ขอเริ่มปูความสัมพันธ์ก่อนเลยนะครับ ผมเป็นคู่รักแบบ ชาย-ชาย ผมเป็นเกย์ อายุ 29 ปี ส่วนแฟนผมเป็นชายเเท้ อายุ 23 ปี
... ผมคบกันได้ประมาณครึ่งปี ผมเปนฝ่ายจีบเค้า คุยกันในเฟสบุ๊คมาก่อนที่จะเจอกัน ตอนคุยกันผมรู้อยู๋เเล้วว่าเค้าเป็นชายเเท้ เป็นทรงเออ่ะครับ
แต่ทางเค้าก็คุยกับผมอย่างปกติ จีบกันไปมา ในตอนนั้นผมก็ยังไม่เเน่ใจว่า เค้ามีความรู้ยังไงกับผม
คุยกันได้ประมาณ 2 อาทิตย์ เราก็ได้นัดเจอกันที่ร้านหมูกระทะ วันนั้นฝนตกปรอยๆ ผมจำได้ดี ทั้งเราเเละเขาขับมอไซต์มาเจอกันทั้งคู่ เราเปียกกันเละมากเลยครับ ตอนเจอกันครั้งเเรกผมก็ตกหลุมรักเค้าทันที
... การกระทำของเค้าในช่วงเวลาที่เจอกันน่ารักมาก คนอื่นจะดูเป็นเรื่องปกตินะครับ แต่สำหรับผมมันคือเรื่องเล็กน้อยที่พิเศษมาก เพราะผมไม่เคยมีใครทำให้ผมแบบนี้เลย เช่น ถือของให้ ยกหันเครื่องปรุงให้เราปรุงก่อน หอมแก้มก่อนกลับบ้าน ยิ้มทุกครั้งที่เจอกัน
... ในระยะเวลาที่คบกัน เขายังไม่มีงานทำเป็นหลักแหล่ง จะรับจ็อบเป็นเด็กคอยเก็บเงินบ้านลม ซุ้มยิงปืน ซุ้มระบายสี ซึ่งงานไม่ได้มีทุกวัน เดือนนึงจะมีเเค่ 2-3 วันหรอกครับ ยิ่งหน้าฝน คือไม่มีเลย แล้วผมก็รู้ว่าค่าใช้จ่ายของเขาไม่พอ ผมก็ช่วยซัพพอร์ตเขาบางส่วน ซึ่งผมก็สมัครใจเอง เช่นค่าไฟ ค่าไฟเเนนซ์รถมอไซต์ เน็ตมือถือ ค่าข้าว ในตอนนั้นผมก็เล่าเรื่องเเฟน พาแฟนมาเจอกลุ่มเพื่อนผมบ้างบางครั้ง เพื่อนผมก็มาบอกผมว่า พี่คนนี้น่าจะมาหลอกพี่หรือเปล่า ตอนนั้นผมก็สะอึกเลย ผมไม่คิดในหัวเลยว่าเค้าจะมาหลอกอะไรกัน เพราะตอนที่คบกันเขาก็ดูแลกันแบบแฟนตามปกติ ในความคิดผมคือ เป็นแฟนกันก็ต้องช่วยเหลือกันในยามที่ทุกข์ยาก หรือเปล่านะ?
