เริ่มต้นสู้ชีวิตใหม่ในวัย 45 ปี ด้วยเงินติดตัว 50 บาท...กับบทเรียนชีวิตที่แสนแพง

สวัสดีครับ วันนี้ผมขอมาแชร์เรื่องราวชีวิตของผม เป็นการเล่าประสบการณ์ความผิดพลาดและมุมมอง ที่ทำให้ชีวิตผมขึ้นสุดลงสุดอย่างกับรถไฟเหาะ ผมจะเล่าอย่างย่อๆ แต่อาจจะมีหลาย ep. เพราะผมอยากจะเกริ่นถึงอดีตที่ผ่านมา จากจุดที่ผมไม่มีอะไรไปสู่จุดที่รุ่งเรืองที่สุด และกลับมาจุดต่ำสุดอีกครั้ง กับการต่อสู้ดิ้นรน ลองผิดลองถูก และปัจจุบันไปสู่อนาคตว่าผมกำลังจะทำอะไรต่อไป จะออกจากวิกฤตตรงนี้ได้อย่างไร เพื่อเป็นกำลังใจให้กับคนที่อาจจะอยู่ในสถานการคล้ายๆกัน ว่าท่านเองก็ไม่ได้ลำบากคนเดียว

เริ่มชีวิตในวัยเด็ก...

ขอแนะนำตัวก่อนนะครับว่าผมชื่อ P ผมเกิดมาในครอบครัวคนจีน ฐานะกลางๆ แต่ก่อนที่บ้านเป็นบริษัทผลิตวิทยุยี่ห้อ SUNSEA เป็นธุรกิจกงสีใหญ่ ที่บ้านอยู่กันกว่า 20 คน แต่ทุกวันนี้เจ๊งไปหลายสิบปีแลเวนะครับ บางท่านอาจจะรู้จักวิทยุยี่ห้อนี้ ตั้งแต่ประถมผมเรียนที่อัสสัมชัญธนบุรี จนถึง ม.ต้น เพราะผมเป็นคนที่เรียนไม่เก่ง เกรดไม่ถึงทางโรงเรียนจึงไม่ให้ต่อ ม.ปลาย แถมคุณพ่อแม่ก็แยกทางกันตั้งแต่ผม 10 ขวบได้ แต่ผมไม่ได้ขาดความอบอุ่นแต่อย่างใด คงเพราะญาติเยอะด้วยและยังได้เจอคุณแม่เรื่อยๆ หลังจากนั้น คุณแม่ได้พาเข้าเรียนต่อที่ เตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ ตอน ม.ปลาย ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่แปลกใหม่สำหรับเด็กอย่างผมมาก ที่เคยเรียนโรงเรียนเอกชนที่เป็นคริสต์แบบอัสสัม แล้วมาต่อที่เตรียมอุดม ที่เป็นโรงเรียนรัฐบาลที่ดีมากๆ แค่ต่างกันที่สไตล์ ได้เพื่อนดีๆเยอะมาก หลังจากจบ มัธยมปลาย ด้วยเกรดที่เกือบไม่จบ แต่เนื่องจากผมเป็นเด็กที่เรียนไม่เก่งอยู่แล้ว แต่ชอบวาดรูปการ์ตูนเสมอ เพื่อนๆจึงแนะนำให้ไปเอ็นทรานซ์คณะสถาปัตย์ ซึ่งผมเองตกใจมากเพราะไม่คิดว่าคนเรียนไม่เก่งแบบเราจะมีคุณสมบัติในการสอบด้วยเหรอ ??? เพื่อนที่แนะนำเค้าว่า เราวาดการ์ตูนเก่งน่าจะไปลองดูเพราะวิชาการใช้น้อย คณิตก็ไม่ต้องใช้สอบ คอนนั้นเริ่มมีความหวัง เพราะในใจไม่อยากเรียนมหาลัยเอกชนอยู่แล้ว รู้สึกว่าค่าเทอมแพงหลายแสนเกรงใจคุณพ่อ และคิดว่าไม่คุ้มเงินเดือน จึงตั้งใจสอบชนิดที่ว่าถ้ามีปาฎิหารย์ก็คงสอบติด แต่ผมตั้งใจอ่านหนังสือและไปติววาดรูปเพิ่มที่ศิลปากรอยู่เป็นเดือน จริงๆตอนนั้น ยิ่งไปติวยิ่งท้อ เพราะเจอแต่คนเก่งๆ แบบว่าวาดรูปเก่งกว่าเราเยอะ สวยกว่าเราเยอะ อย่างเรานี่ดูกระจอกไปเลย คือเราอาจจะวาดรูปเก่งในหมู่คนวาดไม่เก่ง..แต่พอมาอยู่ในหมู่คนวาดรูปด้วยกัน ถึงรู้ว่าเหนือฟ้ายังมีฟ้าเป็นยังไง และโลกมันกว้างใหญ่ขนาดไหน แต่ไหนๆก็ไหนๆ ก็คงมีแต่ความตั้งใจกับปาฎิหารย์เท่านั้นจริงๆที่เด็กระดับผม จะหวังเอ็นทรานซ์ติดได้ ผมหมกตัวอ่านหนังสืออยู่หลายเดือน ฝึกวาดรูป และเป็นการสอบเข้ามหาลัยครั้งแรกในชีวิตโดยมีเพื่อนจากเตรียมพัฒน์ ที่เคยสอบมาก่อนแล้ว มาคอยแนะนำให้ผมด้วย (ซึ่งในภายหลัง เธอคนนี้ได้เป็นแฟนคนแรกของผมด้วย)




หลังจากที่ตั้งใจทำอย่างสุดความสามารถ เท่าที่เราจะทำได้ ผลออกมา ตัวผมเองสอบติดอันดับ 1 คณะสถาปัตย์ลาดกระบัง สาขานิเทศน์ศิลป์ ....คือตัวผมเองยังไม่อยากจะเชื่อเลย ที่บ้านก็ดีใจกันมาก ตอนนั้นผมเองยังไม่รู้เลยว่า มหาลัยนี้อยู่ที่ไหน เพราะคะแนนสอบมากที่สุด เพื่อนเลยแนะนำว่าให้เอาไว้อันดับ 1 ส่วนอันดับ 2-5 จะคะแนนน้อยลงมา แต่เป็นที่ศิลปากร ซึ่งตอนนั้นคิดว่าถ้าฟลุ้คสอบติด ก็คงได้อันดับ 5 แน่ๆ ที่ศิลปากร (จริงๆอยากเรียนศิลปากรมากกว่า เพราะเราไปติวที่นั่นตลอด) ผมยังจำวันแรกที่กว่าจะเดินทางไปถึงมหาลัยลาดกระบังได้ว่าไกลขนาดไหน แล้วหลังจากนั้นชีวิตใหม่ก็ได้เริ่มต้นอีกครั้ง การได้พบพานเพื่อนใหม่ๆ ครูคนใหม่ มันคือประสบการณ์ที่ล้ำค่ามากๆสำหรับผม วันนี้พอแค่นี้ก่อน ไว้มาเล่าต่อนะครับ



ภาพเพื่อนๆ KMITL คณะสถาปัตย์นิเทศน์ศิลป์ รุ่นปี 40
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่