ทักทายครับ กระทู้แรกก็เป็นเรื่องแย่ๆเลย แต่ก็อยากเอามาเล่าเป็น case study ให้เพื่อนๆฟัง โดยเฉพาะผู้ชายครับ
ตามหัวข้อเลยครับ ผมเจอคนคนนี้จากแอปหาคู่ เป็นคนที่ดูดีมาก ดูมีฐานะ ใช้ชีวิตร่ำรวย และเขามาจีบเราก่อนด้วย ด้วยความที่เป็นรักแรก เราก็ลองคุยก็ถูกใจ สานสัมพันธ์ต่อ มาช่วงแรกๆก็ ขอเงินเลยครับ ขอทั้งค่าข้าว ค่าน้ำ ค่าเซเว่น ค่าเน็ต ค่าสิ่งของเครื่องใช้ ไอ้เราก็คลั่งรัก ก็เลยให้ไป
พอถึงช่วงที่มาอยู่ด้วยกัน ก็เริ่มปรับความเข้าใจเรื่องเงินว่า เราไม่ได้รวยนะ ตังเธอก็ใช้เยอะมาก บลาๆ... นางเข้าใจนะ และพยายามปรับตัวให้ดีขึ้น แต่นั่นแหละ สันดานคนเป็นไงก็แบบนั้น ก็ยังมีขออยู่บ้าง แต่ตอนอยู่ด้วยกันก็ไม่คิดไรเยอะเพราะนางก็พาไปเที่ยว(เงินผมทั้งหมด) เปิดปสกหลายที่ แล้วก็เป็นแม่บ้านที่ดีอยู่ แต่ผ่านมาแค่ 2 เดือนดันมาทะเลาะกันเรื่องชุดเวียดนาม(ปีที่แล้วฮิตมาก) ตัวละ 2500 ซึ่งผมมองว่า
แพงมาก เพราะนางคือขอตังซื้อนู้นนี่ทุกวันเลย เราเลยบอกว่าเธอมีตังเก็บบ้างมั้ย เสื้ออันนี้มันแพงมากนะ นางก็งอนจะเอาให้ได้ แถมมาด่าว่า ก็แค่เสื้อเวียดนามตัวเดียว ให้ไม่ได้รึไง.....
ผมก็ฉุนขาดดิครับรอไร เพราะไม่ชอบคนแบบนี้ เปย์ไปตั้งหลายพันหลายหมื่น
พูดงี้ได้ไง เห็นแก่ตัวมากๆ เลยด่าไปชุดใหญ่ หลังจากนั้นนางก็ขอโทษ แล้วก็ปรับความเข้าใจกัน....
นางดีขึ้นนะ แต่ก่อนอื่นผมเคยถามแล้วว่าไม่ทำงานหรอ นางบอกอยากพักไม่ทำ เลยถามต่อว่าแล้วเรื่องเรียนมหาลัยล่ะ เรียนอยู๋มั้ย.... นางไม่ค่อยตอบ พร้อมบ่ายเบี่ยง และมารู้ทีหลังว่านางรีไทร์ออกไปแล้ว มีวุฒิแค่ ปวช(ม.6)...
ซึ่งแน่นอนครับ ถ้าคนที่อ่านกระทู้นี้ คุณจบ ปวช ปวส อย่างน้อยผมเชื่อว่าพวกคุณต้องมีใจใฝ่การงานมากใช่มั้ยครับ แต่นางไม่เลย อ้างว่าจะพักอย่างเดียว ไม่ทำอะไรเลย จนขึ้นปีใหม่มานางบอกว่า อยากได้ตังเพิ่ม อยากแบ่งเบาภาระ(จู่ๆ ก็คิดได้เว้ย ดีใจ) แต่เค้าขอปล่อยเงินกู้นะ ได้ตังไวดี.... ไอ้เราก็กลัวมากๆ นางก็เลยยกเคสของเพื่อนนางมาว่าปล่อยเงินกู้จนรวย(แต่ความจริงเพื่อนนางรวยได้เพราะผัวรวย เอาเงินผัวมาต่อยอดเอง) เลยลองปล่อยดู สรุปได้จริงครับ แต่เรียกว่าได้แล้วหมดไป ซึ่งก็มีมาเปย์ผมคืนบ้างนะ แต่ผมเตือนไปว่า งานแบบนี้มันไม่ดีนะ มันไปเบียดเบียนคนอื่น ไม่มั่นคง เครียดด้วย และได้เริ่มคอร์สสอนเก็บเงินมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นที่ผมดุด่า ตักเตือน หลายๆครั้งว่าให้เก็บเงินบ้างนะ อนาคตมันไม่แน่นอน ซึ่งสรุปครับ ใช้จนเหลือ 0 ตลอด เป็นมาหลายครั้ง ทะเลาะกันทุกรอบ และทุกๆครั้งที่เหลือ 0 ตังไม่พอใช้จ่ายอย่างอื่น นางก็จะมาขอให้จดเป็นหนี้สินแทน(ตอนนี้รวม 4-5 หมื่นได้ แล้วไหนจะโดนลูกหนี้ชิ่งอีก เงินผมหายไปเยอะมาก)....