... หลังจากนั้นผมก็ซัพพอร์ตเขาเรื่อยมาก ทุกๆเดือน ผมก็ไล่ถามเพื่อนทุกคนเลยว่ามันเป็นจริงอย่างที่เพื่อนคนนั้นผมบอกไหม ผมถาม 10 คน ก็ 10 คน บอกแบบนั้น ผมก็โอเค แปลว่ามันน่าจะมีส่วน ผมเลยพูดกับเขาตรงๆว่า เธอมาเกาะ หรือมาหลอกเราไหม เขาก็ให้คำตอบว่าไม่ เขารักผมจริง ๆ ที่เขาต้องขอผมเขาก็ไม่มีจริง ๆ งานก็มีน้อยมาก วันไหนได้งานเขาก็จะไม่ขอผมเลย ผมเลยให้ข้อเสนอเขาไปว่า ฉะนั้นเธอต้องพิสูจน์ว่า เธอไม่ได้เข้ามาคุยเพราะเงิน เธอต้องหางานทำเป็นหลักเเหล่งได้เเล้ว เขารับปากว่าจะทำ
... หลังจากที่ผมบอกเขาก็ไปสมัครงานร้านหมูกระทะ ซึ่งทำได้วันเดียว เเล้วก็ออก บอกว่าทำไม่ไหว งานหนักมาก ผมก็เข้าใจ เเล้วให้หาใหม่ ในช่วงที่หาเขาก็ยังคงรับจ็อบงานเดิมอยู่
... จนมาถึงช่วงเดือนตุลาคม เขาก็พูดกับผมเล่นๆว่า มีคนชวนไปทำงานประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งก็คงเป็นงานเทาๆนะครับ ผมพอเดาออก ผมได้ห้ามเขาไปทันทีว่าไม่ให้ไป งานที่จังหวัดตัวเองก็มีตั้งมากมาย จะไปทำไมไกลบ้าน อันตรายด้วย เขาก็ตอบกลับมา ไม่เห็นจะเป็นไร เพื่อนเขาทำกัน กลับมามีเงินตั้งมาก ซื้อรถ ซื้อบ้านกัน อีกอย่างเขาอยากช่วยลดภาระผม จะได้ไม่ต้องขออีก ตอนนั้นผมบอก ยังไงก็ไม่ให้ไป ถ้าไปก็คือคงต้องเลิกกันไปเลย มันห่างกันเกินไป ไม่รู้จะกลับมาเมื่อไหร่ เขาก็ไม่ได้ตอบไร เราก็จบบทสนทนาเพียงเท่านั้น เพียงคิดว่าเขาน่าจะเข้าใจผม และไม่ทำเช่นนั้น
... หลังจากวันนั้นเราก็ไม่ได้เจอกันอีกเลยครับ เขาอ้างเหตุผลล้านแปด ทั้งพี่ชายไม่ให้มา(พี่ชายเขาโหดมากครับ ไม่อยากให้มีแฟน) ทั้งบอกว่า ถ้ามาเธอก็ต้องเสียตังค์เพิ่มให้ค่าน้ำมันเขาอีก จนวันเกิดผมเขาก็ไม่มาครับ ไม่มีอะไรให้ มีเเค่คำอวยพรผ่านเเชต เเละเขาบอกว่าจะมาผมอีกทีคือวันลอยกระทงเลย
ตอนนั้นผมก็รู้สึกน้อยใจมากๆ มันนานมาก ถ้าถึงวันลอยกระทง ก็เป็นเดือน
... วันนึงผมกดดูสตอรี่เขา ผมเห็นพาสปอร์ตเล่มนึง พร้อมตัวหนังสือเขียนว่า จะไปเเล้วนะ ผมรีบทักไปถามทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น เขาตอบผมของพี่สาว ถ่ายเล่นเฉย ๆ ผมก็ไม่ได้คิดไร เเต่ก็ตะหงิดๆในใจนะครับ ไม่กี่วันต่อมาเขาลงสตอรี่ กำลังนั่งรถไปชายเเดน ผมก็ได้ทักไปถามอีก เขาบอก มาส่งพี่สาว ตอนนั้นผมก็ไม่คิดไร คือไม่คิดไรจริงๆ ไม่คิดว่าเขาจะโกหกเราเลย เพราะเขาไม่เคยโกหกผมเลย
