เตือนภัยป้าข้างบ้านมหาภัย !!!
(1 พ.ย.)เราทำบ้านเช่า อยู่ในชุมชนหมู่บ้านเก่าที่เราเติบโตรู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก (หมู่บ้านนี้ร่วม 30 ปีแล้ว) เมื่อสิ้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา คนเช่าหมดสัญญาเช่าและย้ายของออกจากบ้านตามปกติ แต่คนเช่ายังย้ายของออกไปไม่หมด จะเหลือรถมอเตอร์ไซค์ ขาตั้งแก๊ส เก้าอี้ ซึ่งเราได้แจ้งคนเช่าให้ย้ายของออกในช่วงเย็น เพื่อที่จะให้แม่บ้านเข้าไปทำความสะอาดในวันรุ่งขึ้น ซึ่งระหว่างที่เราตรวจบ้าน ป้าข้างบ้านมาทำทีท่าเป็นคนดี เดินมาบอกว่าคนเช่าไม่ปิดไฟ พี่มาปิดไฟให้ แล้วก็ชี้ไปที่เก้าอี้ว่าขอ ซึ่งเราไม่ได้พูดว่ายกให้ เพราะไม่ใช่ของเรา และเราก็ไม่ค่อยสุงสิงกับป้าข้างบ้านคนนี้ เมื่อเราตรวจบ้านและคุยไลน์กับคนเช่าเสร็จ เราก็ปิดบ้านตามปกติแต่ไม่ได้ล็อคบ้าน เพราะต้องการให้คนเช่ามาขนของออกสะดวก
(2 พ.ย.) เช้าวันรุ่งขึ้น แม่บ้านมาทำความสะอาดตอนเช้า แต่ของที่กองไว้หน้าบ้านหายไปหมดแล้ว แต่เราสังเกตุเห็นว่าสิ่งของเหล่านั้น ไปอยู่ในบ้านของป้าข้างบ้านรวมทั้งมอเตอร์ไซค์ เราเข้าใจว่าคนเช่าคงฝากของกัน จึงไม่สอบถามอะไรกับป้าข้างบ้าน เราทำความสะอาดบ้านเสร็จเราก็ปิดบ้านตามปกติ สังเกตุว่ามอเตอร์ไซค์ยังอยู่ในบ้านของป้าข้างบ้าน
(3 พ.ย.) อีกวันนึงเรานัดช่างไฟเพื่อเข้าไปซ่อมไฟ เราสังเกตุว่ามอเตอร์ไซค์หายออกจากป้าข้างบ้านแล้ว แต่ก็คิดว่าคนเช่ามาเอาไปแล้ว
(5 พ.ย.) คนเช่าได้มาสอบถามหามอเตอร์ไซค์ ใช้เวลาคุยถามหาต้นสายปลายเหตุพอสมควรจนได้ใจความว่า คนเช่าไม่ได้มีการฝากของป้าข้างบ้านแต่อย่างใด
ป้าข้างบ้านบอกกับคนในระแวกบ้าน ว่าคนเช่าทิ้งของแล้ว ไม่เอาแล้ว แล้วเปิดประตูบ้านไปเอาของทั้งหมดย้ายไปบ้านของเค้า ส่วนรถมอเตอร์ไซค์ได้ขายซาเล้งไปแล้ว
(8 พ.ย.) คนเช่าไปสอบถามและป้าข้างบ้านยอมรับว่าเอาไปจริง และขายให้รถซาเลี้งไปแล้ว วันนี้คนเช่ายังให้โอกาส และรอให้ป้าข้างบ้านไปตามรถกลับมาคืน ยังไม่ได้แจ้งความลักทรัพย์ แต่ป้าข้างบ้านบอก ไม่ตาม ตามไม่เจอ ยอมติดคุก (คนเช่าจะแจ้งความวันพรุ่งนี้) ส่วนเราในฐานะเจ้าของบ้านเราแจ้งความฐานบุกรุกไปแล้ว แต่ตำรวจรับแจ้งความแล้วบอกให้เรากลับบ้าน รอคิวให้เค้าเคลียคดีก่อนหน้านี้ก่อน เราอยากถามว่า เราจะรอให้ตำรวจดำเนินคดีบุกรุกแบบนี้ใช้เวลานานไหมคะ ขอความคิดเห็นคะ
หมู่บ้านเป็นชุมชนใหญ่ที่รู้จักกันมามากกว่า 30 ปี ไม่คิดว่าคนที่รู้จักจะทำกันแบบไม่เกรงกลัวกฏหมายเลย