ครึ่งปีหลังนางดีขึ้นมากๆครับ เข้าใจแนวคิดและความสำคัญของเงินมากขึ้น แต่อย่างว่า สันดานมาแบบใด มันก็จะแสดงมาแบบนั้น ผมเริ่มกลับมาคุยเรื่องชีวิตคู่ การเงิน และเป้าหมายในชีวิตอย่างจริงจัง กลายเป็นว่าดันมาทะเลาะกันเพราะมายเซ็ทของนางที่บอกได้เลยว่า แย่เฮียๆ ขั้นสุดครับ เริ่มจาก...
นางดูถูกอาชีพข้าราชการอย่างหนักว่า เงินน้อย รวยยาก แล้วด่าผมว่าอยากเป็นขี้ข้าจนๆไปตลอดชีวิตหรอ... ผมก็ขึ้นดิครับ จบวุฒิแค่นั้น เกาะแดก แล้วมีสิทธิมาหมิ่นข้าราชการได้ไง ตัวเองไม่ทำเฮียอะไรเลย ด่ากันไปมายกใหญ่ สุดท้ายอีกวันนางมาขอโทษ
เราคุยกันเรื่องเงินเรื่อยๆ สุดท้ายมาทะเลาะกันอีกก็เรื่องเงืนๆทองๆ แต่กลายเป็นว่านางแสดงมายเว็ทของนางออกมาว่านาง ต้องการผู้ชายที่ดูแลและเปย์ให้ทุกอย่าง.... ไอ้เราก็ขึ้นอีก ขึ้นแบบด่าทั้งคำหยาบคาย ทั้งอะไร เพราะโคตรอัดอั้น เพราะเรื่องนี้เราเคยเคลียกันแล้วว่าเออ ถ้ากลับมาอยู่ด้วนฃยกันอีกจะช่วยกันทำงานเก็บเงินนะ โดยมีเงินผมซัพพอร์ต....
นางก็ย้อนอดีตเลยครับ ไหนบอกว่าจะช่วยให้เค้าดีขึ้นเท่าเพื่อนคนอื่น ไหนบอกจะซัพพอร์ตบลาๆๆ ด่าว่าผมโม้อีก ทั้งที่ความจริงเราเคลียกันแล้วว่าจะช่วยกันนี่หน่า โดยมีเงินผมช่วยซัพช่วยประคอง แล้วเอาไปเปรียบเทียบกับคู่เพื่อนอีกแล้วว่า แฟนเพื่อนคนนั้นให้ตังเป็นล้านๆ อีกคู่ให้ธุรกิจมาทำเลย ผมเลยสวนไปว่า นี่คู่เรานะ เรามองความเป็นจริงคู่เราสิ....
