวของยานพาหนะ
แนวคิดนี้ช่วยลดความสับสนในการขับขี่และเพิ่มความปลอดภัย โดยกำหนดให้ยานพาหนะวิ่งวนตามเข็มนาฬิกา (หรือทวนเข็มในบางประเทศ) รอบจุดศูนย์กลาง
20 ทางด่วนแรกของโลกมีในอิตาลี เปิดใช้ในปี 1924 ทางด่วนสายแรกขั้นแรกของไทย สายดินแดง-ท่าเรือ ก่อสร้างแล้วเสร็จเป็นสายแรก เปิดใช้อย่างไม่เป็นทางการเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม ปี 2524 และมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 4 มกราคม ปี 2525 จากปลายถนนวิภาวดีรังสิต มุ่งไปทิศตะวันออก ถึงทางแยกต่างระดับที่ท่าเรือคลองเตย
21 การจำกัดความเร็วครั้งแรกถูกกำหนดในสหราชอาณาจักรในปี 1865 ที่ 2 ไมล์ต่อชั่วโมงในเมือง และ 4 ไมล์ต่อชั่วโมงนอกเมือง
22 ป้ายจราจรแรกถูกใช้ในกรุงโรมโบราณเพื่อบอกทิศทาง
23 ในปี 1908 นิวยอร์กออกกฎหมายบังคับให้รถยนต์ต้องมีแตร
24 ไฟหน้ารถยนต์ถูกนำมาใช้ครั้งแรกในปี 1898 โดยใช้ก๊าซอะเซทิลีน
25 ไฟเลี้ยวถูกคิดค้นโดยนักแสดงหญิง ฟลอเรนซ์ ลอว์เรนซ์ ในปี 1914
ในยุคเริ่มต้นของรถยนต์ การสื่อสารระหว่างผู้ขับขี่ทำได้ยากมาก และอุบัติเหตุเกิดขึ้นบ่อยเพราะไม่มีสัญญาณเตือนที่ชัดเจน ฟลอเรนซ์ ลอว์เรนซ์ เล็งเห็นปัญหานี้และเริ่มคิดค้นวิธีการสื่อสารสำหรับผู้ขับขี่ เธอออกแบบกลไกที่สามารถติดตั้งไว้ด้านหลังรถ โดยผู้ขับขี่สามารถกดปุ่มเพื่อให้มีแขนกล (mechanical arm) ยื่นออกมาทางด้านซ้ายหรือขวา เพื่อบ่งบอกทิศทางการเลี้ยว ระบบนี้ยังไม่มีไฟฟ้าหรือแสงไฟ แต่ทำหน้าที่ได้ดีในยุคนั้น เธอยังพัฒนาระบบที่แสดงไฟเตือนเมื่อคนขับเหยียบเบรก เพื่อแจ้งเตือนรถคันหลัง ลดโอกาสการชนท้าย แม้ฟลอเรนซ์จะไม่ได้รับผลประโยชน์ทางการเงินจากสิ่งประดิษฐ์นี้ แต่เธอได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้หญิงที่ไม่เพียงแค่สร้างแรงบันดาลใจในวงการบันเทิง แต่ยังเป็นนักประดิษฐ์ที่มีวิสัยทัศน์ในการแก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน
ไฟเลี้ยวที่เราใช้ในปัจจุบันสามารถสืบย้อนรากฐานกลับไปยังสิ่งประดิษฐ์ของฟลอเรนซ์ ลอว์เรนซ์ในปี 1914 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความคิดล้ำยุคของเธอที่มีส่วนช่วยให้การขับขี่บนถนนปลอดภัยยิ่งขึ้น
26 แมรี่ แอนเดอร์สัน ประดิษฐ์ใบปัดน้ำฝนในปี 1903
27 เรย์ ฮาร์รูน ใช้กระจกมองหลังครั้งแรกในการแข่งขัน Indianapolis 500 ในปี 1911
28 Toyota Corolla ถือเป็นรถยนต์ที่มียอดขายสะสมสูงที่สุดในโลก Corolla กลายเป็นรถยนต์ที่มียอดขายสะสมสูงที่สุดในโลก โดยมียอดขายมากกว่า 50 ล้านคัน (ข้อมูล ณ ปี 2023)
29 ถนน Spreuerhofstraße ในเยอรมนี มีความกว้างเพียง 31 เซนติเมตร
30 ลอสแอนเจลิสมีจำนวนรถยนต์มากกว่าจำนวนประชากรในเมือง ลอสแอนเจลิสมีประชากรประมาณ 4 ล้านคน (ข้อมูลปี 2023) แต่มีรถยนต์จดทะเบียนมากกว่า 6 ล้านคัน ซึ่งหมายถึงประชากรจำนวนมากมีรถยนต์มากกว่าหนึ่งคัน
31 Tesla Roadster เปิดตัวในปี 2008 เป็นรถยนต์ไฟฟ้าคันแรกที่วิ่งได้ระยะทางเกิน 200 ไมล์ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง
32 Pan-American Highway มีความยาวกว่า 30,000 กิโลเมตร เชื่อมโยงทวีปอเมริกาเหนือและใต้
