บ่น+ถามวัยทำงาน/ผู้มีประสบกรณ์ เรียนคณะอะไรดี ที่ไม่ตกงานแน่ๆ เงินเดือนดี (50k-100k+) อนาคตเติบโตสูง

(ขอแก้เนื้อหา) ไม่คิดว่าจะ viral ข้าม platform เม้นไปไกลกว่าที่คิด เพจเฟส pantip เอาไปแชร์แล้วบางเม้นเป็น troll & judmental  + ชื่อกระทู้ชัดๆคือ*บ่น*เลยมีข้อมูล personal ปนมา เจตนาแรก=บ่น+อยากฟังข้อมูล insight ศึกษาเพิ่มจากคนมีประสบการณ์ พอเริ่มมีโทรลเลยขอลบข้อมูลบางส่วน protect ตัวเอง //คำถามเหมือนเดิม, คอนดิชั่นอายุ 20 ปี เรียนมหาลัย สับสนเส้นทาง ไม่เคย gap year ยังไม่ค้นพบว่าชอบอะไร รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเป็นเป็ด รู้สึกว่ายังไม่รู้อะไรอีกเยอะ perspective ยังไม่กว้างพอ ขอบคุณสำหรับพี่ๆที่เข้าใจ ตอบตรงคำถาม แนะนำแชร์ประสบการณ์ career path, แนะนำเรื่องวิธีการคิดให้ต่อยอด
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 29
อย่าเรียนอะไรที่มันจบง่าย แค่นั้นเลย บนโลกนี้ไม่มีอาชีพอะไร มั่นคง 100% แต่มันจะถูก upgrade และ แทนที่ไปเรื่อยๆ ยกตัวอย่างหาได้ง่าย
สมัยก่อนหมอตำแย สมัยนี้หมอสูติ?? นั่นเอง

เคยได้ยินคำว่า เหนื่อยวันนี้สบายวันหน้าไหมหละ นั่นแหละสาเหตุที่ทำไมต้องเรียนให้เหนื่อย เพราะอะไร ให้คิดสะว่า มันเรียนยากจนคนถอดใจไม่ไหวแล้วโว้ยยยยยย จะซิ่ว that's the main point มันจะไม่มีคนอยากเรียนแล้วพอตลาดงานมันต้องการ นั่นแหละคุณจะมีงาน

ส่วนวิชาไหนเรียนง่าย ยกตัวอย่าง นิเทศน์ทั้งหลายสมัยก่อนคนอยากเป็นดารา ก็เรียนแต่สาขานี้แหละ เรียนจนเกลื่อนเลย ปัจจุบันเป็นไง influ ทั้งหลาย เรียนไม่จบตรงสายสักคน แต่ก่อนเรียนงานตัดต่อเอง PS สมัยนี้ AI แม้มหมดเลย

แต่ก็อย่าไปเรียนยากที่ประเทศไม่ต้องการ แบบวิทย์ pure science จ๋าเพราะ ไทยเราไม่ใช่ประเทศของนักวิทย์ อาชีพสายวิชาการถ้าไม่โดดเข้าวงการราชการ หรือ ไปเรียนต่อนอกแบบไปให้สุดยัน ป.เอก มาเป็นอาจารย์มหาลัย อย่าคิดจะเรียน เพื่อนเราเรียน ป.โท ป.เอก ต่อดยอดหมดสำหรับสายนี้จบมาก็มหาลัยจองตัว เพื่อเอาสิ่งที่คนธรรมดาจบตรีไม่เพียงพอ

สังเกตุดูอาชีพที่เงินเดือนสูง หรือ ตกงานยาก หรือ มีงานเสมอเพราะ คนมันจะเรียนไม่ไหวจริงๆ บางสาขาเรียนด้วยภาษาอังกฤษหมดเลย text eng ล้วน หรือ ใช้สมองระดับเทพโอลิมปิค ก็ลองดูพวกเด็กเตรียมอุดมดูก็ได้มันชอบสอบอะไร อาชีพพวกนี้มักจะไม่ตกงานทุกครั้งเลย

ยุคต่อไป คือ ยุค AI replacement งานที่ไปก่อนพวกก็คือ งานที่คนธรรมดาก็ทำได้ใครก็ทำได้ เช่น ตัดต่อภาพเจอพลัง AI เข้าไปเป็นไงหละ นั่นแหละ AI จะกินตั้งแต่ตลาดงานข้างล่างไปเรื่อยๆ จนกว่าจะถึงข้างบนครับ ดังนั้น เราต้องรู้จักการอยู่บนยอด pyramid ให้เป็นนะครับ ถ้าอยากมั่นคง 100% คิดแบบคนธรรมดารอดยากแล้วครับ เด็กสมัยใหม่มาคิดเรียนแบบ indy ไม่รอดหรอก ต้องเลือกเรียนให้ฉลาดเลยแหละ

หลายอาชีพก็น่าจะเห็นแล้วนะครับว่า AI แทบจะไปกระทืบงานหลายสาขาระดับข้างล่างแล้ว

คุณสมบัติที่ว่ามีดังนี้ ที่อาชีพทั่เสี่ยงตกงานต่ำ มักจะมี
1. ใช้ทุนเรียนสูงมาก มีนานาชาติอินเตอร์
2. เรียนจบยาก มีน้อยคนเรียนได้ไหว แค่ความอดทนอาจจะไม่พอให้เรียนไหวเสมอไป
3. มีแต่เด็กฉลาดเรียน มีหัวกระทิแย่งสอบ ก็เลยมีการแข่งขันทางวิชาการสูง เพื่อหาคนที่เป็น the best เข้าเรียนต่อ
4. มีการพัฒนาตัวเองในการทำงานสูง มีสายงานต่อยอดได้ มีให้เรียนต่อยอดได้ หรือ แค่ทำงานก็ได้พัฒนาทักษะใหม่ตลอดเวลา
5. งานใช้ภาษาอังกฤษ จีน เอาภาษาที่มีคนใช้เยอะหลากหลายหน่อย