... ผ่านไปสัปดาห์ เขาบอกผมว่าได้งานเเล้วนะ เป็นโรงงานขนม ผมดีใจสุดหัวใจ ที่เขาได้งานทำ มีเงินใช้เองบ้าง ตอนนั้นดีใจจริงๆ ที่ผมส่งเขา เเนะนำเขาให้ไปในทิศทางที่ดีขึ้นได้ ในระยะเวลานั้นผมยังให้เงินเขาอยู่นะครับ เขาบอกเงินออกสิ้นเดือน แล้วพอถึงวันลอยกระทงที่เรานัดกันไว้ เขาไม่มาครับ เขาบอกว่าไม่อยากลา เพราะมันได้เบี้ยขยัน ผมก็บอกว่ามาหลังเลิกงานก็ได้เขาบอกเหนื่อย ผมก็เข้าใจ ได้เเต่ไปสังสรรค์กับเพื่อน เเต่เขาทิ้งท้ายผมไว้ว่า วันที่ 2 ธันวาคม เขาจะขนของมาอยู่ด้วยเลย เขาลาเเละขอพี่ชายเเล้ว ผมรู้สึกดีใจมาก ที่เราจะได้เจอ เเละได้อยู่ด้วยกันสักที
... พอถึงวันที่ 2 นัดกันไว้หลังเลิกงานจะขนเสื้อผ้ามา ก่อนหน้านัดผมก็จัดห้อง ทำความสะอาดรอแบ่งส่วนที่เขาต้องใช้ผมต้องใช้ คุยกันปกติจนถึง 4 โมงเย็ฯข้อความสุดท้าย หลังจากนั้นผมติดต่อเขาไม่ได้ ทักไปไม่ตอบไม่ออน ผมก็คิดว่างานเขาคงยุ่งมาก จนเลยสามทุ่ม สี่ทุ่มไป จนผมเผลอหลับ ตื่นมาคือเที่ยงคืน เขาก็ยังไม่ติดต่ออะไรกลับมา และผมได้โทรเบอร์ไปหาเขา มีคนรับเป็นผช ผมฝั่งไม่ถนัดไม่เเน่ใจว่าเสียงใคร เหมือนคุยในห้องน้ำ ผมขอสายแฟนผม ชื่ออั๋น เขาบอกกำลังพูดอยู๋ ผมก็เลยบอกไปว่าทำไมทักไปไม่ตอบ สักพักเขาวางไป และติดต่อไม่ได้อีกเลย วันที่ 3 ก็ติดต่อไม่ได้ ผมฟุ้งซ่านมาก คิดว่าเกิดอะไรไม่ดีกับเขาหรือเปล่า หรือว่าพี่ไม่ให้มา หรือทำมือถือหายคนอื่นรับสาย ปรึกษาเพื่อน ให้เพื่อนโทรให้ก็โทรไม่ติด
... ผมเลยวานน้องเเถวบ้านแฟนให้ช่วยไปดูให้ เพราะผมไม่เคยไปบ้านเขาเลย น้องบอกว่า พี่ผมไม่เห็นแฟนพี่มานานเเล้วนะ เห็นเเต่รถกับพี่ชายเขาที่ใช้รถ
ผมก็เลยงง สับสนไปหมด เเล้วเขาไปอยู๋ไหนตั้งนาน ในระยะเวลาที่ทำงาน หรือไปอยู๋บ้านเพื่อน เก็บความสงสัยไว้
... จนล่วงเลยมาวันที่ 4 ผมโทรหาเขา ติด เเต่ไม่รับสาย ทักไลน์ไป เขาตอบมาว่า พี่ชายไม่ให้มา ผมเลยบอกว่า เราต้องคุยกัน มีไรมันต้องบอกกันสิ
เขาได้ตอบกลับมาว่า เขาอยู่ประเทศอื่น ผมสตั้นเลย ทุกอย่างเรื่อเก่าๆที่เค้าลงสตอรี่เข้ามาในฟัวผมทันที มันคือการโกหกครั้งใหญ่ที่สุดที่ผมเคยเจอ
