เรื่องนี้เริ่มต้นจากคลิปเปรียบเทียบที่มีการนำเสนอความอลังการของงานเคาท์ดาวน์ 2025 ระหว่างสองประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ ประเทศไทยและกัมพูชา โดยในคลิปแสดงให้เห็นภาพบรรยากาศของการเฉลิมฉลองในทั้งสองประเทศ
ฝั่งประเทศไทย งานจัดขึ้นที่กรุงเทพฯ มีการจุดพลุหลากสีที่สาดส่องเต็มท้องฟ้า พร้อมเสียงเพลงและกิจกรรมบันเทิงมากมาย นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติร่วมฉลองกันอย่างคึกคัก
ส่วนฝั่งกัมพูชา งานจัดขึ้นที่พนมเปญ โดดเด่นด้วยการแสดงแสงสีเสียงที่ผสมผสานวัฒนธรรมพื้นเมืองของกัมพูชาเข้ากับการเฉลิมฉลองสากล บรรยากาศเต็มไปด้วยความสนุกสนานและความภาคภูมิใจของชาวกัมพูชา
ทั้งสองประเทศแสดงให้เห็นถึงเอกลักษณ์และความพร้อมในการจัดงานระดับโลกที่สร้างความประทับใจไม่รู้ลืม
โดยมีชาวต่างชาติร่วมเข้ามาคอมเม้นกันอย่างมากมาย
เรามาดูคอมเม้นจากชาวต่างชาติกันค่ะ
"ฉันเคยไปร่วมงานเคาท์ดาวน์ที่ไทยเมื่อสองปีที่แล้ว มันยอดเยี่ยมมาก!"
คอมเม้นถัดมา: "การแสดงพลุในไทยดูสวยงาม แต่กัมพูชาก็มีเสน่ห์ในแบบของตัวเอง"
คอมเม้นถัดมา: "งานแบบนี้ทำให้ฉันอยากเดินทางไปเที่ยวเอเชียเร็วๆ นี้"
คอมเม้นถัดมา: "เป็นเรื่องยากที่จะเลือกว่าที่ไหนดีกว่า แต่ทั้งสองดูเหลือเชื่อมาก"
คอมเม้นถัดมา: "ฉันไม่เคยรู้เลยว่ากัมพูชาจัดงานได้ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ ต้องลองไปดูสักครั้ง"
คอมเม้นถัดมา: "ประเทศไทยมีชื่อเสียงเรื่องการจัดงานใหญ่ แต่กัมพูชาก็ไม่แพ้กัน"
คอมเม้นถัดมา: "งานเคาท์ดาวน์แบบนี้ควรอยู่ในลิสต์ของทุกคนที่รักการท่องเที่ยว"
คอมเม้นถัดมา: "วัฒนธรรมของทั้งสองประเทศทำให้งานเฉลิมฉลองดูพิเศษขึ้นมาก"
คอมเม้นถัดมา: "ฉันคิดว่าทั้งสองประเทศมีเอกลักษณ์และความงดงามในแบบของตัวเอง"
คอมเม้นถัดมา: "พลุที่ไทยดูเหมือนแสงสีจากสรวงสวรรค์ ส่วนกัมพูชาอบอุ่นแบบท้องถิ่น"
คอมเม้นถัดมา: "งานแบบนี้ทำให้ฉันอยากเก็บกระเป๋าและบินไปเอเชียทันที!"
