ยุติการตั้งครรภ์ไม่บอกสามี

เราอายุ27 คบกับผู้ชายคนหนึ่งได้ประมาณ3 เดือนค่ะ พลาดท้องค่ะตอนแรกเรารู้ตัวว่าท้องไม่พร้อมเราจะเอาออก
ไม่ดราม่านะคะว่าทำไมไม่ป้องกันพอท้องก็จะเอาออกป้องการแล้วยังไงพลาดได้ค่ะ พอบอกผู้ชายผู้ชายบอกพร้อม
จะรับผิดชอบ พร้อมกับขอร้องเราอย่าไปทำแท้งเราเครียดมากเพราะ รู้จักกันแค่สามเดือนมันไวมาก เรายังไม่รู้จักกัน
ดีพอ ปากผู้ชายก็บอกรักเราพร้อมจะดูแลเรา แต่เราก็กังวลมากเพราะยังไม่รู้จักกันดีพอ เราตัดสินใจจะเเอาออก
เราไปหาหมอตรวจอายุครรภ์ ได้8 สัปดาห์พอดี ซึ่งเป็นการ อัลตร้าซาวด์ครั้งแรกตั้งแต่ครั้งแรกที่เกิดมาเราได้เห็น
ถุงตั้งครรภ์และตัวอ่อนที่อยู่ในท้อง คุณหมอให้เราฟังเสียงลมหายใจของน้อง เป็นสิ่งที่มหัศจรรย์มากสำหรับเรา
เรามีความสุขอย่างบอกไม่ถูก จากความคิดอยากจะทำแท้งก็ไม่อยากอีก เพราะเราเคยมีปัญหาสุขภาพมาก่อน
เราเคยคิดใหม่ในเมื่อผู้ชายก็พร้อมจะรับผิดชอบทำไมต้องทำร้ายลูกที่ไม่มีความผิดอะไรด้วยเราตัดสินใจเก็บน้องเอาไว้
เราทั้งคู่ได้คุยกันว่าจะมาทำทุกอย่างให้ถูกต้อง พ่อแม่เราตกใจมากเสียใจมากที่อยู่ๆลูกสาวก็ท้องแถมยังจะแต่งงาน
กับคนที่เพิ่งรู้จักได้สามเดือนที่สำคัญยังเป็นคนจีนอีก แถมอายุมากกว่าเราอีก 12ปี พ่อแม่เราก็ต้องยอมรับเพราะว่าเราท้อง
ต้องบอกก่อนว่าเราสองคนยินยอมแต่งงานโดยไม่ได้มีใครบังคับทั้งแฟนและเรา พ่อกับแม่ได้หา ฤกษ์แต่งงานให้เราสองคน
ในระหว่างนั้นเราได้ไปอยู่ชั่วคราวกับแฟนก่อน เป็นช่วงเวลที่เราได้เห็นธาตุแท้ของผู้ชายคนนี้ วันแรกที่ไปถึงก็ร้องจนแทบอยากตาย
เค้าเรียกเพื่อนมาดื่มด้วยกันเมากันจนเละเทะ เค้าเรียกให้เราไปนั่งด้วย แล้วพูดว่าในอนาคตคุณต้องเป็นคนดูแลฉันสิ
ไม่ใช่ฉันดูเทอ เทอมันไร้ประโยชน์ทำอะไรก็ไม่ได้ แค่ดูแลฉันยังทำไม่ได้เค้าพูดทั้งทบโต๊ะไปด้วยอย่างแรงเค้าในตอนนี้อารมณ์น่ากลัวมาก
ฉันที่พึ่งเห็นครั้งแรก ทั้งกลัวทั้งตกใจทั้งเสียใจ ด้วยความที่เราแพ้ท้องอย่างหนักทำให้เราอ่อนแอและไม่มีแรงเลย เราเอาแต่ร้องไห้
ที่เสียใจมากกว่านั้นคือ เค้าด่าเราต่อหน้าเพื่อนเค้าไม่ให้เกียรติเรา เราแอบกลัวแล้วว่า ผู้ชายคนนี้จะรักเราจริงหรอแต่เพื่อลูกในท้อง
