๙ แล้ว ๖ ๖ แล้ว ๙ ลูกอาม้า หลานอาม่า ที่ไม่เหมือนในหนัง ....😁😁


อมยิ้ม01อมยิ้ม01อมยิ้ม01

ตอนมีชีวิตอยู่ แม่ชอบพุดสำเนียงแต้จิ๋ว ประโยคนี้บ่อยๆ


ส่วนหลวงพ่อ(พระครูปลัดสามารถ เขมวังโส) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดตรีทศเทพ)

ที่มาสวดงานศพแม่ เมื่อ สองอาทิตย์ก่อน ก็ได้เทศน์ว่า





ซึ่งลูกๆหลานๆ ก็ได้ปฏิบัตไปตามนั้น  คืออย่ารอทำอะไรที่หรูเลิศ  หลังจากได้ตายไปแล้ว


แม่จากไปอย่างสงบ  ตามคำสั่งเสียที่เคยให้ไว้ก่อนป่วยติดเตียงว่า


ไม่ต้องการเสียชีวิตที่โรงพยาบาล และไม่ให้ใส่สายต่าง ๆเพื่อยี้อสังขารไปวันๆ แบบไม่มีคุณภาพชีวิต


หลังจากแม่นอนไม่สามารถพูดได้ แต่ยังส่งสัญญาณผ่านการขยับนิ้วมือได้

น้องสาวจะผลัดกันให้น้ำเปล่าผ่านการหยอดเข้าปาก อยู่สิบวัน

แม่ก็เสียชีวิต โดยไม่ต้องรับรู้ หรือเจ็บปวดร่างกายจากการเป็นมะเร็งเต้านม  (เริ่มพบมะเร็งในวัย 96 ปี) เศร้า

หมอได้วินิจฉัยไว้เมื่อสองปีก่อน จากการตรวจชิ้นเนื้อ

ลูกทุกคนลงความเห็นว่า ไม่ต้องให้แม่รับรู้เรื่องมะเร็งให้จิตตกมากขึ้น
ก็ได้ทำการรักษา ด้วยการพาไปหาหมอกินยาฮอร์โมนยับยั้งเซลมะเร็ง
โดยไม่ได้บอกแม่ว่า เป็นยาอะไร  ตามเวลาที่หมอนัดหมาย

โชคดีของแม่ ที่ไม่มีอาการปวดจากมะเร็ง นอกจากมีเลือดซึมออกจากเต้านม

ในวาระสุดท้ายของชีวิต (ในวันเสาร์ที่ 2 พฤศจิกายน) หลังจากน้องสาว ซึ่งเคยเป็นพยาบาล จับสัญญาณชีพต่างๆไม่ได้แล้ว
ก็ให้น้องสาวอีกคนไปเดินเรื่อง ขอใบมรณะบัตรจาก อบต. ปลายบาง นนทบุรี


เพิ่งได้ความรู้ว่า คนเสียชีวิตที่บ้านแบบเป็นผู้ป่วยติดเตียง  ไม่ต้องให้แพทย์มาชันสูตรรับรองการเสียชีวิต

ถ้าไม่มีญาติสนิทคนไหน ติดใจการเสียชีวิต



เนื่องจากน้องสาวได้จัดการซื้อแพ็คเก็จจัดงานศพ (ราคา สองแสนเจ็ดหมื่นบาท)
จากสุริยาหีบศพ  สาขาพรานนกไว้ล่วงหน้า

เป็นแพ็คเก็จที่รับผิดชอบให้ตั้งแต่ มาฉีดฟอร์มาลีนให้ที่บ้าน จนถึงลอยอังคารที่โรงเรียนนายเรือ สมุทรปราการ

พนักงานของสุริยาฯ  หลังจากได้เห็นใบมรณะบัตรและฉีดฟอร์มาลีนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ก็เคลื่อนย้ายศพจากเตียง  มาทำพิธีสวดที่วัดตรีทศเทพ
ซึ่งทางสุริยาฯ ได้แนะนำวัดให้ แล้วเจ้าภาพค่อยโทรไปจองศาลากับทางวัด 
โดยเจ้าภาพออกค่าใช้จ่าย ทำพิธีสวดและเผากับทางวัดอีกประมาณ 1.4 แสนบาท (รวมค่าอาหารกล่องสำหรับผู้ร่วมงานฯ)


ในงานศพของแม่  ลูกหลานไม่ต้องแต่งไว้ทุกข์

เพราะนับตามธรรมเนียมจีนแล้ว อายุเกินหนึ่งร้อยปี

แม้แต่พิธีกงเต็ก  ลูกหลานก็ใส่เสื้อสีสวยสด  ไม่ต้องสวมผ้าป่านกระสอบทับเสื้อไว้ทุกข์ 



ภาพข้างใต้ มีลูกเขยชาวญี่ปุ่นและหลานชาย บินจากญี่ปุ่นมาร่วมพิธีด้วย (เป็นหมอทั้งคู่)