ผมเน้นให้เขาว่า ต้องโ?รคุยกัน เดี๋ยวนี้ สักพักเราได้คุยกัน เขาก็พูดว่า เค้ามาเป็นเดือนเเล้ว ที่เขาไม่บอกเพราะไม่อยากให้คิดว่า เพราะรู้อยู๋เเล้วว่าเธอต้องไม่ให้มา ผมเลยตอบกลับไปว่า เเต่เธอโกหกทุกอย่างนะ ผมร้องไห้ฟูมฟาย โกหกตั้งเเต่ได้ที่ทำงานโณงงานขนม โกหกว่ามาไม่ได้ โกหกว่าจะย้ายมาอยู๋ด้วย คือให้ความหวังไปหมด เราก็ให้ใจ เชื่อใจทุกอย่าง เค้าบอกว่า เขาทำทุกอย่างก็เพื่อเงิน เขาอยากมีเงิน
... เขาบอกผมว่าจะกลับมาอีกทีคือ ปลายๆเดือน ธันวาคม ผมตอบไปว่า ผมขอเลิกผมไม่ไหว มันนานเกินไป ถ้ารักกันจริง เธอต้องกลับมาให้ไวที่สุด มาคุยกัน
เขาบอกกลับไม่ได้ ยังไม่ได้เงินเลย วันนั้นผมบอกเลิกเขาไป เเละเราก็จบบทสนทนากันตั้งเเต่วันนั้น
ขอคำเเนะนำจากเพื่อนๆทุกคนนะครับ
1) นี่คือการหลอกเงิน หลอกให้เรารักหรือเปล่า
2) ผมควรรอเขากลับมาไหม
**ขออภัยหากตรงไหนเล่าไม่เข้าใจนะครับ
ขอคำแนะนำ .. แฟนไปทำงานต่างประเทศ โดยที่ไม่ได้บอกเราก่อน
... ผมคบกันได้ประมาณครึ่งปี ผมเปนฝ่ายจีบเค้า คุยกันในเฟสบุ๊คมาก่อนที่จะเจอกัน ตอนคุยกันผมรู้อยู๋เเล้วว่าเค้าเป็นชายเเท้ เป็นทรงเออ่ะครับ
แต่ทางเค้าก็คุยกับผมอย่างปกติ จีบกันไปมา ในตอนนั้นผมก็ยังไม่เเน่ใจว่า เค้ามีความรู้ยังไงกับผม
คุยกันได้ประมาณ 2 อาทิตย์ เราก็ได้นัดเจอกันที่ร้านหมูกระทะ วันนั้นฝนตกปรอยๆ ผมจำได้ดี ทั้งเราเเละเขาขับมอไซต์มาเจอกันทั้งคู่ เราเปียกกันเละมากเลยครับ ตอนเจอกันครั้งเเรกผมก็ตกหลุมรักเค้าทันที
... การกระทำของเค้าในช่วงเวลาที่เจอกันน่ารักมาก คนอื่นจะดูเป็นเรื่องปกตินะครับ แต่สำหรับผมมันคือเรื่องเล็กน้อยที่พิเศษมาก เพราะผมไม่เคยมีใครทำให้ผมแบบนี้เลย เช่น ถือของให้ ยกหันเครื่องปรุงให้เราปรุงก่อน หอมแก้มก่อนกลับบ้าน ยิ้มทุกครั้งที่เจอกัน
... ในระยะเวลาที่คบกัน เขายังไม่มีงานทำเป็นหลักแหล่ง จะรับจ็อบเป็นเด็กคอยเก็บเงินบ้านลม ซุ้มยิงปืน ซุ้มระบายสี ซึ่งงานไม่ได้มีทุกวัน เดือนนึงจะมีเเค่ 2-3 วันหรอกครับ ยิ่งหน้าฝน คือไม่มีเลย แล้วผมก็รู้ว่าค่าใช้จ่ายของเขาไม่พอ ผมก็ช่วยซัพพอร์ตเขาบางส่วน ซึ่งผมก็สมัครใจเอง เช่นค่าไฟ ค่าไฟเเนนซ์รถมอไซต์ เน็ตมือถือ ค่าข้าว ในตอนนั้นผมก็เล่าเรื่องเเฟน พาแฟนมาเจอกลุ่มเพื่อนผมบ้างบางครั้ง เพื่อนผมก็มาบอกผมว่า พี่คนนี้น่าจะมาหลอกพี่หรือเปล่า ตอนนั้นผมก็สะอึกเลย ผมไม่คิดในหัวเลยว่าเค้าจะมาหลอกอะไรกัน เพราะตอนที่คบกันเขาก็ดูแลกันแบบแฟนตามปกติ ในความคิดผมคือ เป็นแฟนกันก็ต้องช่วยเหลือกันในยามที่ทุกข์ยาก หรือเปล่านะ?