เราอดทนและคิดและเป็นเพราะเค้าเมา แต่วันแล้ววันเล่าชีวิตของเค้าก็มีแต่เหล้า ชีวิตของเค้ามีอยู่แค่สองอย่าง กลางคืนไม่นอนเมาจนเละ
เช้ามาไม่ตื่น ตื่นคือพร้อมจะไปดื่มต่อ วันแล้ววันเล่าฉันใช้ชีวิตอย่างทรมานกับเค้าทุกคืนที่เค้าเมาก็จะมาชวนทะเลาะและดูถูกฉัน
บอกว่าฉันแค่ท้องนะ ไม่ได้พิการเค้าเห็นผู้หญิงคนอื่นท้องแต่ยังทำงานได้ไม่เหมือนฉัน ฉันทำไมอ่อนแอขนาดนี้แค่ดูแลเค้าทำไมทำไม่ไได้
และบางครั้งเค้าก็มักจะพยายามพาฉันไปข้างนอกกับเค้าดึกดื่น ฉันไม่รู้คนอื่นเป็นยังเวลาท้องแต่เรา ยอมรับว่าอาการหนักจริง กินไปไม่ทันไร
อ้วกออกมาหมด ไม่กินก็หิว ไม่มีแรงเพลียเวียนหัว อยากนอนตลอดเวลา ไม่มีแรงจะทำอะไร เราไม่อยากออกไปไหนกีบเค้าเพราะว่าเค้าแค่ไปดื่ม
เรามองว่าไม่มีความจำเป็นที่เราต้องไป แต่เค้าก็โกรธอีก วันๆเอาแต่อยู่ในห้อง ไม่ทำอะไร เราก็ไม่รู้จะไปไหนจริงๆ ลงไปอยู่ชั้นล่างก็มีแต่ กลิ่นบุหรี่
กลิ่นบุหรี่ชนิดที่คนจีนสูบคือเหม็นมาก และเป็นอันตรายต่อลูกในท้องฉันด้วย ฉันใช้ชีวิตอย่างยากลำบากทุกวัน กินไม่ได้นอนไม่หลับ หิวก็ไม่มีอะไรให้กิน
เพราะที่ตลาดอยู่ไกล ไม่มีเดลิเวอรี่อีก  ฉันทนร้องไห้ทุกวัน ร้องจนเหนื่อย และหลับไปในที่สุด และก็ต้องตื่นมาอีกครั้งเมื่อเค้ากลับมาตอนตี2 ททุกคืนเค้ามักจะมาปลุกฉันให้ตื่นมาคุยแล้วทะเลาะ บางครั้งเค้าก็จะเอาเซ็กส์จากฉันให้ได้ ฉันบอกไม่ได้เพราะอันตรายต่อลูกเค้าบอกว่าทำได้ ผู้ชายคคนนี้เห็น
แก่ตัวมาก พอฉันไม่ให้เค้าก็พาลใส่ฉัน ฉันต้องเจอสถานการณ์แบบนี้ทุกคืนนอนระแวงแบบนี้ทุกคืน จนฉันรู้สึกตัวเองกำลังป่วยจิตเป็นซึมเศร้า
ฉันไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากอดทนต่อไป จนในที่สุดใกล้งานแต่งมาเรื่อยๆ ฉันตัดสินใจบอกพ่อแม่ว่าจะไม่แต่งแต่พ่อแม่โกรธมาก บอกว่าเทอเป็นคน
เลือกเส้นทางนี้เอง ตอนนี้ญาติพี่น้องแขกต่างๆก็พากันมาแล้ว จะให้เอาหน้าไปไว้ที่ไหนได้อีก เราทำอะไรไม่ได้นอกจากร้องไห้จำใจแต่งและคิดว่าทำเพื่อลูก
