ต่อจากคราวที่แล้ว เรื่องมันก็มาถึงจุดจบ (ที่ไม่ค่อยดี แบบแย่มากๆ)
พอพี่พนักงานเขาไม่คิดจะไปต่อเมื่อเจ้าของร้านจะเซ้งร้านพร้อมเจ้าของใหม่ เจ้าของร้านก็จะให้เคลียร์เรื่องหนี้ให้จบก่อนที่พี่เขาจะออกจากงาน ซึ่งพี่เขาก็ตกลงออกสิ้นเดือน และพี่เขาก็มาทำต่อจนสิ้นเดือนตามที่พูดไว้ หนี้ที่ค้างพอหักลบกับเงินเดือน ก็เหลือยอดส่วนต่างอีก 5,000 บาทนิดๆ ซึ่งช่วงบ่ายของวันสิ้นเดือนเจ้าของร้านก็เข้ามาตกลงกับพี่พนักงานว่าจะเอายังไงกับหนี้ส่วนต่าง ซึ่งพี่พนักงานก็บอกจะเคลียร์ทุกอย่างก่อน 1 ทุ่ม คือก่อนปิดร้าน โดยหากที่เขาไม่เคลียร์ในเวลาที่กำหนดก็จะต้องเซ็นสัญญากู้ยืม พร้อมวางสำเนาบัตรประชาชนของพี่เขาไว้ แต่พอประมาณ หกโมง เจ้าของร้านก็ส่งข้อความมาหา จขกท ว่าให้ไปเอาบัตรประชาชนของพี่เขามาถ่ายสำเนาเลย (บอกก่อนว่า พี่เขาเคยเอาสำเนามาให้ อยู่ในแฟ้มเอกสารที่ จขกท เอาไปให้เจ้าของร้านทั้งหมดแล้ว แต่ด้วยพี่เขาทำงานมานาน อีกอย่างมีช่วงเวลาที่ จขกท ไม่อยู่ร้าน ไปติดต่อกับช่างบ้าง งานอื่นๆที่เจ้าของร้านสั่งบ้าง ก็เลยไม่แน่ใจว่าระหว่างนั้นพี่พนักงานเอาสำเนาของตัวเองไปหรือเปล่า) ซึ่งเราก็ไปขอ แต่พี่เขาไม่ให้ บอกสัญญาจะโอนเงินคืนก่อนหนึ่งทุ่ม เขาจะไม่ให้ข้อมูลอะไรทั้งนั้นก่อนจะทุ่มหนึ่ง เจ้าของร้านก็มากดดัน จขกท เลยว่า ถ้าพี่เขาไม่ยอมเซ็นสัญญาแล้วก็ไม่ให้บัตรประชาชนมาถ่ายสำเนา จขกท จะรับผิดชอบไหมถ้าเขาออกจากร้านโดยไม่เซ็นสัญญา พูดตรงๆคือ จะให้เรารับผิดชอบที่ไปขอบัตรเขามาถ่ายสำเนาไม่ได้ ก็เลยตอบไปเลยว่า "ไม่ค่ะ ไม่ใช่เรื่องที่ จขกท จะต้องรับผิดชอบ" แกก็ยิ่งไม่พอใจ บอกทำงานไม่ได้เรื่อง
สรุปเรื่องนี้ กลายเป็นคนกลางอย่างเราที่ผิด มาเค้นเอาอะไรจากคนกลางที่ทำหน้าที่ส่งสารให้ทั้งสองคน แล้วก็เหมือนถังขยะที่เอาไว้ทิ้งอารมณ์ที่ไปลงกับอีกฝ่ายไม่ได้ สุดท้าย จขกท ก็ไม่ทน ขอออกเหมือนกัน
เอาเป็นว่า เรื่องนี้ ปัญหาคือพวกเขาสองคนไม่ยอมเคลียร์กันให้รู้เรื่อง ให้คนกลางส่งสาร พอไม่ได้ดั่งใจก็ลงที่คนกลางนี่แหละ ที่บอกว่าไร้สาระมากคือ เจ้าของร้านบอก จขกท ทำหน้าที่แอดมินไม่ดี เพราะแค่ไปขอสำเนาบัตรประชาชนของพี่เขามาก็ทำไม่ได้ เราเป็นแอดมิน ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ทวงหนี้ บัตรประชาชนคือข้อมูลส่วนบุคคล เขาไม่ให้ เราก็ไม่สามารถไปบังคับเขาได้ เราก็จะผิดเหมือนกันถ้าทำแบบนั้น
สุดท้ายตอนจบของเรื่องนี้คือแย่มากๆ ทุกคนไม่แฮปปี้เลย รวมถึง จขกท เอง
ลืมเล่าอีกเรื่อง สุดท้ายพี่พนักงานก็โอนเงินส่วนต่างทั้งหมดคืนก่อนทุ่มหนึ่งตามสัญญา พี่เขาก็แค่ขอเอาคืนเพราะเจ้าของร้านผิดคำพูดบ่อยๆเรื่องระยะเวลาการคืนหนี้ จากสิ้นปีเป็นเดือนเดียว แล้วก็เป็นอีกวัน แล้วก็เปลี่ยนมาเป็นวันสิ้นเดือน พี่พนักงานเขาเลยแก้เผ็ดก่อนจากลาแล้วก็แยกย้ายกันไป
เป็นที่ระบายอารมณ์ของเจ้าของร้าน แบบไร้สาระมาก!!!!