คอมเม้นถัดมา: "ทั้งสองประเทศน่าทึ่งมาก ฉันอยากไปสัมผัสบรรยากาศด้วยตัวเอง"
การเฉลิมฉลองปีใหม่ไม่เพียงแต่เป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มต้นใหม่ แต่ยังสะท้อนถึงวัฒนธรรมและความสามารถของแต่ละประเทศในการสร้างความสุขให้กับผู้คน งานเคาท์ดาวน์ที่ไทยและกัมพูชาต่างแสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่และเอกลักษณ์เฉพาะตัว แม้จะมีจุดเด่นที่ต่างกัน แต่สิ่งที่เหมือนกันคือความสุขและความประทับใจที่ส่งมอบให้ผู้ร่วมงานทุกคน
รับชมวีดีโอ
“เคาท์ดาวน์แห่งเอเชีย! พลุไทย vs พลุเขมร” ใครสวยกว่ากัน
ฝั่งประเทศไทย งานจัดขึ้นที่กรุงเทพฯ มีการจุดพลุหลากสีที่สาดส่องเต็มท้องฟ้า พร้อมเสียงเพลงและกิจกรรมบันเทิงมากมาย นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติร่วมฉลองกันอย่างคึกคัก
ส่วนฝั่งกัมพูชา งานจัดขึ้นที่พนมเปญ โดดเด่นด้วยการแสดงแสงสีเสียงที่ผสมผสานวัฒนธรรมพื้นเมืองของกัมพูชาเข้ากับการเฉลิมฉลองสากล บรรยากาศเต็มไปด้วยความสนุกสนานและความภาคภูมิใจของชาวกัมพูชา
ทั้งสองประเทศแสดงให้เห็นถึงเอกลักษณ์และความพร้อมในการจัดงานระดับโลกที่สร้างความประทับใจไม่รู้ลืม
โดยมีชาวต่างชาติร่วมเข้ามาคอมเม้นกันอย่างมากมาย
เรามาดูคอมเม้นจากชาวต่างชาติกันค่ะ
"ฉันเคยไปร่วมงานเคาท์ดาวน์ที่ไทยเมื่อสองปีที่แล้ว มันยอดเยี่ยมมาก!"
คอมเม้นถัดมา: "การแสดงพลุในไทยดูสวยงาม แต่กัมพูชาก็มีเสน่ห์ในแบบของตัวเอง"
คอมเม้นถัดมา: "งานแบบนี้ทำให้ฉันอยากเดินทางไปเที่ยวเอเชียเร็วๆ นี้"
คอมเม้นถัดมา: "เป็นเรื่องยากที่จะเลือกว่าที่ไหนดีกว่า แต่ทั้งสองดูเหลือเชื่อมาก"
คอมเม้นถัดมา: "ฉันไม่เคยรู้เลยว่ากัมพูชาจัดงานได้ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ ต้องลองไปดูสักครั้ง"
คอมเม้นถัดมา: "ประเทศไทยมีชื่อเสียงเรื่องการจัดงานใหญ่ แต่กัมพูชาก็ไม่แพ้กัน"
คอมเม้นถัดมา: "งานเคาท์ดาวน์แบบนี้ควรอยู่ในลิสต์ของทุกคนที่รักการท่องเที่ยว"
คอมเม้นถัดมา: "วัฒนธรรมของทั้งสองประเทศทำให้งานเฉลิมฉลองดูพิเศษขึ้นมาก"
คอมเม้นถัดมา: "ฉันคิดว่าทั้งสองประเทศมีเอกลักษณ์และความงดงามในแบบของตัวเอง"
คอมเม้นถัดมา: "พลุที่ไทยดูเหมือนแสงสีจากสรวงสวรรค์ ส่วนกัมพูชาอบอุ่นแบบท้องถิ่น"
คอมเม้นถัดมา: "งานแบบนี้ทำให้ฉันอยากเก็บกระเป๋าและบินไปเอเชียทันที!"
คอมเม้นถัดมา: "ทั้งสองประเทศน่าทึ่งมาก ฉันอยากไปสัมผัสบรรยากาศด้วยตัวเอง"
การเฉลิมฉลองปีใหม่ไม่เพียงแต่เป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มต้นใหม่ แต่ยังสะท้อนถึงวัฒนธรรมและความสามารถของแต่ละประเทศในการสร้างความสุขให้กับผู้คน งานเคาท์ดาวน์ที่ไทยและกัมพูชาต่างแสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่และเอกลักษณ์เฉพาะตัว แม้จะมีจุดเด่นที่ต่างกัน แต่สิ่งที่เหมือนกันคือความสุขและความประทับใจที่ส่งมอบให้ผู้ร่วมงานทุกคน
รับชมวีดีโอ