ผมก็เลยยกเคสเพื่อนผู้หญิงผมครับว่า เนื่ย พวกนี้มันยังขยันทำงานหาเงินดูแลตัวเองก่อนเลย เรื่องผัวๆมันก็มองเป็นเรื่องอนาคต แฟนผมเลยสวนกลับว่า ก็ดูหน้าตาพวกมันสิ จะหาผู้ชายให้เกาะให้เปย์ได้ยังไง ดูอย่างพวกเค้าสิลงทุนทำหน้า ทำนม ลงทุนกับตัวเองเพื่อให้ผู้ชายเข้าหา(ขอโทษนะ เมิงเข้าหากูก่อน และคนที่ทำเป็นเพื่อนเมิง เมิงไม่ได้ทำจ้า แล้วมาอ้างเรื่องนี้มันคนละเรื่องเลย) ผมเลยสวนไปว่า เห้ย ไหนบอกจะชาวยกันไง แล้วจะมาอ้างไปทั่วแบบนี้ได้ไง แถมยังด่าผม พวกเพื่อนผม และสังคมที่ผมโตมาว่าเป็นส่วนน้อยเป็นเด็กที่ยังไม่โต สังคมที่นางอยู่อ่ะคือโลกความเป็นจริง หันมาดูซะบ้าง... เนื่ย เห็นแก่ตัวไม่พอ ยังไปซี้หน้าว่าพวกผมที่จบปตรี กำลังเข้าทำงานว่าไม่โตและไม่อยู่ในความเป็นจริง ทั้งๆที่นางเอง
ไม่เคยทำอะไรเลย งานก็ไม่ทำ เรียนก็ไม่จบ ขอตังกินไปวันๆ แล้วยังเอาแชทที่ผมบอกมายเซ้ทตัวผมเอง ไปแคปให้เพื่อนกลุ่มนางดูอีกนะ ตลกดีครับ.....
ตอนนี้ทะเลาะกันแล้ว ผมเป็นฝ่ายบอกเลิกครั้ง 5-6 ได้ละ55555 ทนมาได้ไง มารอดูกันต่อครับว่าเป็นยังไง
กระทู้มีเรื่องไม่ดีนะครับ อย่างแรกคืออย่าด่าแฟนแรงๆนะครับ ควรคุยเคลียกันให้ดีๆ(แต่แฟนคนนี้ฟังไทยไม่ค่อยออก พอผมดุด่าเสจชอบตอบมาแค่ว่า อะไร เป็นไร ง่วงนอน...) ก็เลยจะหัวร้อนหน่อยครับ
อีกเรื่องก็การปล่อยเงืนกู้หรือาชีพทุจริต ไม่ดีนะครับ ถึงแม้เราไม่ได้เป็นคนขอให้ชาวบ้านชาวช่องมากู้ แต่มันก็เป็นวิธีรวยที่ไม่ดีครับ.....
ใครมีข้อสงสัย หรือรู้สึกว่า
นิยาย ไม่จริงซะหน่อย ผมแคปแชทให้ดูได้นะครับบางส่วน แต่จะขอปิดชื่อเพื่อกัน PDPA ครับ
รายละเอียดที่น่าหัวร้อนจากของแฟนผมยังมีอีกเยอะมากๆครับ อันนี้คือสรุปมาจนถึงปัจจุบัน ไม่คิดว่าจะเจอคนเฮียๆแบบนี้จริงๆครับ.......
ผู้หญิงที่เกาะผู้ชาย(ปลิง) ไม่คิดว่าจะเจอกับตัวครับ (ทนมาได้ยังไงเนาะเรา)
ตามหัวข้อเลยครับ ผมเจอคนคนนี้จากแอปหาคู่ เป็นคนที่ดูดีมาก ดูมีฐานะ ใช้ชีวิตร่ำรวย และเขามาจีบเราก่อนด้วย ด้วยความที่เป็นรักแรก เราก็ลองคุยก็ถูกใจ สานสัมพันธ์ต่อ มาช่วงแรกๆก็ ขอเงินเลยครับ ขอทั้งค่าข้าว ค่าน้ำ ค่าเซเว่น ค่าเน็ต ค่าสิ่งของเครื่องใช้ ไอ้เราก็คลั่งรัก ก็เลยให้ไป
พอถึงช่วงที่มาอยู่ด้วยกัน ก็เริ่มปรับความเข้าใจเรื่องเงินว่า เราไม่ได้รวยนะ ตังเธอก็ใช้เยอะมาก บลาๆ... นางเข้าใจนะ และพยายามปรับตัวให้ดีขึ้น แต่นั่นแหละ สันดานคนเป็นไงก็แบบนั้น ก็ยังมีขออยู่บ้าง แต่ตอนอยู่ด้วยกันก็ไม่คิดไรเยอะเพราะนางก็พาไปเที่ยว(เงินผมทั้งหมด) เปิดปสกหลายที่ แล้วก็เป็นแม่บ้านที่ดีอยู่ แต่ผ่านมาแค่ 2 เดือนดันมาทะเลาะกันเรื่องชุดเวียดนาม(ปีที่แล้วฮิตมาก) ตัวละ 2500 ซึ่งผมมองว่า
ผมก็ฉุนขาดดิครับรอไร เพราะไม่ชอบคนแบบนี้ เปย์ไปตั้งหลายพันหลายหมื่น
นางดีขึ้นนะ แต่ก่อนอื่นผมเคยถามแล้วว่าไม่ทำงานหรอ นางบอกอยากพักไม่ทำ เลยถามต่อว่าแล้วเรื่องเรียนมหาลัยล่ะ เรียนอยู๋มั้ย.... นางไม่ค่อยตอบ พร้อมบ่ายเบี่ยง และมารู้ทีหลังว่านางรีไทร์ออกไปแล้ว มีวุฒิแค่ ปวช(ม.6)...