พอพี่พนักงานเขาไม่คิดจะไปต่อเมื่อเจ้าของร้านจะเซ้งร้านพร้อมเจ้าของใหม่ เจ้าของร้านก็จะให้เคลียร์เรื่องหนี้ให้จบก่อนที่พี่เขาจะออกจากงาน ซึ่งพี่เขาก็ตกลงออกสิ้นเดือน และพี่เขาก็มาทำต่อจนสิ้นเดือนตามที่พูดไว้ หนี้ที่ค้างพอหักลบกับเงินเดือน ก็เหลือยอดส่วนต่างอีก 5,000 บาทนิดๆ ซึ่งช่วงบ่ายของวันสิ้นเดือนเจ้าของร้านก็เข้ามาตกลงกับพี่พนักงานว่าจะเอายังไงกับหนี้ส่วนต่าง ซึ่งพี่พนักงานก็บอกจะเคลียร์ทุกอย่างก่อน 1 ทุ่ม คือก่อนปิดร้าน โดยหากที่เขาไม่เคลียร์ในเวลาที่กำหนดก็จะต้องเซ็นสัญญากู้ยืม พร้อมวางสำเนาบัตรประชาชนของพี่เขาไว้ แต่พอประมาณ หกโมง เจ้าของร้านก็ส่งข้อความมาหา จขกท ว่าให้ไปเอาบัตรประชาชนของพี่เขามาถ่ายสำเนาเลย (บอกก่อนว่า พี่เขาเคยเอาสำเนามาให้ อยู่ในแฟ้มเอกสารที่ จขกท เอาไปให้เจ้าของร้านทั้งหมดแล้ว แต่ด้วยพี่เขาทำงานมานาน อีกอย่างมีช่วงเวลาที่ จขกท ไม่อยู่ร้าน ไปติดต่อกับช่างบ้าง งานอื่นๆที่เจ้าของร้านสั่งบ้าง ก็เลยไม่แน่ใจว่าระหว่างนั้นพี่พนักงานเอาสำเนาของตัวเองไปหรือเปล่า) ซึ่งเราก็ไปขอ แต่พี่เขาไม่ให้ บอกสัญญาจะโอนเงินคืนก่อนหนึ่งทุ่ม เขาจะไม่ให้ข้อมูลอะไรทั้งนั้นก่อนจะทุ่มหนึ่ง เจ้าของร้านก็มากดดัน จขกท เลยว่า ถ้าพี่เขาไม่ยอมเซ็นสัญญาแล้วก็ไม่ให้บัตรประชาชนมาถ่ายสำเนา จขกท จะรับผิดชอบไหมถ้าเขาออกจากร้านโดยไม่เซ็นสัญญา พูดตรงๆคือ จะให้เรารับผิดชอบที่ไปขอบัตรเขามาถ่ายสำเนาไม่ได้ ก็เลยตอบไปเลยว่า "ไม่ค่ะ ไม่ใช่เรื่องที่ จขกท จะต้องรับผิดชอบ" แกก็ยิ่งไม่พอใจ บอกทำงานไม่ได้เรื่อง
สรุปเรื่องนี้ กลายเป็นคนกลางอย่างเราที่ผิด มาเค้นเอาอะไรจากคนกลางที่ทำหน้าที่ส่งสารให้ทั้งสองคน แล้วก็เหมือนถังขยะที่เอาไว้ทิ้งอารมณ์ที่ไปลงกับอีกฝ่ายไม่ได้ สุดท้าย จขกท ก็ไม่ทน ขอออกเหมือนกัน
เอาเป็นว่า เรื่องนี้ ปัญหาคือพวกเขาสองคนไม่ยอมเคลียร์กันให้รู้เรื่อง ให้คนกลางส่งสาร พอไม่ได้ดั่งใจก็ลงที่คนกลางนี่แหละ ที่บอกว่าไร้สาระมากคือ เจ้าของร้านบอก จขกท ทำหน้าที่แอดมินไม่ดี เพราะแค่ไปขอสำเนาบัตรประชาชนของพี่เขามาก็ทำไม่ได้ เราเป็นแอดมิน ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ทวงหนี้ บัตรประชาชนคือข้อมูลส่วนบุคคล เขาไม่ให้ เราก็ไม่สามารถไปบังคับเขาได้ เราก็จะผิดเหมือนกันถ้าทำแบบนั้น
สุดท้ายตอนจบของเรื่องนี้คือแย่มากๆ ทุกคนไม่แฮปปี้เลย รวมถึง จขกท เอง
ลืมเล่าอีกเรื่อง สุดท้ายพี่พนักงานก็โอนเงินส่วนต่างทั้งหมดคืนก่อนทุ่มหนึ่งตามสัญญา พี่เขาก็แค่ขอเอาคืนเพราะเจ้าของร้านผิดคำพูดบ่อยๆเรื่องระยะเวลาการคืนหนี้ จากสิ้นปีเป็นเดือนเดียว แล้วก็เป็นอีกวัน แล้วก็เปลี่ยนมาเป็นวันสิ้นเดือน พี่พนักงานเขาเลยแก้เผ็ดก่อนจากลาแล้วก็แยกย้ายกันไป