คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 16
คำตอบ คือ มนุษย์ล่องหนจะต้องตาบอดครับในความเป็นจริง การล่องหน คือ การที่แสงไม่สามารถสะท้อนวัตถุและผิวกลับมาสู่สายตาอีกฝ่ายได้นั่นบ่งบอกหมายถึง คุณสมบัติของแสงวิ่งผ่านทะลุวัตถุไปเลยถึงมองไม่เห็น หรือ โปร่งใส
คุณสมบัติโปร่งใส เช่น แก้วทำไมถึงใสแล้วเห็นด้านหลัง เพราะว่าแสงได้ทะลุไปแล้วสะท้อนวัตถุด้านหลังทะลุผ่านแก้วแล้วเข้าสู่ตาเรา เราถึงมองเห็นสิ่งที่อยู่หลังแก้ว หรือ กระจกใสมากก็เช่นกันเมื่อมันมีความโปร่งใสที่สูงและสะอาดมันแทบจะมองไม่เห็นว่ามีกระจกอยู่จนกว่าจะเอามือไปจับ
ดังนั้น มนุษย์ล่องหนจะต้องมีคุณสมบัติเดียวกันครบทุกส่วนของร่างกาย คือ แสงจะต้องทะลุผ่านตัวเองไปทั้งหมดครับ รวมถึงลูกกระตาของตัวมันเองด้วยมันเลยเกิดสิ่งที่เรียกว่า แสงไม่สามารถกระทบเข้าไปในรูรับแสงของตาตัวเองได้ เพราะตัวเองก็โปร่งใสมันเลยทำให้ตัวเองตาบอดเพราะไม่สามารถคงสภาพของการรับแสง ในเวลาที่ตัวเองโปร่งแสงตอนที่แสงวิ่งผ่านทะลุตัวเองหมดครับ
นี่คือ fact ครับแค่ในหนังเขาทำให้เหมือนว่าการหายตัวคือหายแค่เปลือกนอกมันไม่ใช่เลย การล่องหนคืออวัยวะถ้าล่องหนแค่ผิวหนัง เราจะเห็นชั้นกล้ามเนื้อกระดูกและอวัยวะทั้งหมดภายในที่ไม่ได้โปร่งใสหรือไปดูหนังตอนมนุษย์ล่องหนกำลังโปร่งใสก็ได้จะเริ่มเห็นอวัยวะทีละชิ้นหายไป
รูรับม่านตา หรือ เรติน่า คือ อวัยวะส่วนนึงในดวงตาของร่างกายที่ทำให้คนเรามองเห็นดังนั้นเมื่อแสงวิ่งสะท้อนวัตถุมาหาตาเราแต่ดั้นตาเราก็ต้องให้แสงวิ่งผ่านหมดเราเลยจะมองไม่เห็นแสงที่สะท้อนมาหาเรา เพราะ แสงต้องวิ่งผ่านเรติน่าครับเพราะมันก็โปร่งใสอยู่เราเลยไม่ได้ดักจับแสงเพื่อประมวลผลเป็นภาพได้
ถ้าเรติน่าไม่โปร่งใส เราควรจะเห็นลูกกะตาลอยได้ครับเพราะลูกตาต้องโผล่ตัวออกมาเพื่อให้แสงกระทบกับมันเพื่อการมองเห็นมันเลยจะดูตลกมากเขาเลยต้องใส่ plot hole ลงไปเพื่ออแก้ปัญหา
เหมือน the flash ถ้าวิ่งด้วยความเร็วสูงจริง ร่างกายจะแหลกเพราะแรงลมมันปะทะผิว หรือ ไหม้เพราะในระดับความเร็วแสงทุกส่วนของร่างกายจะกลายเป็น อนุภาคโฟตรอน และ ไม่สามารถคงรูปลักษณ์เดิมกลับได้เขาเรียกว่า เร็วจนโมเลกุลระดับอะตอมเปลี่ยนเป็นแสงโฟตรอน และ เกิดการเสียดสีของอนุภาคจึงเกิดความร้อนสะสมทำให้ไหม้ได้ครับ เพราะโลกในความเป็นจริงไม่มีอะไรที่วิ่งแล้วไม่ชนกับวัตถุอื่นเพราะไม้แต่อนุภาคที่เล็กที่สุดก็ยังวิ่งชนมันตลอดดังนั้น แรงปะทะและเสียดสีระหวางอนุภาคจะเกิดตลอด
ตาบอดเพราะว่าตัวเองเร็วกว่าแสง และ ถ้ามนุษย์จำเป็นต้องใช้แสงสะท้อนมาหาตาตัวเอง แต่ตัวเองดันเร็วกว่าจนแสงพวกนี้วิ่งตามมาสะท้อนลูกตาตัวเองไม่ทัน มันก็จะตาบอดเพราะแสงไม่สามารถตกกระทบลูกตาตัวเองได้เพราะเร็วกว่า แต่ด้วยความที่ตัวเองเร็วกว่าแสงแสงก็จะจับตัวเราไม่ทันเช่นกัน ดังนั้น ในความเร็วที่อยู่สูงกว่าแสงเราก็จะมีสถานะ ล่องหนเพราะความเร็ว
นั่นคือทฤษฎีความเร็วแสงของไอน์สไตน์ครับ
