หนึ่งในปัญหาหลักที่สมัยนี้ยังแก้ปัญหาไม่ได้และคงจะไม่หายไปตลอดกาลหากยังมีนร.ประเภทนั้นอยู่ซึ่งคุณอาจจะเคยถูกบูลลี่และเคยบูลลี่ผู้อื่นผมขอมาเล่าประสบการณ์ที่โดนบูลลี่ที่รร.และวิธีจัดการพวกเขา(เท่าที่จะไหว)กันครับ
เริ่มจากที่รร.ผมเป็นเด็กม.1ที่เข้ามาใหม่มีเพื่อนใหม่อะไรก็ดีไปหมดแต่หลังจากเริ่มปรับสภาพได้นั่นแหละจะเริ่มเข้าสู่เหวนรก
ผมมีเพื่อนร่วมห้องอยู่คนนึงปกติเขาก็จะชอบบูลลี่ไปทั่วคือแบบหากเราทำตัวแปลกไปหรือทำพฤติกรรมแปลกไปแม้แต่0.5วิคุณก็เตรียมตัวเลยว่าปีนี้คุณอยู่ไม่สุขแน่แต่กลับกันหากตอนนั้นมีครูอยู่หรือใกล้สอบเขาจะพฤติกรรมแบบโครตพ่อพระและมักทำตัวว่าตัวเองเป็นผู้ถูกกระทำถึงตัวเองจะทำเขาก่อนก็ตามและผมก็มักจะตกเป็ยเป้าหมายในการบูลี่ของเขาเสมอตอนแรกก็รับไม่ได้หรอกครับต่อมาก็รับไม่ได้อยู่ดี
ก็เคยคุยกับเขาอยู่แหละแต่มันก็ยังทำอยู่แถมยิ่งหนักกว่าเดิมอีกถามว่าอยากฟ้องครูไหมอยากมากแต่ทำไม่ได้เพราะ
1 ตามที่เคยบอกครับตี 2 หน้า
2 ผมเป็นนร.ทุนกลัวจะหลุดทุนครับ
3 เขาก็เป็นนร.ทุนครับถึงจะเกลียดเขาแค่ไหนเราก็ต้องไม่ให้เกิดปัญหา
4 สรุป กลัวหลุดทุนกับเขาตี 2 หน้า ครับ
ส่วนวิธีจัดการกับบุคคลที่ไม่รักนี้(การไม่สนใจอาจจะไม่ใช่คำตอบเสมอไป)
1 ถ้ากล้าก็ตอบโต้เลยครับอย่าให้เราเป็นผู้ถูกกระทำเพียงคนเดียว
2 ถ้าไม่กล้าก็ทำใจครับแบบที่ผมเป็นอยู่
3 ไม่ค่อยแนะนำนะครับ ไม่ต่อต้านก็เข้าร่วมครับ(คุณต้องแข็งแรงนะครับ)
4 ลองเข้าไปคุยถ้าไม่สำเร็จก็เตรียมใจไว้ครับอีกยาว
5 แต่บูลลี่ก็เป็นคนนะครับถ้าคุณลองหาข้อมูลผ่านข้อมูลโซเชียลมีเดีย(โดยเฉพาะชื่อสมาชิกครอบครับ)
6 ต่อจากข้อ 5 หลักจากทำทุกอย่างเสร็จก็ถึงเวลาเอาคืนครับ ( ไม่สมควร ไม่แนะนำ เน้นสะใจเท่านั้น )
ไม่ใช่ทุกข้อที่จะทำแล้วดีส่วนใหญ่ที่พูดมันก็แค่สิ่งที่คิดของเด็กที่ถูกบูลลี่เท่านั้นแต่การที่คำว่า ใจเขา ใจเรา ก็ดีนะครับแต่คุณก็รู้ครูพูดแบบนี้ทุกปีแหละครับแต่เป็นไงละก็ยังคงมีทุกปีบางครั้งก็หนักถึงการคิดสั้น
สิ่งที่อยากจะสื่อถึงคือการที่เราควรพูดกับเขาตรงๆอย่าอายที่จะตอบโต้ในเมื่อเราไม่ผิดหากคุณมีประสบณ์เกี่ยวกับปัญหาที่รร.ก็สามารถมาแชร์ประสบณ์การเหล่านี้ได้มันไม่ใช่เรื่องหน้าอายแต่มันจะสื่อถึงวิธีจัดการเรื่องเหล่านี้ในชีวิตคุณ
(อาจจะมีการใช้คำพูดที่แปลกๆหรือหยาบคายยังไงก็ขออภัยสำหรับข้อผิดพลาดนะครับ)