เราควรตัดสินใจอย่างไรดีกับสถานการณ์นี้ ถ้าตัดสินใจทิ้งครอบครัวไปเลยมันจะดูผิดมากไหม

สวัสดีค่ะ เราปีนี้อายุ 26 แล้วซึ่งความฝันเราคืออยากตั้งใจเรียน+เก็บเงินเรียนต่อเกี่ยวกับด้านล่าม แต่ปัญหาคือเราเหมือนต้องรับผิดชอบชีวิตคนที่บ้านตลอดเวลาพอจะระบายก็ได้กลับมาเป็นคำชมว่าทำดีแล้ว ให้พวกเขาก็ได้บุญกลับมา(26 ปีรู้สึกมีแต่บาป)ไม่มีใครสักคนถามว่าชอบสิ่งที่ทำไหม อยากทำไปตลอดชีวิตรึเปล่า แล้วเราเหนื่อยมาก เกิดมาไม่เคยอยากตายเลยจนทุกวันนี้เริ่มถามตัวเองว่าตายไปจะสบายใจกว่านี้ไหม แล้วจะตกนรกไปเจออะไรแย่ๆกว่านี้ไหม

ขอขยายความที่ว่ารับผิดชอบนิดนึงค่ะ คือแม่เราเป็นแม่ค้า((และเป็นหนี้)ตั้งแต่เราจำความได้ เราก็ช่วยแม่ตั้งแต่เด็กเหมือนกัน เก็บบ้าน ทำของ ขายของ เรารู้สึกว่านี่คือชีวิตทั่วไปของคนที่บ้านค่อนข้างขัดสนเรื่องการเงิน จนพอเราอายุ 17 ช่วงกำลังเข้ามหาลัย ณ จุดนั้นเรายังไม่มีความฝันอะไรเลยนอกจากอยากมีเงินไว้จากค่าเทอมค่ากินเองก็เลยขายของด้วย แล้วมันขายได้จนมีเงินเก็บอยู่บ้าง พอเราเริ่มมีเงินเก็บก็จะโดนแม่ขอยืม(แต่ไม่คืน)มาตลอด แล้วจะเป็นประเภทยุให้เราออกแบบรถรถพังเราก็นั่งคิดว่าจะออกไหมจะส่งไหวไหมจำเป็นไหมแม่จะมาแบบออกเลยเดี๋ยวช่วยสุดท้ายเราจ่ายเอง(แล้วชื่อเราติดแบล็กลิสตั้งแต่ 24 เพราะพ่อให้ออกรถกระบะจะไปวิ่งงานสุดท้ายไม่ส่ง) แต่ระหว่างเราเรียนก็คือแม่ช่วยขายให้นะแค่เราต้องมาเตรียมของขายเองก่อนไปเรียน เราทำแบบนั้นมาจนเรียนจบแต่เงินเก็บไม่ขยับ เพราะพอจะมีเก็บเจ้าหนี้แม่ก็จะมาตามทวง เราก็ไม่รู้จะแก้ยังไงก็ได้แต่จ่ายเจ้าที่เคลียร์ได้ จนพอเรียนจบไปทำงาน ตอนนั้นมีเงินเก็บประมาณ 40000+20000 เงินสดแม่ถือไว้ที่ตัว แล้วเริ่มเงินเดือน 16000 ตอนนั้นเราส่งให้แม่ 10000 บาท/เดือน ให้ไปจัดการค่าใช้จ่ายเอง เพราะเราได้จากร้านอยู่บ้างแต่ก็พอจ่ายค่าใช้จ่ายไม่ได้เหลือเก็บเลย(คือแม่และน้าช่วยทำให้เราไม่ได้กลับไปขึ้นของแล้ว) ทำแบบนั้นไปสัก 4 เดือนมีปัญหาเรื่องหนี้อีกแล้ว เจ้าหนี้มาตามเงิน แล้วหลังจากให้แล้ว 10000 แม่ขอเงินอาทิตย์ละครั้งแต่ 200 300 1000 บ้าง จนช่วงนั้นแพนิคมากเวลาเห็นเบอร์แม่หรือคนที่บ้าน ละ 40000 ที่เราเก็บมันหายวับภายใน 2 เดือน   (20000 ก็หมด มารู้ทีหลังว่าแม่ใช้หมดเลยโดยไม่บอกเราสักคำ)แต่ดีที่ว่าเงินเดือนมันขึ้นถี่มาก จนปรับมาที่ 20000 เราจ่ายเกือบทุกอย่างเพราะเวลามีปัญหาทุกคนจะโทรมาหาเรา น่าจะเริ่มตั้งแต่ตอนนั้นที่แม่เริ่มโอนเงินเข้ามาให้เราเยอะขึ้นแล้วบอกว่า "เป็นส่วนร้านแม่แม่โอนคืน" แต่ประเด็นกลายเป็นว่าเรารับผิดชอบเยอะขึ้นจากเดิมมาก เดือนๆนึงเงินเดือนไม่พอค่าใช้จ่ายต้องรอเงินที่แม่โอนเข้ามาสะสมไว้เพื่อไปจ่าย หรือพอเขาไม่มีเงินลงทุนก็โทรมาขอ เราก็ให้เพราะรู้สึกต้องรับผิดชอบ จนเรารู้สึกว่าไม่ใช่ละเลยบอกไปหลายรอบมากว่าถ้าจะทำแบบนี้ไม่ต้องโอนมาเก็บไว้แล้วไปเคลียร์ค่าใช้จ่ายตัวเอง