ซึ่งแน่นอนครับ ถ้าคนที่อ่านกระทู้นี้ คุณจบ ปวช ปวส อย่างน้อยผมเชื่อว่าพวกคุณต้องมีใจใฝ่การงานมากใช่มั้ยครับ แต่นางไม่เลย อ้างว่าจะพักอย่างเดียว ไม่ทำอะไรเลย จนขึ้นปีใหม่มานางบอกว่า อยากได้ตังเพิ่ม อยากแบ่งเบาภาระ(จู่ๆ ก็คิดได้เว้ย ดีใจ) แต่เค้าขอปล่อยเงินกู้นะ ได้ตังไวดี.... ไอ้เราก็กลัวมากๆ นางก็เลยยกเคสของเพื่อนนางมาว่าปล่อยเงินกู้จนรวย(แต่ความจริงเพื่อนนางรวยได้เพราะผัวรวย เอาเงินผัวมาต่อยอดเอง) เลยลองปล่อยดู สรุปได้จริงครับ แต่เรียกว่าได้แล้วหมดไป ซึ่งก็มีมาเปย์ผมคืนบ้างนะ แต่ผมเตือนไปว่า งานแบบนี้มันไม่ดีนะ มันไปเบียดเบียนคนอื่น ไม่มั่นคง เครียดด้วย และได้เริ่มคอร์สสอนเก็บเงินมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นที่ผมดุด่า ตักเตือน หลายๆครั้งว่าให้เก็บเงินบ้างนะ อนาคตมันไม่แน่นอน ซึ่งสรุปครับ ใช้จนเหลือ 0 ตลอด เป็นมาหลายครั้ง ทะเลาะกันทุกรอบ และทุกๆครั้งที่เหลือ 0 ตังไม่พอใช้จ่ายอย่างอื่น นางก็จะมาขอให้จดเป็นหนี้สินแทน(ตอนนี้รวม 4-5 หมื่นได้ แล้วไหนจะโดนลูกหนี้ชิ่งอีก เงินผมหายไปเยอะมาก)....
ครึ่งปีหลังนางดีขึ้นมากๆครับ เข้าใจแนวคิดและความสำคัญของเงินมากขึ้น แต่อย่างว่า สันดานมาแบบใด มันก็จะแสดงมาแบบนั้น ผมเริ่มกลับมาคุยเรื่องชีวิตคู่ การเงิน และเป้าหมายในชีวิตอย่างจริงจัง กลายเป็นว่าดันมาทะเลาะกันเพราะมายเซ็ทของนางที่บอกได้เลยว่า แย่เฮียๆ ขั้นสุดครับ เริ่มจาก...
นางดูถูกอาชีพข้าราชการอย่างหนักว่า เงินน้อย รวยยาก แล้วด่าผมว่าอยากเป็นขี้ข้าจนๆไปตลอดชีวิตหรอ... ผมก็ขึ้นดิครับ จบวุฒิแค่นั้น เกาะแดก แล้วมีสิทธิมาหมิ่นข้าราชการได้ไง ตัวเองไม่ทำเฮียอะไรเลย ด่ากันไปมายกใหญ่ สุดท้ายอีกวันนางมาขอโทษ
เราคุยกันเรื่องเงินเรื่อยๆ สุดท้ายมาทะเลาะกันอีกก็เรื่องเงืนๆทองๆ แต่กลายเป็นว่านางแสดงมายเว็ทของนางออกมาว่านาง ต้องการผู้ชายที่ดูแลและเปย์ให้ทุกอย่าง.... ไอ้เราก็ขึ้นอีก ขึ้นแบบด่าทั้งคำหยาบคาย ทั้งอะไร เพราะโคตรอัดอั้น เพราะเรื่องนี้เราเคยเคลียกันแล้วว่าเออ ถ้ากลับมาอยู่ด้วนฃยกันอีกจะช่วยกันทำงานเก็บเงินนะ โดยมีเงินผมซัพพอร์ต....