ในงานแต่งมีแขกญาติพี่น้องมามากมาย ทุกคนต่างยินดีกับเราแต่เราไม่มีความสุขเลย เราอยากหนีไปจากตรงนั้น เราคิดแค่ว่าอดทนเพื่อลูก
หลังงานแต่งเรากับเค้าต้องย้ายไปอยู่อีกจังหวัดเพราะเค้าบอกว่าจะเริ่มต้นทำงานที่นั่น เค้าให้เราไปอยู่ที่โน้นด้วย เรากังวลว่าเราจะไปอยู่อดๆอยากๆออีกเราถามไปว่าที่มีที่อยู่มีร้านอาหารมั้ย มีห้องทำอาหารมั้ย มีบ้านมั่ย ฉันไปอยู่แล้วจะลำบากมั้ย เค้ามีทุกอย่าง เค้าให้ฉันลงไปอยู่ด้วยเพราะต้องการให้ฉันเรียนรู้งานซึ่งฉันก็เข้าใจพอไปถึง ฉันต้องไปนอนโรงแรมบ้านก็ไม่มี ฉันไปอยู่แบบ อดๆอยากๆอีกตามเคย ฉันรู้ว่าเค้าต้องทำงานฉันก็เห็นใจเค้า ฉันไม่ได้จะให้เเค้ามาเฝ้าเอาใจฉันทุกวันแต่เค้าไม่เคยทำหน้าที่พ่อเลย ทิ้งๆขว้างๆฉันปล่อยให้กินตามมีตามเกิด ไม่เคยให้เงินฉันถ้าไม่ขอ ถ้าขอก็จะถามว่าจะเอาเท่าไร
เอาไปใช้ทำอะไร ไม่เคยจะพาไปกินของอร่อย ไม่เคยใส่ใจ ไม่ใส่ไม่ว่า แต่ทำให้เราทุกข์ใจตลอด เค้าไม่ได้เตรียมความพร้อมจะเป็นพ่อคนเลย เราบอกให้เค้าดื่มน้อยๆลงเค้าก็ไม่เคยทำ วันหนึ่งเค้าบอกจะพาฉันไปดูบ้านพักที่เค้าหาใหั พอไปถึงฉันตกใจมาก นี่ยังเรียกว่าบ้านได้อีกหรอ บ้านสามชั้นสภาพคือ
เก่ามากไม่พอ ต้องอยู่รวมกับคนอื่นที่เราไม่รู้จักอีก ห้องครัวคือ อยู่รวมหมากับแมว ถ้วยชามกองจนขึ้นราที่สำคัญที่นั่นไม่มีตลาดไม่มีเซเว่น ชนบทมาก เรา
เป็นอะไรขึ้นมาไม่มีใครเห็นเลยนะ เพราะกลางคืนเค้าต้องออกไปอยู่แล้วเหลือแค่เรานอนคนเดียว บันไดบ้านคือสูงและชานมากห้องน้ำมีห้องเดียวอยู่ชั้น
ล่างถ้าเราท้องแก่ข้ึนมาเรื่อยๆจะขึ้นลงยังไงคือ ร้องไห้หนักมาก เราไม่ได้โลกสวยนะ เราก็เคยลำบากมาก่อนแต่สภาพนี้ แย่เกินกว่าจะรับได้จริงๆ แล้วเราก็ว่าเค้ามีเงินแต่แค่ไม่อยากลงทุนอะไรกับเราไม่อยากให้เงินเรา เราเลยพูดไปตรงๆว่าคุณไม่คิดจะหาที่อยู่เป็นหลักเป็นแหล่งให้ฉันอยู่เลยหรอ ฉันต้องมีบ้าน
ฉันต้องมีหมอนะ อีกหน่อยฉันจะคลอดจะทำยังไง เค้าบอกถึงตอนนั้นค่อยว่ากัน ฉันคือแตกสลายมากนี่คือสิ่งที่ฉันเลือกหรอ นี่คือสิ่งที่ฉันเชื่อใจเค้าไว้ใจเค้า
