นักแสดงชาวไต้หวัน ทาเคชิ คาเนชิโร่ ผู้โด่งดังจากบทบาทในภาพยนตร์เรื่อง “Chungking Express” และ “Fallen Angels”
ของหว่อง กาไว ผู้กำกับภาพยนตร์ชาวฮ่องกง ปัจจุบันใช้ชีวิตแบบสันโดษและเรียบง่าย โดยปลีกตัวไปอยู่ห่างไกลจากสายตาของสาธารณชน
บทความที่ตีพิมพ์โดย UDN เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา มีนักร้องชาวไต้หวัน Bobby Chen ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมวงการที่สนิทของคาเนชิโร่ เป็นผู้นำเสนอ
โดยเขาได้เล่าว่าตอนนี้คาเนชิโร่ ได้อุทิศตนให้กับการทำฟาร์ม โดยใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการทำงานฟาร์มด้วยตัวเองแทบทั้งหมด
“ทาเคชิ ได้กลับไปทำในสิ่งที่เขารักมาตั้งแต่แรกแล้ว นั่นก็คือ การทำฟาร์ม การดูแลดอกไม้ และการมีความสุขไปกับธรรมชาติ” Chen กล่าว
นักร้องชื่อดังได้แสดงความชื่นชมต่อวิถีชีวิตที่คาเนชิโร่เลือก เขากล่าวว่าเพื่อนนักแสดงของเขาคนนี้เป็นคนเก็บตัว
ไม่ชอบการเข้าสังคม และโฟกัสแต่เพียงกิจกรรมหรือสิ่งที่ทำให้เขามีความสุขเท่านั้น
ในช่วงเจ็ดปีที่ผ่านมา คาเนชิโร่นั้นแทบไม่เคยปรากฏตัวต่อสาธารณชนเลย ทำให้ข่าวคราวเกี่ยวกับเขากลายเป็นหัวข้อที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก
การเปิดเผยเกี่ยวกับชีวิตที่สันโดษของเขาได้กลายเป็นหัวข้อที่ได้รับความนิยมสูงสุดบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียของจีนอย่าง Weibo อย่างรวดเร็ว
ในขณะเดียวกัน Zaobao รายงานว่าภาพยนตร์เรื่อง "Sons of the Neon Night" ซึ่งคาเนชิโร่รับบทเป็นตัวเอก มีกำหนดจะออกฉายในช่วงต้นปี 2025
อย่างไรก็ตาม บริษัทผู้จัดการส่วนตัวที่ดูแลคาเนชิโร่ ได้ระบุว่าไม่ได้มีการพูดคุยกับทีมผู้ผลิตเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมของคาเนชิโร่ในการโปรโมตภาพยนตร์เรื่องนี้แต่อย่างใด
การถ่ายทำ "Sons of the Neon Night" เสร็จสิ้นในปี 2017 และตั้งแต่นั้นมาคาเนชิโร่ก็ไม่ได้รับงานใดๆอีกเลย
ตามรายงานของ UDN เขาเก็บเรื่องที่อยู่อาศัยไว้เป็นความลับและไม่ค่อยตอบคำถามเกี่ยวกับชีวิตส่วนตัวของเขา
ในการสัมภาษณ์กับ Elle Men ฉบับไต้หวันคาเนชิโร่อธิบายไลฟ์สไตล์ของเขาว่าเป็นไปอย่างเชื่องช้าและเรียบง่าย เหมือนกับคนทั่วๆไป
สำหรับเขา ความเรียบง่ายหมายถึงการซื่อสัตย์ต่อตัวเอง ทำในสิ่งที่สามารถทำได้ตามกำลังที่มี
และปฏิบัติตามความรับผิดชอบต่อหน้าที่ของเขาอย่างตรงไปตรงมา