นางก็ย้อนอดีตเลยครับ ไหนบอกว่าจะช่วยให้เค้าดีขึ้นเท่าเพื่อนคนอื่น ไหนบอกจะซัพพอร์ตบลาๆๆ ด่าว่าผมโม้อีก ทั้งที่ความจริงเราเคลียกันแล้วว่าจะช่วยกันนี่หน่า โดยมีเงินผมช่วยซัพช่วยประคอง แล้วเอาไปเปรียบเทียบกับคู่เพื่อนอีกแล้วว่า แฟนเพื่อนคนนั้นให้ตังเป็นล้านๆ อีกคู่ให้ธุรกิจมาทำเลย ผมเลยสวนไปว่า นี่คู่เรานะ เรามองความเป็นจริงคู่เราสิ....
ผมก็เลยยกเคสเพื่อนผู้หญิงผมครับว่า เนื่ย พวกนี้มันยังขยันทำงานหาเงินดูแลตัวเองก่อนเลย เรื่องผัวๆมันก็มองเป็นเรื่องอนาคต แฟนผมเลยสวนกลับว่า ก็ดูหน้าตาพวกมันสิ จะหาผู้ชายให้เกาะให้เปย์ได้ยังไง ดูอย่างพวกเค้าสิลงทุนทำหน้า ทำนม ลงทุนกับตัวเองเพื่อให้ผู้ชายเข้าหา(ขอโทษนะ เมิงเข้าหากูก่อน และคนที่ทำเป็นเพื่อนเมิง เมิงไม่ได้ทำจ้า แล้วมาอ้างเรื่องนี้มันคนละเรื่องเลย) ผมเลยสวนไปว่า เห้ย ไหนบอกจะชาวยกันไง แล้วจะมาอ้างไปทั่วแบบนี้ได้ไง แถมยังด่าผม พวกเพื่อนผม และสังคมที่ผมโตมาว่าเป็นส่วนน้อยเป็นเด็กที่ยังไม่โต สังคมที่นางอยู่อ่ะคือโลกความเป็นจริง หันมาดูซะบ้าง... เนื่ย เห็นแก่ตัวไม่พอ ยังไปซี้หน้าว่าพวกผมที่จบปตรี กำลังเข้าทำงานว่าไม่โตและไม่อยู่ในความเป็นจริง ทั้งๆที่นางเอง
ตอนนี้ทะเลาะกันแล้ว ผมเป็นฝ่ายบอกเลิกครั้ง 5-6 ได้ละ55555 ทนมาได้ไง มารอดูกันต่อครับว่าเป็นยังไง
กระทู้มีเรื่องไม่ดีนะครับ อย่างแรกคืออย่าด่าแฟนแรงๆนะครับ ควรคุยเคลียกันให้ดีๆ(แต่แฟนคนนี้ฟังไทยไม่ค่อยออก พอผมดุด่าเสจชอบตอบมาแค่ว่า อะไร เป็นไร ง่วงนอน...) ก็เลยจะหัวร้อนหน่อยครับ
อีกเรื่องก็การปล่อยเงืนกู้หรือาชีพทุจริต ไม่ดีนะครับ ถึงแม้เราไม่ได้เป็นคนขอให้ชาวบ้านชาวช่องมากู้ แต่มันก็เป็นวิธีรวยที่ไม่ดีครับ.....
ใครมีข้อสงสัย หรือรู้สึกว่า
รายละเอียดที่น่าหัวร้อนจากของแฟนผมยังมีอีกเยอะมากๆครับ อันนี้คือสรุปมาจนถึงปัจจุบัน ไม่คิดว่าจะเจอคนเฮียๆแบบนี้จริงๆครับ.......