ฉันทะเลาะกับเค้าฉันบอกฉันอยู่ไม่ได้ เค้าโกรธมากเค้าบอกฉันไม่ได้เรื่องอะไรสักอย่าง ฉันหมดเรี่ยวแรงที่จะต่อสู้ทุกอย่างแล้วฉันบอกฉันขอไปอยู่ กรุงเทพได้มั้ย ฉันจะหาห้องเช่าถูกแต่ที่นั่นใกล้หมอ มีความสะดวกมีรถเมย์ มีรถไฟไฟ้า มีเดลี่เวอรี่ฉันจะไม่รบกวนเค้า เค้าอยากทำอะไรฉันจะไม่ว่าเค้าเลย
เพราะฉันเหนื่อยจะอยู่กับเค้า เค้าบอกฉันไม่คิดจะช่วยเค้าทำมาหากินหรอบางหรอ ฉันบอกว่าช่วยเค้าทำงานเป็นหน้าที่ของภรรยาอย่างฉันอยู่แล้ว
แต่ตอนนี้ฉันท้องต้องดูแลอีกชีวิตที่อยู่ในท้องนะ ต้องมีสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยกว่านี้ เพราะเค้าไม่ใส่ใจฉันเลยตั้งแต่มาอยู่กับ เค้าบอกถ้าฉันไปอยู่
กรุงเทพ เราก็จบกันกันเท่ากับหย่ากัน ฉันร้องไห้เสียใจมาก มองไปทางไหนก็มืดมนไปหมด เสียใจที่ทำให้ชีวิตตัวเองเป็นแบบนี้ ฉันเริ่มทบทวนตัวเอง
ฉันเริ่มหาทางออกให้ตัวเอง ฉันโทรหาพ่อแม่พร้อมกับบอกปัญหาทั้งหมด ฉันบอกพ่อว่าฉันอยากยุติการตั้งครรภ์ พ่อแม่ฉันบอกคุยกับสามีดีๆสิ
ถ้าจะทำให้บอกเค้าด้วยเค้าต้องรับรู้ด้วย ฉันรู้ว่าจะบอกเค้า เค้าต้องไม่ยอมให้ฉันทำ เค้าอยากได้ลูกแต่เค้ากลับยอมดูแลอะไรฉัน ฉันขอเค้าดีๆก็แล้ว
สำหรับเค้าแล้วฉันเป็นอะไรสำคัญมั้ย ฉันมีแค่หน้าที่คลอดลูกมาให้เค้างั้นหรอ ทำไมใจเค้าถึงไม่เคยอ่อนโยนกับฉันเลย จนในที่สุดฉันก็ตัดสินใจ
ยุติการตั้งครรภ์โดยไม่บอกเค้า ฉันบอกเค้าว่าฉันจะกลับไปอยู่กับพ่อแม่สักช่วง พอเค้าคิดว่าฉันจะไปอยู่บ้านไม่มีค่าใช้จ่ายอะไรเค้าก็เลยยอม
ทันทีฉันมาถึง กรุงเทพ ฉันกด 1663 ฉันปรึกษาจนได้ที่ปลอดภัย และยังอยู่ช่วงอายุครรภ์สามารถทำได้ แต่ฉันยังไม่ใจแข็งพอทึ่จะทำจริง ฉันนอนร้องไห้ทั้งคืนทบทวนทุกอย่าง ฉันรู้แล้วว่าอนาคตฉันจะเป็นยังไงฉันจะต้องลำบากแน่ ฉันยังไม่พร้อมที่จะมีเค้าเลย เพราะฉันไม่มีเงินเลย กว่าจจะคลอดและยังต้องเลี้ยงเค้าให้ดีมีอนาคตที่ดีไม่ใช่เรื่องง่ายเลย พ่อแม่ก็ลำบากฉันไม่อยากเป็นภาระให้ใคร ในเมื่อฉันเลือกเองก็ทำเองเจ็บเอง จนเช้าอีกวันฉันตัดสินใจไปถึง
โรงพยาบาลฉันก็ยังไม่บอกเค้า ฉันตั้งใจว่าจะบอกเค้าฉันแท้ง ฉันลงทะเบียนชำระค่ารักษาต่างๆ ทั้งหมดด้วยเงินก้อนสุดท้ายที่ฉันเหลือ ฉันเห็นสถานที่ทำจริง