มีเรื่องที่ประทับใจมากจากหลานหวั่วม่า

จากภาพข้างบน  หลานหวั่วม่า(หลานยาย) แถวหน้าคนที่สามจากซ้ายมือ

ได้บินจากอเมริกา  มาเยี่ยมหวั่วม่า ก่อนเสียชีวิต และบินกลับไปก่อนยายเสียชีวิตสองวัน

หลานสาวคนเก่ง ซึ่งสามารถสร้างทรัพย์สินร่วมกับสามีชาวไทย 
ด้วยการเปิดร้านอาหารชื่อ thai dee ที่เมืองเมเรียน รัฐอิลินอยส์ จนมีเงินเก็บ สามล้านดอลล่าร์ (ทำร้านอยู่ 15 ปี)

จากการขายอาหารตามสั่ง ที่ขายดีที่สุดคือผัดไทย

และจากการซื้อหุ้นของอเมริกา  ตัวที่ได้กำไรดีที่สุดสามเท่ากว่าคือ nvidia 

พอทราบข่าวว่า  หงั่วม่าเสียชีวิตแล้ว

ก็ยอมซื้อตั๋วเครื่องบิน บินกลับมาไทยอีกรอบ  (ใช้เวลาเดินทางรวม 30 ชั่วโมง)

แต่มาทัน แค่ได้ร่วมพฺิธีกงเต็กในวันที่สี่ของงานฯ  เยี่ยมเยี่ยม

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

พิธีศพของแม่ ได้ทำสำเร็จลุล่างไปตามเป้าหมายที่น้องสาวได้วางไว้ล่วงหน้า

ในงาน ไม่มีพวงหรีดไว้อาลัย  เพราะน้องสาวได้ระบุไว้ในบัตรเชิญผ่านทางออนไลน์ว่า งดรับพวงหรีด

ขอรับเป็นเงินช่วยงาน เพื่อนำไปให้มูลนิธีปอเต๊กติ้ง   โดยไม่มีการหักค่าใช้จ่ายในการจัดงานศพ

เมื่อรวมกับเงินเก็บของแม่บางส่วน จำนวนห้าแสนบาท
ก็จะได้เงินบริจาคให้ปอเตีกติ้ง จำนวน 7 แสนบาท ตามที่แม่ต้องการ  อมยิ้ม01

(เพิ่มจากจำนวนเงินเดิมที่ได้คิดไว้ อีกสองแสนบาทฆ)



+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

มาว่าถึงหัวข้อกระทู้ที่ตั้งไว้

ครอบครัวผม  ไม่มีใคร "หว่านฟืชเพื่อหวังผล "  เหมือนอาม่าในหนังถาม จนหลานชายอึ้งไม่ค่อยกล้าตอบ


ประมาณเมื่อเกือบยี่สิบห้าปีก่อน  พ่อทำธุรกรรมทางการเงินไม่ค่อยได้แล้ว (เริ่มเซนต์ชื่อไม่ได้)

น้องๆ กับพี่สาว ก็ยินยอมให้โอนเงินฝากทั้งหมดของพ่อ ประมาณ 13 ล้านบาท ให้ผมเป็นคนดูแล

ดูแลไปได้สิบกว่าปี  ก็รู้สึกว่าไม่สะดวก เพราะ จะเบิกเงินที ก็ต้องเข้าธนาคารที กดเอทีเอ็มที

ก็เลยจัดการโอนเงินเก็บของพ่อ ที่เหลือจากการใช้จ่ายในการดูแลและซื้อบ้านใหม่ของพ่อแม่

เหลือในบัญชีประมาณเก้าล้านกว่าบาท กลับไปให้น้องสาวดูแลแทน



ในหนัง  ลูกสาวบ่นให้แม่ฟังว่า

"อั้วรู้ ลูกชายได้สมบัติ  ลูกสาวได้มะเร็ง"  อมยิ้ม06





ส่วนในชีวิตจริงของครอบครัวผม  ไม่มีลูกคนไหน หว่านพืชหวังผล

เป็นไปตามที่ภรรยาผมได้สนับสนุน ให้คืนเงินฝากทั้งหมดของพ่อ

ด้วยคำพูด ที่ผมประทับใจมาก  เธอบอกว่า

"ใครเป็นคนดูแลพ่อแม่   ก็ให้เงินคนนั้นไป"   lovelovelove


+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++










รถไฟฟ้า ที่ทางสุริยาจัดพาไปลอยอังคาร ที่โรงเรียนนายเรือ สมุทรปราการ







สรุปพิธีงานศพได้เสร็จสิ้นอย่างสมบูรณ์

ด้วยการที่น้องสาวได้ถอนปิดบัญชีธนาคารของแม่ จำนวน 5 แสนบาท
สมทบกับเงินที่คนช่วยงานศพอีก 2 แสนบาท

ได้นำไปบริจาคให้ทางปอเต๊กตึ้งเรียบร้อยแล้ว  เมื่อตอนบ่ายวันอังคารที่ 19 พฤศจิกายน 2567 

บริจาคให้เป็นแคชเชียร์เช็ค  จำนวนเงินเจ็ดแสนบาทถ้วน   อมยิ้ม01


แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่