หนุ่มเชียงรายโร่แจ้งความ "The iCON" ทำครอบครัวแตกแยก พ่อเครียดแขวนคอดับ
19 ต.ค. 2567 ,12:59น.
หนุ่มเชียงรายรุดไป สภ.บ้านดู่ เข้าแจ้งความ "The iCON" ทำครอบครัวแตกแยก พ่อเครียดหนีไปอยู่วัดก่อนแขวนคอดับ ตน-น้องสาวไม่ได้เรียนต่อ
จากกรณีที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สั่งการให้แต่ละสถานีตำรวจเปิดจุดบริการรับแจ้งความในกรณีของ ดิไอคอนกรุ๊ป (The iCON Group) โดยเฉพาะนั้น
ล่าสุด ช่วงค่ำวันที่ 18 ตุลาคม ที่ สภ.บ้านดู่ อ.เมืองเชียงราย นายพงษ์พันธ์ อายุ 23 ปี บุตรชายของหนึ่งในผู้เสียหายจากบริษัทดังกล่าว นำหลักฐานเดินทางมาพบ พ.ต.อ.อานันท์จักร์ กนกนพวัชร์ ผกก.สภ.บ้านดู่ เพื่อร้องทุกข์ โดยทางผู้กำกับก็ได้ให้ ร.ต.อ.เมที หน่อแก้ว รอง สว. (สอบสวน) สภ.บ้านดู่ เป็นผู้รับแจ้งความ
นายพงษ์พันธ์ กล่าวว่า พ่อของตนได้นำเอาเงินเก็บไปลงทุนในธุรกิจดิไอคอน โดยมีภาพหลักฐานการไปร่วมทำกิจกรรม และยังมีภาพถ่ายคู่กับบอสพอลอีกด้วย ซึ่งหลังจากพ่อเข้าไปลงทุนกับบริษัทดังกล่าวเมื่อปี 2560 ก็ได้มาชักชวนแม่ อา รวมถึงญาติพี่น้องคนอื่นให้ร่วมลงทุน และมีการลงทุนเพิ่มเรื่อย ๆ
จากที่เคยมีเงินเก็บ มีบ้าน มีรถยนต์ 3 คัน กลับกลายว่าทุกอย่างสูญไปกับการลงทุนของพ่อ จนมาระยะหลังพ่อกับแม่ก็ทะเลาะกันเรื่องที่พ่อไปลงทุนดังกล่าว จนครอบครัวมีปัญหาการเงิน ตนและน้องสาวเลยไม่ได้เรียนต่อ สุดท้ายแม่จึงขอหย่ากับพ่อ จากนั้นพ่อไปอาศัยอยู่ที่วัดใกล้บ้าน ก่อนแขวนคอเสียชีวิตในวัด เมื่อช่วงเดือนเมษายน 2563 ขณะอายุได้ 56 ปี
นางพงษ์พันธ์ กล่าวว่า ตอนนั้นตนยังเด็ก ไม่รู้ว่าพ่อไปทำธุรกิจอะไรจนนำมาสู่ปัญหาชีวิต และแม่ก็ไม่เคยเล่าปัญหาให้ฟัง เพราะตอนนั้นแม่อยากให้พวกเราตั้งใจเรียนหนังสือ จนกระทั่งไม่นานมานี้มีการนำเสนอข่าวดิไอคอน ตนจึงจำได้ว่าเคยเห็นภาพของพ่อตอนไปร่วมกิจกรรม และมีภาพตอนพ่อถ่ายรูปร่วมกับบอสพอล
ตนจึงคิดว่าการเข้าสู่ธุรกิจดังกล่าวอาจเป็นชนวนเหตุพาไปสู่ปัญหาชีวิต เพราะปัญหาอย่างอื่นคงไม่ทำให้พ่อคิดสั้นแบบนี้ ประกอบกับหลังจากมีข่าวดิไอคอน ทางอาของตนได้บอกตนว่าพ่อของตนเคยชักชวนอาให้เอาเงินไปลงทุนกับดิไอคอนเหมือนพ่อ
ตนจึงรวบรวมหลักฐานมาแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับบริษัทดังกล่าว หลังจากนี้ตนจะไปรวบรวมหลักฐานเพิ่มเติม และจะนำมาส่งมอบให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกครั้ง และตั้งใจจะเดินหน้าดำเนินคดีกับบริษัทขายตรงดังกล่าวให้ถึงที่สุด
หนุ่มเชียงรายโร่แจ้งความ "The iCON" ทำครอบครัวแตกแยก พ่อเครียดแขวนคอดับ
19 ต.ค. 2567 ,12:59น.