... หลังจากนั้นผมก็ซัพพอร์ตเขาเรื่อยมาก ทุกๆเดือน ผมก็ไล่ถามเพื่อนทุกคนเลยว่ามันเป็นจริงอย่างที่เพื่อนคนนั้นผมบอกไหม ผมถาม 10 คน ก็ 10 คน บอกแบบนั้น ผมก็โอเค แปลว่ามันน่าจะมีส่วน ผมเลยพูดกับเขาตรงๆว่า เธอมาเกาะ หรือมาหลอกเราไหม เขาก็ให้คำตอบว่าไม่ เขารักผมจริง ๆ ที่เขาต้องขอผมเขาก็ไม่มีจริง ๆ งานก็มีน้อยมาก วันไหนได้งานเขาก็จะไม่ขอผมเลย ผมเลยให้ข้อเสนอเขาไปว่า ฉะนั้นเธอต้องพิสูจน์ว่า เธอไม่ได้เข้ามาคุยเพราะเงิน เธอต้องหางานทำเป็นหลักเเหล่งได้เเล้ว เขารับปากว่าจะทำ
... หลังจากที่ผมบอกเขาก็ไปสมัครงานร้านหมูกระทะ ซึ่งทำได้วันเดียว เเล้วก็ออก บอกว่าทำไม่ไหว งานหนักมาก ผมก็เข้าใจ เเล้วให้หาใหม่ ในช่วงที่หาเขาก็ยังคงรับจ็อบงานเดิมอยู่
... จนมาถึงช่วงเดือนตุลาคม เขาก็พูดกับผมเล่นๆว่า มีคนชวนไปทำงานประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งก็คงเป็นงานเทาๆนะครับ ผมพอเดาออก ผมได้ห้ามเขาไปทันทีว่าไม่ให้ไป งานที่จังหวัดตัวเองก็มีตั้งมากมาย จะไปทำไมไกลบ้าน อันตรายด้วย เขาก็ตอบกลับมา ไม่เห็นจะเป็นไร เพื่อนเขาทำกัน กลับมามีเงินตั้งมาก ซื้อรถ ซื้อบ้านกัน อีกอย่างเขาอยากช่วยลดภาระผม จะได้ไม่ต้องขออีก ตอนนั้นผมบอก ยังไงก็ไม่ให้ไป ถ้าไปก็คือคงต้องเลิกกันไปเลย มันห่างกันเกินไป ไม่รู้จะกลับมาเมื่อไหร่ เขาก็ไม่ได้ตอบไร เราก็จบบทสนทนาเพียงเท่านั้น เพียงคิดว่าเขาน่าจะเข้าใจผม และไม่ทำเช่นนั้น
... หลังจากวันนั้นเราก็ไม่ได้เจอกันอีกเลยครับ เขาอ้างเหตุผลล้านแปด ทั้งพี่ชายไม่ให้มา(พี่ชายเขาโหดมากครับ ไม่อยากให้มีแฟน) ทั้งบอกว่า ถ้ามาเธอก็ต้องเสียตังค์เพิ่มให้ค่าน้ำมันเขาอีก จนวันเกิดผมเขาก็ไม่มาครับ ไม่มีอะไรให้ มีเเค่คำอวยพรผ่านเเชต เเละเขาบอกว่าจะมาผมอีกทีคือวันลอยกระทงเลย
ตอนนั้นผมก็รู้สึกน้อยใจมากๆ มันนานมาก ถ้าถึงวันลอยกระทง ก็เป็นเดือน
... วันนึงผมกดดูสตอรี่เขา ผมเห็นพาสปอร์ตเล่มนึง พร้อมตัวหนังสือเขียนว่า จะไปเเล้วนะ ผมรีบทักไปถามทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น เขาตอบผมของพี่สาว ถ่ายเล่นเฉย ๆ ผมก็ไม่ได้คิดไร เเต่ก็ตะหงิดๆในใจนะครับ ไม่กี่วันต่อมาเขาลงสตอรี่ กำลังนั่งรถไปชายเเดน ผมก็ได้ทักไปถามอีก เขาบอก มาส่งพี่สาว ตอนนั้นผมก็ไม่คิดไร คือไม่คิดไรจริงๆ ไม่คิดว่าเขาจะโกหกเราเลย เพราะเขาไม่เคยโกหกผมเลย
... ผ่านไปสัปดาห์ เขาบอกผมว่าได้งานเเล้วนะ เป็นโรงงานขนม ผมดีใจสุดหัวใจ ที่เขาได้งานทำ มีเงินใช้เองบ้าง ตอนนั้นดีใจจริงๆ ที่ผมส่งเขา เเนะนำเขาให้ไปในทิศทางที่ดีขึ้นได้ ในระยะเวลานั้นผมยังให้เงินเขาอยู่นะครับ เขาบอกเงินออกสิ้นเดือน แล้วพอถึงวันลอยกระทงที่เรานัดกันไว้ เขาไม่มาครับ เขาบอกว่าไม่อยากลา เพราะมันได้เบี้ยขยัน ผมก็บอกว่ามาหลังเลิกงานก็ได้เขาบอกเหนื่อย ผมก็เข้าใจ ได้เเต่ไปสังสรรค์กับเพื่อน เเต่เขาทิ้งท้ายผมไว้ว่า วันที่ 2 ธันวาคม เขาจะขนของมาอยู่ด้วยเลย เขาลาเเละขอพี่ชายเเล้ว ผมรู้สึกดีใจมาก ที่เราจะได้เจอ เเละได้อยู่ด้วยกันสักที