นักแสดงคนนี้สนุกกับกิจวัตรประจำวันที่เงียบสงบ เช่น การเล่นเกม อ่านบทภาพยนตร์ และดูหนัง เขาแทบจะไม่ออกไปข้างนอกเลย
โดยชอบทานอาหารที่ร้านอาหารประจำและเป็นร้านที่มีราคาไม่สูง เพียงไม่กี่แห่ง
คาเนชิโร่ปฏิเสธคำเชิญให้ไปออกรายการโทรทัศน์มาโดยตลอด โดยอธิบายว่าแม้ว่าโซเชียลมีเดีย
และรายการวาไรตี้จะเป็นส่วนหนึ่งของงานของคนในวงการบันเทิง แต่เขากลับรู้สึกว่าตัวเองไม่เหมาะกับบทบาทนี้
เขาชอบที่จะเชื่อมต่อกับผู้ชมผ่านภาพยนตร์และงานโฆษณาเป็นครั้งคราวมากกว่า
เขาอธิบายถึงตัวเองว่าไม่ได้มีความทะเยอทะยานที่อยากจะมีชื่อเสียงหรืออยากจะมีสถานะใดๆที่พิเศษทั้งสิ้น
โดยรายงานจาก Sohu ได้อธิบายว่าชีวิตแบบสันโดษของคาเนชิโร่นั้นเริ่มต้นขึ้นหลังจากที่เขาไปปลีกวิเวกที่วัดพุทธในอินเดียเมื่อปี 1997
ในเวลานั้น เขาเป็นคนมองโลกในแง่ร้ายและมักจะคิดแต่เรื่องในด้านลบ
“หลังจากปลีกวิเวกแล้ว ผมก็ได้มุมมองใหม่ในชีวิต”
เขากล่าว “ผมมองโลกในแง่ดีมากขึ้นและเรียนรู้ที่จะปล่อยให้ทุกอย่างดำเนินไปตามธรรมชาติของมัน”
ปัจจุบันคาเนชิโร่ไม่ได้กังวลเกี่ยวกับชื่อเสียงหรือแรงกดดันจากงานของเขาอีกต่อไป
สำหรับเขา ความสำเร็จคือการมองหาแง่ดีๆจากชีวิต มากกว่าการแสวงหาความมั่งคั่งหรือชื่อเสียง
ทาเคชิ คาเนชิโร่ วัย 51 ปี เกิดในครอบครัวที่คุณพ่อเป็นชาวญี่ปุ่นและคุณแม่เป็นชาวไต้หวัน
เขาเข้าสู่วงการบันเทิงในปี 1992 ในฐานะนักร้องเพลงป๊อป และได้ผันตัวเองมาเป็นนักแสดงในปีถัดมา
ตลอดอาชีพการงานของเขา เขาได้ร่วมงานกับผู้กำกับชื่อดังทั่วเอเชียตะวันออก
รวมไปถึงหว่องกาไว ,ปีเตอร์ ชาน ,จางอี้โหมว และจอห์น วู โดยประสบความสำเร็จทั้งในด้านเชิงพาณิชย์และคำวิจารณ์
โปรเจ็กต์ล่าสุดของคาเนชิโร่ คือภาพยนตร์เรื่อง "This Is Not What I Expected" ในปี 2017
CR.แปลบทความมาจาก
https://e.vnexpress.net/news/life/celebrities/actor-kaneshiro-takeshi-lives-a-reclusive-life-focuses-on-farming-4808463.html
ปล.สมัยก่อนชอบเฮียแกมาก ตอนที่เล่นซีรีส์กับเคียวโกะ ฟูกาดะ เรื่องอยู่เพื่อรัก
ยังคิดเลย ว่าพระเอกคนนี้โครตหล่อ จนมาแสดงเป็นขงเบ้ง คือตีบทแตกสุดๆ
แล้วยิ่งมาอ่านทัศนคติวิถีการใช้ชีวิตแล้วก็ยิ่งชอบขึ้นไปอีก
ถ้าใครตามข่าว จะรู้ว่าทาเคชิใช้ชีวิตแบบนี้มาตั้งแต่สมัยยังหนุ่มแล้ว
คือเป็นคนรักสันโดษ สมถะ ไม่มีไลฟ์สไตล์ที่หรูหราอะไรเลย
ในการสัมภาษณ์ครั้งนึง ทาเคชิเคยถูกถามว่าเขาอยากให้ผู้คนจดจำตัวเขาแบบไหน ในตอนที่อาชีพนักแสดงสิ้นสุดลงแล้ว
แล้วเฮียแกตอบว่า
"Just forget me... No reason. When it ends, it ends."