หนุ่มเชียงรายรุดไป สภ.บ้านดู่ เข้าแจ้งความ "The iCON" ทำครอบครัวแตกแยก พ่อเครียดหนีไปอยู่วัดก่อนแขวนคอดับ ตน-น้องสาวไม่ได้เรียนต่อ
จากกรณีที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สั่งการให้แต่ละสถานีตำรวจเปิดจุดบริการรับแจ้งความในกรณีของ ดิไอคอนกรุ๊ป (The iCON Group) โดยเฉพาะนั้น
ล่าสุด ช่วงค่ำวันที่ 18 ตุลาคม ที่ สภ.บ้านดู่ อ.เมืองเชียงราย นายพงษ์พันธ์ อายุ 23 ปี บุตรชายของหนึ่งในผู้เสียหายจากบริษัทดังกล่าว นำหลักฐานเดินทางมาพบ พ.ต.อ.อานันท์จักร์ กนกนพวัชร์ ผกก.สภ.บ้านดู่ เพื่อร้องทุกข์ โดยทางผู้กำกับก็ได้ให้ ร.ต.อ.เมที หน่อแก้ว รอง สว. (สอบสวน) สภ.บ้านดู่ เป็นผู้รับแจ้งความ
นายพงษ์พันธ์ กล่าวว่า พ่อของตนได้นำเอาเงินเก็บไปลงทุนในธุรกิจดิไอคอน โดยมีภาพหลักฐานการไปร่วมทำกิจกรรม และยังมีภาพถ่ายคู่กับบอสพอลอีกด้วย ซึ่งหลังจากพ่อเข้าไปลงทุนกับบริษัทดังกล่าวเมื่อปี 2560 ก็ได้มาชักชวนแม่ อา รวมถึงญาติพี่น้องคนอื่นให้ร่วมลงทุน และมีการลงทุนเพิ่มเรื่อย ๆ
จากที่เคยมีเงินเก็บ มีบ้าน มีรถยนต์ 3 คัน กลับกลายว่าทุกอย่างสูญไปกับการลงทุนของพ่อ จนมาระยะหลังพ่อกับแม่ก็ทะเลาะกันเรื่องที่พ่อไปลงทุนดังกล่าว จนครอบครัวมีปัญหาการเงิน ตนและน้องสาวเลยไม่ได้เรียนต่อ สุดท้ายแม่จึงขอหย่ากับพ่อ จากนั้นพ่อไปอาศัยอยู่ที่วัดใกล้บ้าน ก่อนแขวนคอเสียชีวิตในวัด เมื่อช่วงเดือนเมษายน 2563 ขณะอายุได้ 56 ปี
นางพงษ์พันธ์ กล่าวว่า ตอนนั้นตนยังเด็ก ไม่รู้ว่าพ่อไปทำธุรกิจอะไรจนนำมาสู่ปัญหาชีวิต และแม่ก็ไม่เคยเล่าปัญหาให้ฟัง เพราะตอนนั้นแม่อยากให้พวกเราตั้งใจเรียนหนังสือ จนกระทั่งไม่นานมานี้มีการนำเสนอข่าวดิไอคอน ตนจึงจำได้ว่าเคยเห็นภาพของพ่อตอนไปร่วมกิจกรรม และมีภาพตอนพ่อถ่ายรูปร่วมกับบอสพอล
ตนจึงคิดว่าการเข้าสู่ธุรกิจดังกล่าวอาจเป็นชนวนเหตุพาไปสู่ปัญหาชีวิต เพราะปัญหาอย่างอื่นคงไม่ทำให้พ่อคิดสั้นแบบนี้ ประกอบกับหลังจากมีข่าวดิไอคอน ทางอาของตนได้บอกตนว่าพ่อของตนเคยชักชวนอาให้เอาเงินไปลงทุนกับดิไอคอนเหมือนพ่อ
ตนจึงรวบรวมหลักฐานมาแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับบริษัทดังกล่าว หลังจากนี้ตนจะไปรวบรวมหลักฐานเพิ่มเติม และจะนำมาส่งมอบให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกครั้ง และตั้งใจจะเดินหน้าดำเนินคดีกับบริษัทขายตรงดังกล่าวให้ถึงที่สุด