จะอาชีพไหนก็ตาม จะหมอ จะแพทย์ จะนักบิน จะไอที จะบัญชี จะวิศวะ ถ้าสังเกตุดีๆ อาชีพที่ดีไม่เสี่ยงตกงาน มี 4-5 คุณสมบัตินี้ในอาชีพหมดครับ แทบจะเป็นสิ่งที่ ทุกคนต้องรู้ได้แล้วหละครับว่า

การจะเงินเดือนสูง คุณต้อง special มาก ยิ่งมากเท่าไหร่ ยิ่ง value สูง ยิ่ง value สูงเงินเดือนที่จ้าง จะเทียบกับ ค่าเทอมเเฉลี่ย เกลี่ยไปกับอายุงานและความสามารถ

สมมุติหมอเรียนจบสูงๆ ใช้ทุนเรียนประมาณ 1 ล้านบาท จะให้จบมาเงินเดือน 18K มันไม่มีใครอยากเรียนหรอก บริษัทก็จะรู้ว่าทุนพวกนี้กว่าจะเรียนจบมันสูง ก็ต้อง start 30-50K อะไรทำนองนี้

ยิ่งมัน ครบทุกคุณสมบัติ เพราะมันแสดงถึงความ หายากมาก มันถึงมีความต้องการสูง และ มีทักษะที่สูงผิดมนุษย์ปกติทำได้ ยิ่งไปวันข้างหน้าอาจจะต้องเรียน 3 ภาษาก็ได้นะครับ เช่น

ภาษาคอม เพื่อใช้เครื่องมือในคอมพิวเตอร์
ภาษา global จีน อิ้ง เพื่อสื่อสารกว้างขวาง
ภาษาถิ่น เพื่อสื่อสารกันเอง

เราก็โตมาจากพ่อแม่ที่ทำงานแค่รับจ้างทั่วไป เป็นคนแรกเลยที่จบปริญาตรี แต่ต่อยอดจากป.ตรี ให้ออกไปทางอินเตอร์ให้ได้มากสุด หาเรียนเองไม่ผ่านหลักสูตร ก็ขวญขวายหาอ่านตาแตกนะครับกว่าจะได้มาแต่ละทักษะ สามารถทำงานต่างชาติได้ หรือ ไปต่างประเทศได้ สายงานที่เราเรียนจบมามันไม่ต่อ ป.โทกันเป็นเรื่องปกติ เพราะ ป.ตรี ก็เพียงพอต่อยอดเองแล้ว

แล้วเราเข้าใจแก่นแท้เลยว่า การที่เราเป็นรุ่นแรกสุดที่จบสายตรง จบมหาลัย มันต่างจากคนที่พ่อแม่เขาเรียนจบ Dr. มาเยอะมากเพราะเหมือนเราเรียนช้ากว่าเขาครับ พ่อแม่พวกนี้เขารู้เลยว่าต้องส่งลูกเรียนอะไร โดยไม่ต้องสน gap year เราไม่รู้ก็เลยรู้ช้ากว่าเขามาเยอะเลย ทุนชีวิตก็จำกัดจะตายไป

ก็เลยต้องทำงานที่เน้นไปตลาดการจ้างงาน ทั่วโลก กว้างขวางกว่า โอกาศก็จะเยอะมากขึ้นในการก้าวกระโดด ทุกคนสามารถจ้างเราได้ถ้าโอเครกับการทำงานข้ามประเทศ(remote) หรือ ขอวีซ่าได้ก็ไปได้ง่าย เพราะถ้าคิดหางานจบมาแค่ไทย ใช้แต่ภาษาไทยใช่ไหมครับ เราก็ถูกจำกัดความคิดไว้แค่ ทำอาชีพในไทยเท่านั้น แย่งงานกันเอง แต่ทั่วโลกมีงานเยอะมากที่ยังมีคนไม่เพียงพอเราก็ไปเติมที่ส่วนนั้นได้ถ้าโอกาศมันมา
ความคิดเห็นที่ 7
คุณควรตั้งเป้าหมายใหม่ เพราะไม่มีงานอะไรที่การันตีเงินให้คุณแบบนั้น

ในโลกความจริง
ถ้าคุณไม่เก่ง ก็จะกลายเป็นที่ไม่ต้องการได้ในทุกงาน
ถ้าคุณไม่มีความเป็นมืออาชีพในการทำงาน ก็จะไม่สามารถทำงานอะไรได้ดีเลย  

ทั้งนี้ ถ้าคุณทำอะไรได้โดดเด่น คุณสามารถร่ำรวยได้จากหลายอาชีพเลยค่ะ ต่อให้อยู่วงการผลิตไม่จิ้มฟัน ถ้าคุณเก่ง ถนัด เป็นเจ้าของโรงงาน ก็มีโอกาสรวยได้ค่ะ

ในส่วนทักษะการอยากเรียนรู้ เป็นเรื่องที่ดีสำหรับทุกอาชีพค่ะ แต่ไม่ใช่ทักษะหลัก ถ้างานพยาบาลไม่ชอบจริงๆ คุณก็ต้องหางานที่เนื้องานใช้ทักษะหลักที่คุณถนัดค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่