(แค่ลืมผมซะ... ไม่ต้องหาเหตุผล เมื่อมันสิ้นสุด ก็คือสิ้นสุดลงแล้ว)
ทาเคชิในวัย 51
ทาเคชิ คาเนชิโร่ นักแสดงชื่อดังยุค 90 กำลังถูกพูดถึง ในเรื่องการใช้ชีวิตแบบสันโดษ โดยผันตัวไปทำฟาร์มเกษตร
ของหว่อง กาไว ผู้กำกับภาพยนตร์ชาวฮ่องกง ปัจจุบันใช้ชีวิตแบบสันโดษและเรียบง่าย โดยปลีกตัวไปอยู่ห่างไกลจากสายตาของสาธารณชน
บทความที่ตีพิมพ์โดย UDN เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา มีนักร้องชาวไต้หวัน Bobby Chen ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมวงการที่สนิทของคาเนชิโร่ เป็นผู้นำเสนอ
โดยเขาได้เล่าว่าตอนนี้คาเนชิโร่ ได้อุทิศตนให้กับการทำฟาร์ม โดยใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการทำงานฟาร์มด้วยตัวเองแทบทั้งหมด
“ทาเคชิ ได้กลับไปทำในสิ่งที่เขารักมาตั้งแต่แรกแล้ว นั่นก็คือ การทำฟาร์ม การดูแลดอกไม้ และการมีความสุขไปกับธรรมชาติ” Chen กล่าว
นักร้องชื่อดังได้แสดงความชื่นชมต่อวิถีชีวิตที่คาเนชิโร่เลือก เขากล่าวว่าเพื่อนนักแสดงของเขาคนนี้เป็นคนเก็บตัว
ไม่ชอบการเข้าสังคม และโฟกัสแต่เพียงกิจกรรมหรือสิ่งที่ทำให้เขามีความสุขเท่านั้น
ในช่วงเจ็ดปีที่ผ่านมา คาเนชิโร่นั้นแทบไม่เคยปรากฏตัวต่อสาธารณชนเลย ทำให้ข่าวคราวเกี่ยวกับเขากลายเป็นหัวข้อที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก
การเปิดเผยเกี่ยวกับชีวิตที่สันโดษของเขาได้กลายเป็นหัวข้อที่ได้รับความนิยมสูงสุดบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียของจีนอย่าง Weibo อย่างรวดเร็ว
ในขณะเดียวกัน Zaobao รายงานว่าภาพยนตร์เรื่อง "Sons of the Neon Night" ซึ่งคาเนชิโร่รับบทเป็นตัวเอก มีกำหนดจะออกฉายในช่วงต้นปี 2025
อย่างไรก็ตาม บริษัทผู้จัดการส่วนตัวที่ดูแลคาเนชิโร่ ได้ระบุว่าไม่ได้มีการพูดคุยกับทีมผู้ผลิตเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมของคาเนชิโร่ในการโปรโมตภาพยนตร์เรื่องนี้แต่อย่างใด
การถ่ายทำ "Sons of the Neon Night" เสร็จสิ้นในปี 2017 และตั้งแต่นั้นมาคาเนชิโร่ก็ไม่ได้รับงานใดๆอีกเลย
ตามรายงานของ UDN เขาเก็บเรื่องที่อยู่อาศัยไว้เป็นความลับและไม่ค่อยตอบคำถามเกี่ยวกับชีวิตส่วนตัวของเขา
ในการสัมภาษณ์กับ Elle Men ฉบับไต้หวันคาเนชิโร่อธิบายไลฟ์สไตล์ของเขาว่าเป็นไปอย่างเชื่องช้าและเรียบง่าย เหมือนกับคนทั่วๆไป
สำหรับเขา ความเรียบง่ายหมายถึงการซื่อสัตย์ต่อตัวเอง ทำในสิ่งที่สามารถทำได้ตามกำลังที่มี
และปฏิบัติตามความรับผิดชอบต่อหน้าที่ของเขาอย่างตรงไปตรงมา