จนยื่นคำขาดไปรอบนึงว่าถ้าโอนก็โอนมาแต่จะไม่จ่ายค่าอะไรให้ทั้งนั้นเขาก็อ้างว่า "ไม่เป็นไรแม่ก็จะโอนให้เหมือนเดิม" เราก็ต้องจ่ายทุกครั้งที่เขาขอเพราะรู้สึกว่าเงินเขาเราต้องคืน สักพักเงินเดือนขึ้นมาอีกหน่อยเลยพอมีเงินเก็บ จนพอเราเบิร์นเอ้าท์กับงานมากๆเลยบอกว่าจะลาออกแล้วไม่ไหวแล้วซึ่งเราพูดชัดเจนว่าถ้าออกไปไม่มีเงินให้นะที่เก็บไว้เผื่อสำรองนะต้องกลับไปขายของนะเขาก็บอกว่าเดี๋ยวจะลงทุนขายนั่นนี่ขอเงินไปลงทุนหน่อยเราก็ให้ ก่อนหน้านี้ก็ขอไปลงทุนที่ใหม่ สุดท้ายพอเรากลับมาไม่มีอะไรเลย ของที่จะขายถ้าจะขายก็ต้องลงทุนเอง ร้านใหม่ก็ไม่เห็น แถมรู้ว่าแอบเอาเงินไปใช้ 15000   ตอนที่เรายื่นเรื่องลาออกแล้ว(ก่อนนี้เราฝากเข้าบัญชีน้องชายเราทุกวันเพราะคิดว่าอย่างน้อยมันก็คงคิดว่าเงินนี้เก็บไว้จ่ายค่าเทอมมันด้วยมันน่าจะไม่กล้าใช้อย่างอื่น สุดท้ายโอนให้แม่เรียบร้อย) แล้วพอกลับมาเรายกเรื่องนี้มาพูดแม่จะทำเหมือนเราผิดแบบพูดอีกละ แม่เครียด ทำไมไม่จบแต่คือทุกครั้งที่เราพูดก็คือแม่สร้างเรื่องใหม่ตลอดแล้วทำตัวเหมือนเดิมเราเลยยกตัวอย่างว่าก็แบบนี้ไงเลยเป็นแบบนี้เขาก็หงุดหงิดใส่เดินหนีไม่คิดจะหาวิธีแก้(คือแม่เป็นแบบนี้ตลอดพอเริ่มพูดมาเขาไม่รู้อายคนอื่นที่ทำตัวแบบนี้หรืออะไร เขาก็จะตัดบทมาว่าทำอะไรให้เราบ้างโดยลืมเลยว่าเราทำอะไรให้เขาบ้าง) ล่าสุดที่ทะเลาะกันก็เพราะเราจะไปหางานเพราะกลัวรายได้ที่ร้านไม่พอรายจ่าย อย่างน้อยเงินเดือนมันก็พอเอามาช่วยได้บ้างต่อให้จะน้อยกว่าที่เดิมก็เหอะ แล้วเขาก็พูดเหมือนเราจะไปเป็นภาระให้เขาเพราะถ้าขึ้นของเพิ่มแล้วเราไปทำงานเขาต้องเหนื่อยเพิ่มทั้งที่เรากะจะเอาเงินเดือนมาอุดค่าใช้จ่ายด้วยซ้ำ ถ้าเขาช่วยเหลือตัวเองได้หรือน้องเรามันหาค่าส่วนต่างค่าเทอมเองได้เราก็ไม่อยากทำงานหนักอะ เราก็อยากเดินตามความฝันตัวเองบ้าง แต่พูดไปเขาก็อารมณ์ไม่ฟังเดี๋ยวก็มีทางออก แต่ทางออกมันไม่เคยพ้นเราเลย แถมพอเราช่วยไม่ได้ก็ไปเลือกทางที่แย่กว่าเดิมอีก มีหลายครั้งที่ขอเงินเราแล้วเราไม่มีให้เพราะกันไว้ค่าใช้จ่ายอื่นแล้วก็พูดทำนองว่าถ้าให้ไม่ได้ก็ต้องไปกู้เงิน ซึ่งเราเกลียดคำนี้มากเพราะหนี้นอกระบบของแม่พาชีวิตเราแย่มาถึงทุกวันนี้ ซึ่งตอนนี้เราเหนื่อยมากๆแต่งานที่ไปสัมภาษณ์งานไว้เงินเดือนช่วงฝึกมันไม่เยอะแล้วเราต้องจ่ายค่ารถที่เป็นชื่อเราเดือนละ 7000 เท่ากับว่าถ้าไม่ขายของที่ร้านด้วยทำงานอย่างเดียวเราอยู่ไม่พ้นเดือนแน่ๆ แต่ถ้ายังขายของอยู่กับพวกเขาก็ยังวนรูปเจออะไรแบบนี้ทุกวัน

ทั้งหมดนี้คือถ้าเราเลือกทิ้งไปเลยเราจะดูไร้ความรับผิดชอบไหมคะ แบบเราคิดมากไปเองรึเปล่า หรือจริงๆแม่ที่ไหนก็เป็นแบบนี้ แล้วเราความอดทนต่ำไปเองไหม แล้วใครเคยมีประสบการณ์ห่างจากครอบครัวไปใช้ชีวิตคนเดียวบ้าง มันยากไหมคะทั้งด้านความรู้สึก และเรื่องการใช้ชีวิตการปรับตัวอะไร
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่