มีคนสงสัยมานาน ว่ากลุ่มทนายอเวนเจอร์ที่ประกอบไปด้วยทนายดีๆ ฝีมือดี มีคนสีเทาไปโผล่ ดูมันไม่คู่ควรตั้งแต่แรกแล้ว แต่มันก็พยายามโผล่ไปได้ไม่พอ พยายามแสดงบทบาทแย่งซีนได้มากกว่าคนอื่น ตอนนี้สังคมรู้แน่ชัดแล้ว ว่าเป็นแค่มิจฉาชีพ นิยามของมิจฉาชีพพวกที่พยายามหาทางสร้างความร่ำรวยให้กับตัวเอง โดยใช้วิธีการหลอกลวง เช่นหลอกลงทุน ตบทรัพย์ ขู่กรรโชคทรัพย์ ทุกอย่างมีครบอยู่ในคนเดียว
ไม่รู้เหมือนกันว่า เรามีคนเช่นนี้แอบอาศัยอยู่ในสังคมไทยมากแค่ไหน พวกที่พยายามสร้างภาพ อยู่คราบนักบุญ อาศัยจังหวะตบทรัพย์เหยื่อ คงต้องรอจังหวะน้ำลด ตอจึงผุด ผู้เสียหายจึงกล้าที่จะมาจองกฐิน คดีดาราตกเรือ คนบนเรือรู้จักทนายดัง คิดว่าสามารถช่วยทำคดีอย่างตรงไปตรงมาได้ เล่าเหตุการณ์ให้ฟังตามความเป็นจริง ปรากฏว่าต้องหน้าหงาย ทนายแสดงตัวตนที่แท้จริงออกมา ให้จบง่ายๆก็ต้องให้ใครยอมรับผิดสักคน พอไม่รับข้อเสนอไม่ว่าจ้าง ก็ยังไปพยายามรับงานฝ่ายตรงข้าม แถมโพสต์บอกว่าไม่รับว่าจ้างคนบนเรือ ทั้งๆที่มันต่างห่างที่เขาไม่จ้างเพราะไม่ยอมว่าความตามความจริงให้
ยังไม่พอ มีหญิงต้องการจ้างฟ้องหย่าสามี เรียกเงินทันที10ล้าน บอกจะไปให้นายช่วย คดีจะได้จบง่าย จ่ายไปแล้ว1ปีไม่ยอมฟ้องหย่าให้ อ้างไปว่าถ่ายรูปคู่ไปแล้ว เขาจะกลัวหย่าให้เอง หากจะให้ฟ้องหย่าให้จริง ต้องจ่ายเพิ่มมาอีกเกือบล้าน ทั้งๆที่ลูกความป่วยเป็นโรคซึมเศร้ารักษามานาน ยังต้องไปกู้เงินมาเพื่อจ่ายให้ สุดท้ายก็ได้แค่ภาพถ่ายรูปเดียว ไม่ทำอะไรให้เลย
หลอกลงทุน เศรษฐีนีใจบุญ ผู้มีบุญคุณ ให้เงินเดือนสูง พาไปเที่ยวตปท.กินหรูอยู่ฟรี ใจดีขนาดนี้ยังหลอกกันได้ลง หลอกให้ลงทุนเกือบร้อยล้าน พอถูกทวงถามเพราะงานไม่คืบ มันบอกว่าให้เงินเองด้วยเสน่หาหน้าตาเฉย ทำงงกันทั้งโลก ลูกผัวก็ไม่ใช่ อ้างแค่ว่าคนถูกหวยรางวัลใหญ่แพ้ทาง เหมือนลุงจรูญ เศรษฐีใจบุญถูกหวยแจ็คพอต คนถูกหวยเวลาได้มาอยู่ใกล้ จะเกิดอาการระริกระรี้อยากให้ตังค์ ไปอธิบายให้ใครฟังในโลกใบนี้ไม่น่าจะมีใครเชื่อ ถ้าเป็นจริงทำไมไม่ไปนั่งรอหน้าที่ขึ้นเงินกองสลาก รอคนถูกรางวัลแบ่งเงินให้ ไม่ต้องทำอาชีพอะไรแล้ว