นักแสดงคนนี้สนุกกับกิจวัตรประจำวันที่เงียบสงบ เช่น การเล่นเกม อ่านบทภาพยนตร์ และดูหนัง เขาแทบจะไม่ออกไปข้างนอกเลย
โดยชอบทานอาหารที่ร้านอาหารประจำและเป็นร้านที่มีราคาไม่สูง เพียงไม่กี่แห่ง
คาเนชิโร่ปฏิเสธคำเชิญให้ไปออกรายการโทรทัศน์มาโดยตลอด โดยอธิบายว่าแม้ว่าโซเชียลมีเดีย
และรายการวาไรตี้จะเป็นส่วนหนึ่งของงานของคนในวงการบันเทิง แต่เขากลับรู้สึกว่าตัวเองไม่เหมาะกับบทบาทนี้
เขาชอบที่จะเชื่อมต่อกับผู้ชมผ่านภาพยนตร์และงานโฆษณาเป็นครั้งคราวมากกว่า
เขาอธิบายถึงตัวเองว่าไม่ได้มีความทะเยอทะยานที่อยากจะมีชื่อเสียงหรืออยากจะมีสถานะใดๆที่พิเศษทั้งสิ้น
โดยรายงานจาก Sohu ได้อธิบายว่าชีวิตแบบสันโดษของคาเนชิโร่นั้นเริ่มต้นขึ้นหลังจากที่เขาไปปลีกวิเวกที่วัดพุทธในอินเดียเมื่อปี 1997
ในเวลานั้น เขาเป็นคนมองโลกในแง่ร้ายและมักจะคิดแต่เรื่องในด้านลบ
“หลังจากปลีกวิเวกแล้ว ผมก็ได้มุมมองใหม่ในชีวิต”
เขากล่าว “ผมมองโลกในแง่ดีมากขึ้นและเรียนรู้ที่จะปล่อยให้ทุกอย่างดำเนินไปตามธรรมชาติของมัน”
ปัจจุบันคาเนชิโร่ไม่ได้กังวลเกี่ยวกับชื่อเสียงหรือแรงกดดันจากงานของเขาอีกต่อไป
สำหรับเขา ความสำเร็จคือการมองหาแง่ดีๆจากชีวิต มากกว่าการแสวงหาความมั่งคั่งหรือชื่อเสียง
ทาเคชิ คาเนชิโร่ วัย 51 ปี เกิดในครอบครัวที่คุณพ่อเป็นชาวญี่ปุ่นและคุณแม่เป็นชาวไต้หวัน
เขาเข้าสู่วงการบันเทิงในปี 1992 ในฐานะนักร้องเพลงป๊อป และได้ผันตัวเองมาเป็นนักแสดงในปีถัดมา
ตลอดอาชีพการงานของเขา เขาได้ร่วมงานกับผู้กำกับชื่อดังทั่วเอเชียตะวันออก
รวมไปถึงหว่องกาไว ,ปีเตอร์ ชาน ,จางอี้โหมว และจอห์น วู โดยประสบความสำเร็จทั้งในด้านเชิงพาณิชย์และคำวิจารณ์
โปรเจ็กต์ล่าสุดของคาเนชิโร่ คือภาพยนตร์เรื่อง "This Is Not What I Expected" ในปี 2017
CR.แปลบทความมาจาก
https://e.vnexpress.net/news/life/celebrities/actor-kaneshiro-takeshi-lives-a-reclusive-life-focuses-on-farming-4808463.html
ปล.สมัยก่อนชอบเฮียแกมาก ตอนที่เล่นซีรีส์กับเคียวโกะ ฟูกาดะ เรื่องอยู่เพื่อรัก
ยังคิดเลย ว่าพระเอกคนนี้โครตหล่อ จนมาแสดงเป็นขงเบ้ง คือตีบทแตกสุดๆ
แล้วยิ่งมาอ่านทัศนคติวิถีการใช้ชีวิตแล้วก็ยิ่งชอบขึ้นไปอีก
ถ้าใครตามข่าว จะรู้ว่าทาเคชิใช้ชีวิตแบบนี้มาตั้งแต่สมัยยังหนุ่มแล้ว
คือเป็นคนรักสันโดษ สมถะ ไม่มีไลฟ์สไตล์ที่หรูหราอะไรเลย
ในการสัมภาษณ์ครั้งนึง ทาเคชิเคยถูกถามว่าเขาอยากให้ผู้คนจดจำตัวเขาแบบไหน ในตอนที่อาชีพนักแสดงสิ้นสุดลงแล้ว
แล้วเฮียแกตอบว่า
"Just forget me... No reason. When it ends, it ends."
(แค่ลืมผมซะ... ไม่ต้องหาเหตุผล เมื่อมันสิ้นสุด ก็คือสิ้นสุดลงแล้ว)