superman ถ้าบินด้วยความเร็วสูงผมเป๊ะต้องเป๊ะ หรือ ร่างกายทุกส่วนแข็งไปหมดจนไร้ความยืดหยุ่นเพราะแรงเพียงน้อยนิดก็ไม่สามารถทำให้ผมงอได้เพราะโมเลกุลของเส้นผมยึดเกาะและแข็งแกร่งเกินไป
คุณสมบัติโปร่งใส เช่น แก้วทำไมถึงใสแล้วเห็นด้านหลัง เพราะว่าแสงได้ทะลุไปแล้วสะท้อนวัตถุด้านหลังทะลุผ่านแก้วแล้วเข้าสู่ตาเรา เราถึงมองเห็นสิ่งที่อยู่หลังแก้ว หรือ กระจกใสมากก็เช่นกันเมื่อมันมีความโปร่งใสที่สูงและสะอาดมันแทบจะมองไม่เห็นว่ามีกระจกอยู่จนกว่าจะเอามือไปจับ
ดังนั้น มนุษย์ล่องหนจะต้องมีคุณสมบัติเดียวกันครบทุกส่วนของร่างกาย คือ แสงจะต้องทะลุผ่านตัวเองไปทั้งหมดครับ รวมถึงลูกกระตาของตัวมันเองด้วยมันเลยเกิดสิ่งที่เรียกว่า แสงไม่สามารถกระทบเข้าไปในรูรับแสงของตาตัวเองได้ เพราะตัวเองก็โปร่งใสมันเลยทำให้ตัวเองตาบอดเพราะไม่สามารถคงสภาพของการรับแสง ในเวลาที่ตัวเองโปร่งแสงตอนที่แสงวิ่งผ่านทะลุตัวเองหมดครับ
นี่คือ fact ครับแค่ในหนังเขาทำให้เหมือนว่าการหายตัวคือหายแค่เปลือกนอกมันไม่ใช่เลย การล่องหนคืออวัยวะถ้าล่องหนแค่ผิวหนัง เราจะเห็นชั้นกล้ามเนื้อกระดูกและอวัยวะทั้งหมดภายในที่ไม่ได้โปร่งใสหรือไปดูหนังตอนมนุษย์ล่องหนกำลังโปร่งใสก็ได้จะเริ่มเห็นอวัยวะทีละชิ้นหายไป
รูรับม่านตา หรือ เรติน่า คือ อวัยวะส่วนนึงในดวงตาของร่างกายที่ทำให้คนเรามองเห็นดังนั้นเมื่อแสงวิ่งสะท้อนวัตถุมาหาตาเราแต่ดั้นตาเราก็ต้องให้แสงวิ่งผ่านหมดเราเลยจะมองไม่เห็นแสงที่สะท้อนมาหาเรา เพราะ แสงต้องวิ่งผ่านเรติน่าครับเพราะมันก็โปร่งใสอยู่เราเลยไม่ได้ดักจับแสงเพื่อประมวลผลเป็นภาพได้
ถ้าเรติน่าไม่โปร่งใส เราควรจะเห็นลูกกะตาลอยได้ครับเพราะลูกตาต้องโผล่ตัวออกมาเพื่อให้แสงกระทบกับมันเพื่อการมองเห็นมันเลยจะดูตลกมากเขาเลยต้องใส่ plot hole ลงไปเพื่ออแก้ปัญหา
เหมือน the flash ถ้าวิ่งด้วยความเร็วสูงจริง ร่างกายจะแหลกเพราะแรงลมมันปะทะผิว หรือ ไหม้เพราะในระดับความเร็วแสงทุกส่วนของร่างกายจะกลายเป็น อนุภาคโฟตรอน และ ไม่สามารถคงรูปลักษณ์เดิมกลับได้เขาเรียกว่า เร็วจนโมเลกุลระดับอะตอมเปลี่ยนเป็นแสงโฟตรอน และ เกิดการเสียดสีของอนุภาคจึงเกิดความร้อนสะสมทำให้ไหม้ได้ครับ เพราะโลกในความเป็นจริงไม่มีอะไรที่วิ่งแล้วไม่ชนกับวัตถุอื่นเพราะไม้แต่อนุภาคที่เล็กที่สุดก็ยังวิ่งชนมันตลอดดังนั้น แรงปะทะและเสียดสีระหวางอนุภาคจะเกิดตลอด
ตาบอดเพราะว่าตัวเองเร็วกว่าแสง และ ถ้ามนุษย์จำเป็นต้องใช้แสงสะท้อนมาหาตาตัวเอง แต่ตัวเองดันเร็วกว่าจนแสงพวกนี้วิ่งตามมาสะท้อนลูกตาตัวเองไม่ทัน มันก็จะตาบอดเพราะแสงไม่สามารถตกกระทบลูกตาตัวเองได้เพราะเร็วกว่า แต่ด้วยความที่ตัวเองเร็วกว่าแสงแสงก็จะจับตัวเราไม่ทันเช่นกัน ดังนั้น ในความเร็วที่อยู่สูงกว่าแสงเราก็จะมีสถานะ ล่องหนเพราะความเร็ว
นั่นคือทฤษฎีความเร็วแสงของไอน์สไตน์ครับ
superman ถ้าบินด้วยความเร็วสูงผมเป๊ะต้องเป๊ะ หรือ ร่างกายทุกส่วนแข็งไปหมดจนไร้ความยืดหยุ่นเพราะแรงเพียงน้อยนิดก็ไม่สามารถทำให้ผมงอได้เพราะโมเลกุลของเส้นผมยึดเกาะและแข็งแกร่งเกินไป
แสดงความคิดเห็น
มนุษย์ล่องหนเวลาหลับตาจะมองทะลุหนังตาตัวเองไหมครับ