หากมิจฉาชีพในคราบนักกฏหมาย ที่มีพฤติกรรมเอาแต่ตบทรัพย์ คนที่เดือดร้อนมาแล้วมันยังมาซ้ำเติมแบบนี้ พฤติกรรมหาด้านดีๆใดๆไม่เจอ หากยังลอยนวลอยู่ในสังคม เราจะอยู่กันยังไง แล้วสังคมเราจะยังเจอพ่อพระใจบาปที่อยู่ในคราบนักบุญอีกกี่คน
เมื่อ 1 ใน 8 ทนาย เป็นอเวนเจอร์ แห่งการหลอกลวง
ไม่รู้เหมือนกันว่า เรามีคนเช่นนี้แอบอาศัยอยู่ในสังคมไทยมากแค่ไหน พวกที่พยายามสร้างภาพ อยู่คราบนักบุญ อาศัยจังหวะตบทรัพย์เหยื่อ คงต้องรอจังหวะน้ำลด ตอจึงผุด ผู้เสียหายจึงกล้าที่จะมาจองกฐิน คดีดาราตกเรือ คนบนเรือรู้จักทนายดัง คิดว่าสามารถช่วยทำคดีอย่างตรงไปตรงมาได้ เล่าเหตุการณ์ให้ฟังตามความเป็นจริง ปรากฏว่าต้องหน้าหงาย ทนายแสดงตัวตนที่แท้จริงออกมา ให้จบง่ายๆก็ต้องให้ใครยอมรับผิดสักคน พอไม่รับข้อเสนอไม่ว่าจ้าง ก็ยังไปพยายามรับงานฝ่ายตรงข้าม แถมโพสต์บอกว่าไม่รับว่าจ้างคนบนเรือ ทั้งๆที่มันต่างห่างที่เขาไม่จ้างเพราะไม่ยอมว่าความตามความจริงให้
ยังไม่พอ มีหญิงต้องการจ้างฟ้องหย่าสามี เรียกเงินทันที10ล้าน บอกจะไปให้นายช่วย คดีจะได้จบง่าย จ่ายไปแล้ว1ปีไม่ยอมฟ้องหย่าให้ อ้างไปว่าถ่ายรูปคู่ไปแล้ว เขาจะกลัวหย่าให้เอง หากจะให้ฟ้องหย่าให้จริง ต้องจ่ายเพิ่มมาอีกเกือบล้าน ทั้งๆที่ลูกความป่วยเป็นโรคซึมเศร้ารักษามานาน ยังต้องไปกู้เงินมาเพื่อจ่ายให้ สุดท้ายก็ได้แค่ภาพถ่ายรูปเดียว ไม่ทำอะไรให้เลย
หลอกลงทุน เศรษฐีนีใจบุญ ผู้มีบุญคุณ ให้เงินเดือนสูง พาไปเที่ยวตปท.กินหรูอยู่ฟรี ใจดีขนาดนี้ยังหลอกกันได้ลง หลอกให้ลงทุนเกือบร้อยล้าน พอถูกทวงถามเพราะงานไม่คืบ มันบอกว่าให้เงินเองด้วยเสน่หาหน้าตาเฉย ทำงงกันทั้งโลก ลูกผัวก็ไม่ใช่ อ้างแค่ว่าคนถูกหวยรางวัลใหญ่แพ้ทาง เหมือนลุงจรูญ เศรษฐีใจบุญถูกหวยแจ็คพอต คนถูกหวยเวลาได้มาอยู่ใกล้ จะเกิดอาการระริกระรี้อยากให้ตังค์ ไปอธิบายให้ใครฟังในโลกใบนี้ไม่น่าจะมีใครเชื่อ ถ้าเป็นจริงทำไมไม่ไปนั่งรอหน้าที่ขึ้นเงินกองสลาก รอคนถูกรางวัลแบ่งเงินให้ ไม่ต้องทำอาชีพอะไรแล้ว
หากมิจฉาชีพในคราบนักกฏหมาย ที่มีพฤติกรรมเอาแต่ตบทรัพย์ คนที่เดือดร้อนมาแล้วมันยังมาซ้ำเติมแบบนี้ พฤติกรรมหาด้านดีๆใดๆไม่เจอ หากยังลอยนวลอยู่ในสังคม เราจะอยู่กันยังไง แล้วสังคมเราจะยังเจอพ่อพระใจบาปที่อยู่ในคราบนักบุญอีกกี่คน