ทดสอบความเร็วอินเทอร์เน็ต 6G เร็วกว่า 5G ถึง 9,000 เท่า ดาวน์โหลดหนัง 20 เรื่องได้ในพริบตา
ทีมนักวิจัย Zhixin Liu จาก University College London ทดสอบการส่งข้อมูลไร้สายผ่านโครงข่าย 6G ให้มีความเร็วสูงขึ้นอย่างน่าทึ่ง โดยผลการทดสอบชี้ให้เห็นว่าความเร็วของอินเทอร์เน็ต 6G นั้นเร็วสูงถึง 938 Gbps (Gigabits per second) ซึ่งหากเทียบกับความเร็วของโครงข่าย 5G ดี ๆ ที่มักใช้กันในสมาร์ตโฟนซึ่งจะอยู่ที่ราว ๆ 200 Mbps เรียกได้ว่า 6G สามารถเร็วกว่า 5G ได้เกือบ 9,000 เท่า หรือสามารถดาวน์โหลดวิดีโอความละเอียดสูงจำนวน 20 เรื่องได้ภายในเวลาเพียง 1 วินาทีเท่านั้น
.
โดยการทดสอบนี้ใช้การผสมผสานคลื่นวิทยุ และการสื่อสารด้วยแสงในช่วงความถี่ที่กว้างที่สุดเท่าที่เคยบันทึกไว้ ตั้งแต่ 5 GHz ถึง 150 GHz ซึ่งทีมวิจัยได้ใช้การส่งสัญญาณไร้สายแบนด์วิดท์ 145 GHz ด้วยรูปแบบ Orthogonal Frequency-Division Multiplexing (OFDM) ในการทดสอบ
.
ซึ่งคาดว่าการวิจัยครั้งนี้เกิดจากความต้องการพัฒนาเทคโนโลยีการสื่อสารให้ก้าวล้ำไปอีกขั้น เพื่อรองรับการใช้งานเทคโนโลยีต่างๆ ที่มีความซับซ้อน และต้องการแบนด์วิดท์สูงขึ้นเรื่อยๆ ในอนาคต เช่น การใช้คลื่นความถี่ที่สูงขึ้น การพัฒนาอัลกอริทึมใหม่ และการออกแบบฮาร์ดแวร์ เป็นต้น
.
ทำให้เห็นว่าเทคโนโลยี 6G สามารถส่งข้อมูลได้ด้วยความเร็วสูง ซึ่งเร็วกว่าเทคโนโลยี 5G ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ที่มีความเสถียร และมีความหน่วงที่ต่ำ ส่งผลให้การใช้งานต่างๆ เป็นไปอย่างราบรื่นแบบไม่มีสะดุดนั่นเอง
เครดิต Tech Movement
ข่าวเทคโนโลยี ทดสอบความเร็วอินเทอร์เน็ต 6G เร็วกว่า 5G ถึง 9,000 เท่า
ทีมนักวิจัย Zhixin Liu จาก University College London ทดสอบการส่งข้อมูลไร้สายผ่านโครงข่าย 6G ให้มีความเร็วสูงขึ้นอย่างน่าทึ่ง โดยผลการทดสอบชี้ให้เห็นว่าความเร็วของอินเทอร์เน็ต 6G นั้นเร็วสูงถึง 938 Gbps (Gigabits per second) ซึ่งหากเทียบกับความเร็วของโครงข่าย 5G ดี ๆ ที่มักใช้กันในสมาร์ตโฟนซึ่งจะอยู่ที่ราว ๆ 200 Mbps เรียกได้ว่า 6G สามารถเร็วกว่า 5G ได้เกือบ 9,000 เท่า หรือสามารถดาวน์โหลดวิดีโอความละเอียดสูงจำนวน 20 เรื่องได้ภายในเวลาเพียง 1 วินาทีเท่านั้น
.
โดยการทดสอบนี้ใช้การผสมผสานคลื่นวิทยุ และการสื่อสารด้วยแสงในช่วงความถี่ที่กว้างที่สุดเท่าที่เคยบันทึกไว้ ตั้งแต่ 5 GHz ถึง 150 GHz ซึ่งทีมวิจัยได้ใช้การส่งสัญญาณไร้สายแบนด์วิดท์ 145 GHz ด้วยรูปแบบ Orthogonal Frequency-Division Multiplexing (OFDM) ในการทดสอบ
.
ซึ่งคาดว่าการวิจัยครั้งนี้เกิดจากความต้องการพัฒนาเทคโนโลยีการสื่อสารให้ก้าวล้ำไปอีกขั้น เพื่อรองรับการใช้งานเทคโนโลยีต่างๆ ที่มีความซับซ้อน และต้องการแบนด์วิดท์สูงขึ้นเรื่อยๆ ในอนาคต เช่น การใช้คลื่นความถี่ที่สูงขึ้น การพัฒนาอัลกอริทึมใหม่ และการออกแบบฮาร์ดแวร์ เป็นต้น
.
ทำให้เห็นว่าเทคโนโลยี 6G สามารถส่งข้อมูลได้ด้วยความเร็วสูง ซึ่งเร็วกว่าเทคโนโลยี 5G ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ที่มีความเสถียร และมีความหน่วงที่ต่ำ ส่งผลให้การใช้งานต่างๆ เป็นไปอย่างราบรื่นแบบไม่มีสะดุดนั่นเอง
เครดิต Tech Movement