33 เครื่องยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในรถยนต์: Bugatti Veyron ใช้เครื่องยนต์ W16 ที่มีความจุ 8 ลิตร
34 รถยนต์ที่เล็กที่สุดในโลก: Peel P50 รถยนต์ที่ผลิตในปี 1962 มีความยาวเพียง 1.37 เมตร และน้ำหนักเพียง 59 กิโลกรัม
35 ถนนที่สูงที่สุดในโลก: ถนน Ladakh ในอินเดีย สูงกว่า 5,600 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล
36 ถนนที่ชันที่สุดในโลก: ถนน Baldwin ในประเทศนิวซีแลนด์ มีความชันถึง 34.8%
37 Caterpillar 797F เป็นรถบรรทุกที่มีขนาดใหญ่มาก ใช้ในเหมืองแร่ มีน้ำหนักกว่า 600 ตัน
38 อุบัติเหตุรถยนต์ครั้งแรก: เกิดขึ้นในปี 1891 ที่รัฐโอไฮโอ เมื่อรถยนต์ชนเข้ากับต้นไม้
39 Google เริ่มพัฒนารถยนต์ไร้คนขับในปี 2009 และ Tesla ได้ขยายแนวคิดด้วยระบบ Autopilot
40 การเกิดของการจราจรติดขัดครั้งแรกเกิดขึ้นในกรุงปารีสในปี 1895 เมื่อมีการจัดงานแสดงรถยนต์
41 Alfred P. Sloan Jr. ซึ่งเป็นผู้บริหารคนสำคัญของ GM ในปี 1920s ได้กำหนดแนวทางที่เป็นเอกลักษณ์ให้ GM โดยเสนอรถยนต์ที่ตอบสนองความต้องการของทุกกลุ่มเป้าหมาย GM แบ่งแบรนด์ออกเป็นหลายระดับราคาตั้งแต่ Chevrolet (สำหรับผู้เริ่มต้น) ไปจนถึง Cadillac (สำหรับตลาดหรูหรา) ซึ่งแตกต่างจาก Ford ที่มุ่งเน้นการผลิตรถยนต์รุ่นเดียวอย่าง Model T
GM เริ่มแนะนำ "การเปลี่ยนรุ่น" หรือ "Model Year" เพื่อสร้างความตื่นเต้นและกระตุ้นให้ลูกค้าซื้อรถใหม่แม้ว่ารถเก่าของพวกเขาจะยังใช้งานได้ดี การอัปเดตการออกแบบและเพิ่มคุณสมบัติใหม่ ๆ ทุกปีช่วยดึงดูดผู้ซื้อ และทำให้แบรนด์ดูทันสมัยและมีนวัตกรรม
42 GM เป็นหนึ่งในบริษัทแรกที่เสนอ "แผนการซื้อผ่อนชำระ" (Installment Plans) ผ่าน GMAC (General Motors Acceptance Corporation) ในปี 1919 ระบบนี้ทำให้ผู้คนทั่วไปสามารถเป็นเจ้าของรถยนต์ได้ง่ายขึ้น และเป็นการขยายฐานลูกค้าอย่างรวดเร็ว ก่อนหน้านี้ต้องซื้รถเงินสดกัน
43 ในประเทศ รัสเซีย หากคุณขับรถที่สกปรกมากจนตัวเลขทะเบียนรถอ่านไม่ออก คุณอาจถูกปรับได้
45 ฝรั่งเศสห้ามจอดรถบริเวณหน้าโรงพยาบาล เนื่องจากพื้นที่นั้นสงวนไว้สำหรับรถพยาบาลและการฉุกเฉินเท่านั้น
46 ที่เดนมาร์ก รถยนต์ทุกคันต้องเปิดไฟหน้าตลอดเวลา แม้ในช่วงกลางวัน
47 ในประเทศแอฟริกาใต้ รถยนต์ส่วนบุคคลไม่สามารถบรรทุกผู้โดยสารเกิน 50 คน กฎหมายนี้แม้จะดูชัดเจน แต่ถูกเขียนไว้เพื่อตัดปัญหาการขนคนเกินจำนวนในพื้นที่ชนบท
48 ในโรมาเนีย หากคุณจอดรถแต่ลืมปิดไฟหน้ารถ อาจถูกปรับ เพราะถือเป็นการสิ้นเปลืองพลังงานและรบกวนสายตาคนอื่น
49 ในดูไบ การขับรถที่มีความสกปรกมาก อาจถูกปรับสูงถึง 3,000 เดอร์แฮม (ประมาณ 27,000 บาท) เนื่องจากมองว่าเป็นการไม่ให้เกียรติสถานที่และสร้างภาพลักษณ์ที่ไม่ดีต่อเมือง หากรถถูกพบว่ามีสิ่งสกปรก เช่น ฝุ่นหรือโคลนสะสมในปริมาณมาก เจ้าของรถอาจถูกปรับสูงถึง 3,000 เดอร์แฮม (ประมาณ 27,000 บาท) ตามกฎจราจรของดูไบ
50 ในเยอรมนี หากคุณป่วยหรือมีอาการที่อาจส่งผลต่อการขับขี่ เช่น มีไข้สูง คุณอาจถูกปรับหากพบว่าการขับขี่ของคุณก่อให้เกิดความเสี่ยง
เป็นอย่างไรกันบ้าง น่าจะได้ความรู้ไปไม่น้อยนะครับ รวบรวมมาจากการถามตอบ Chat GPT และบางส่วนจากหนังสือ brief history of motion โดย ทอม สแตนเดจ(มีฉบับแปลไทยขายอยู่)
อ้อข้อ 44 หายไปไหนเนี่ย