... พอถึงวันที่ 2 นัดกันไว้หลังเลิกงานจะขนเสื้อผ้ามา ก่อนหน้านัดผมก็จัดห้อง ทำความสะอาดรอแบ่งส่วนที่เขาต้องใช้ผมต้องใช้ คุยกันปกติจนถึง 4 โมงเย็ฯข้อความสุดท้าย หลังจากนั้นผมติดต่อเขาไม่ได้ ทักไปไม่ตอบไม่ออน ผมก็คิดว่างานเขาคงยุ่งมาก จนเลยสามทุ่ม สี่ทุ่มไป จนผมเผลอหลับ ตื่นมาคือเที่ยงคืน เขาก็ยังไม่ติดต่ออะไรกลับมา และผมได้โทรเบอร์ไปหาเขา มีคนรับเป็นผช ผมฝั่งไม่ถนัดไม่เเน่ใจว่าเสียงใคร เหมือนคุยในห้องน้ำ ผมขอสายแฟนผม ชื่ออั๋น เขาบอกกำลังพูดอยู๋ ผมก็เลยบอกไปว่าทำไมทักไปไม่ตอบ สักพักเขาวางไป และติดต่อไม่ได้อีกเลย วันที่ 3 ก็ติดต่อไม่ได้ ผมฟุ้งซ่านมาก คิดว่าเกิดอะไรไม่ดีกับเขาหรือเปล่า หรือว่าพี่ไม่ให้มา หรือทำมือถือหายคนอื่นรับสาย ปรึกษาเพื่อน ให้เพื่อนโทรให้ก็โทรไม่ติด
... ผมเลยวานน้องเเถวบ้านแฟนให้ช่วยไปดูให้ เพราะผมไม่เคยไปบ้านเขาเลย น้องบอกว่า พี่ผมไม่เห็นแฟนพี่มานานเเล้วนะ เห็นเเต่รถกับพี่ชายเขาที่ใช้รถ
ผมก็เลยงง สับสนไปหมด เเล้วเขาไปอยู๋ไหนตั้งนาน ในระยะเวลาที่ทำงาน หรือไปอยู๋บ้านเพื่อน เก็บความสงสัยไว้
... จนล่วงเลยมาวันที่ 4 ผมโทรหาเขา ติด เเต่ไม่รับสาย ทักไลน์ไป เขาตอบมาว่า พี่ชายไม่ให้มา ผมเลยบอกว่า เราต้องคุยกัน มีไรมันต้องบอกกันสิ
เขาได้ตอบกลับมาว่า เขาอยู่ประเทศอื่น ผมสตั้นเลย ทุกอย่างเรื่อเก่าๆที่เค้าลงสตอรี่เข้ามาในฟัวผมทันที มันคือการโกหกครั้งใหญ่ที่สุดที่ผมเคยเจอ
ผมเน้นให้เขาว่า ต้องโ?รคุยกัน เดี๋ยวนี้ สักพักเราได้คุยกัน เขาก็พูดว่า เค้ามาเป็นเดือนเเล้ว ที่เขาไม่บอกเพราะไม่อยากให้คิดว่า เพราะรู้อยู๋เเล้วว่าเธอต้องไม่ให้มา ผมเลยตอบกลับไปว่า เเต่เธอโกหกทุกอย่างนะ ผมร้องไห้ฟูมฟาย โกหกตั้งเเต่ได้ที่ทำงานโณงงานขนม โกหกว่ามาไม่ได้ โกหกว่าจะย้ายมาอยู๋ด้วย คือให้ความหวังไปหมด เราก็ให้ใจ เชื่อใจทุกอย่าง เค้าบอกว่า เขาทำทุกอย่างก็เพื่อเงิน เขาอยากมีเงิน
... เขาบอกผมว่าจะกลับมาอีกทีคือ ปลายๆเดือน ธันวาคม ผมตอบไปว่า ผมขอเลิกผมไม่ไหว มันนานเกินไป ถ้ารักกันจริง เธอต้องกลับมาให้ไวที่สุด มาคุยกัน
เขาบอกกลับไม่ได้ ยังไม่ได้เงินเลย วันนั้นผมบอกเลิกเขาไป เเละเราก็จบบทสนทนากันตั้งเเต่วันนั้น
ขอคำเเนะนำจากเพื่อนๆทุกคนนะครับ
1) นี่คือการหลอกเงิน หลอกให้เรารักหรือเปล่า
2) ผมควรรอเขากลับมาไหม
**ขออภัยหากตรงไหนเล่าไม่เข้าใจนะครับ