เตือนภัยป้าข้างบ้านมหาภัย
(1 พ.ย.)เราทำบ้านเช่า อยู่ในชุมชนหมู่บ้านเก่าที่เราเติบโตรู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก (หมู่บ้านนี้ร่วม 30 ปีแล้ว) เมื่อสิ้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา คนเช่าหมดสัญญาเช่าและย้ายของออกจากบ้านตามปกติ แต่คนเช่ายังย้ายของออกไปไม่หมด จะเหลือรถมอเตอร์ไซค์ ขาตั้งแก๊ส เก้าอี้ ซึ่งเราได้แจ้งคนเช่าให้ย้ายของออกในช่วงเย็น เพื่อที่จะให้แม่บ้านเข้าไปทำความสะอาดในวันรุ่งขึ้น ซึ่งระหว่างที่เราตรวจบ้าน ป้าข้างบ้านมาทำทีท่าเป็นคนดี เดินมาบอกว่าคนเช่าไม่ปิดไฟ พี่มาปิดไฟให้ แล้วก็ชี้ไปที่เก้าอี้ว่าขอ ซึ่งเราไม่ได้พูดว่ายกให้ เพราะไม่ใช่ของเรา และเราก็ไม่ค่อยสุงสิงกับป้าข้างบ้านคนนี้ เมื่อเราตรวจบ้านและคุยไลน์กับคนเช่าเสร็จ เราก็ปิดบ้านตามปกติแต่ไม่ได้ล็อคบ้าน เพราะต้องการให้คนเช่ามาขนของออกสะดวก
(2 พ.ย.) เช้าวันรุ่งขึ้น แม่บ้านมาทำความสะอาดตอนเช้า แต่ของที่กองไว้หน้าบ้านหายไปหมดแล้ว แต่เราสังเกตุเห็นว่าสิ่งของเหล่านั้น ไปอยู่ในบ้านของป้าข้างบ้านรวมทั้งมอเตอร์ไซค์ เราเข้าใจว่าคนเช่าคงฝากของกัน จึงไม่สอบถามอะไรกับป้าข้างบ้าน เราทำความสะอาดบ้านเสร็จเราก็ปิดบ้านตามปกติ สังเกตุว่ามอเตอร์ไซค์ยังอยู่ในบ้านของป้าข้างบ้าน
(3 พ.ย.) อีกวันนึงเรานัดช่างไฟเพื่อเข้าไปซ่อมไฟ เราสังเกตุว่ามอเตอร์ไซค์หายออกจากป้าข้างบ้านแล้ว แต่ก็คิดว่าคนเช่ามาเอาไปแล้ว
(5 พ.ย.) คนเช่าได้มาสอบถามหามอเตอร์ไซค์ ใช้เวลาคุยถามหาต้นสายปลายเหตุพอสมควรจนได้ใจความว่า คนเช่าไม่ได้มีการฝากของป้าข้างบ้านแต่อย่างใด
ป้าข้างบ้านบอกกับคนในระแวกบ้าน ว่าคนเช่าทิ้งของแล้ว ไม่เอาแล้ว แล้วเปิดประตูบ้านไปเอาของทั้งหมดย้ายไปบ้านของเค้า ส่วนรถมอเตอร์ไซค์ได้ขายซาเล้งไปแล้ว
(8 พ.ย.) คนเช่าไปสอบถามและป้าข้างบ้านยอมรับว่าเอาไปจริง และขายให้รถซาเลี้งไปแล้ว วันนี้คนเช่ายังให้โอกาส และรอให้ป้าข้างบ้านไปตามรถกลับมาคืน ยังไม่ได้แจ้งความลักทรัพย์ แต่ป้าข้างบ้านบอก ไม่ตาม ตามไม่เจอ ยอมติดคุก (คนเช่าจะแจ้งความวันพรุ่งนี้) ส่วนเราในฐานะเจ้าของบ้านเราแจ้งความฐานบุกรุกไปแล้ว แต่ตำรวจรับแจ้งความแล้วบอกให้เรากลับบ้าน รอคิวให้เค้าเคลียคดีก่อนหน้านี้ก่อน เราอยากถามว่า เราจะรอให้ตำรวจดำเนินคดีบุกรุกแบบนี้ใช้เวลานานไหมคะ ขอความคิดเห็นคะ
หมู่บ้านเป็นชุมชนใหญ่ที่รู้จักกันมามากกว่า 30 ปี ไม่คิดว่าคนที่รู้จักจะทำกันแบบไม่เกรงกลัวกฏหมายเลย