ฉันกลัวและใจหายมาก แม้เค้าจะใจร้ายกับฉันมาตลอดแต่ทำไมฉันกลับคิดถึงเค้าขึ้นมา ฉันตัดสินใจลองโทรหาเค้าพร้อมกับโกหกว่าฉันแท้งคุกคาม 
ปรากฏว่าเค้าทั้งด่าทั้งโมโหฉันว่า ไร้ประโยชน์แค่รักษาลูกในท้องก็ทำไม่ได้เลย ไปทำอีกท่าไหนถึงได้แท้งได้ เค้าบอกตั้งแต่รู้จักกันจนถึงตอนนี้เค้าไม่โชคดี
เลย ฉันคือความเฮงซวยทั้งหมด ฉันที่ได้ฟังแบบนั้นก็ยิ่งเสียใจ จากที่คิดว่าจะลองคุยกับเค้าดีๆความรู้สึกดีๆไม่มีแล้ว ฉันแค่คิดว่าหากเค้าปลอบใจฉันสักนิดฉันจะไม่ทำเลย ฉันไม่ได้อยากทำเลย ขอพยาบาลนั่งคิดคนเดียว 1 ชั่วโมง เพื่อคุยกับเค้าแต่กลับไม่มีแม้แต่คำพูดดีๆให้ฉันเลยฉันได้ร้องไห้และตัดสินทำในที่สุดโดยที่เค้าก็เข้าใจว่าฉันแท้งจริงๆ เป็นความรู้สึกที่ทรมานและเจ็บปวดจริงๆทั้งเสียใจทั้งรู้สึกผิด ฉันใช้เวลาอยู่ โรงพยาบาล1 คืน หลังจากตื่นมาแล้วต้อง
ยอมรับความจริงพร้อมความเจ็บปวด ฉันร้องไห้แบบที่ไม่เคยร้องมาก่อนร้องแบบแทบขาดใจ กะจะตายไปตรงนั้นเลยแต่เพราะแม่โทรมาให้สติ บอกให้กลับบ้าน ฉันออกจาก หอบสังขารไร้วิญญาณ ขึ้นรถ ที่หมอชิตกลับบ้าน ( ใครอ่านจะด่ายังไงก็ได้ยอมรับผิดค่ะ แต่ไม่มีผู้หญิงคนไหนตั้งใจท้องแล้วไปทำแท้งหรอค่ะ) ฉันร้องจนถึงบ้าน ทันทีที่เห็นหน้าพ่อแม่เหมือนลมหายใจที่แผ่วเบาเริ่มมีแรงมีครั้งพ่อแม่โกรธแค่ไหนยังไงเราก็คือลูก กลับสู้อ้อมกอดพ่อแม่อีกครั้ง
ฉันใช้เวลาพักฟื้นที่บ้าน เกือบ 10 กว่าวัน เพราะฉันเสียเลือดเยอะ เค้าพยาบาลโทรหาฉัน ฉันไม่รับสายเค้า เพราะฉันหลับตาลงเมื่อไรก็เห็นแต่ภาพที่เค้า
ทำไม่ดีต่อฉัน มีแต่เสียงของเค้าตามหลอกหลอนฉันตลอด จนครบ5 วันฉันจึงตอบเค้าเป็นข้อความ เค้าต้องการเจอฉัน ฉันบอกไม่อยากเจอเค้าอีกต่อไป 
เค้าบอกไม่ได้เราเป็นผัวเมียกันนะ เค้าจะเอาฉันไปอยู่กับเค้าให้ได้ทั้งๆที่ไม่ได้รักฉันเลย ฉันถามเค้าว่าเค้าต้องการอะไรอีก ถ้าเค้าไม่พอใจที่ฉันไม่ยอมกลับไปอยู่กับเค้า ฉันจะคืนสินสอดให้ครึ่งหนึ่ง เพราะฉันก็เสียหาย แต่เค้าไม่ยอมเพราะคำว่าเสียเงินได้ไม่ว่า เสียหน้าไม่ได้ เค้าบอกเพื่อนๆเค้ารู้กันหหมดแล้วว่า
เค้าแต่งงานจะให้เค้าเอาหน้าไปไว้ที่ไหน เค้าบอกจะพาล่ามมาคุยกับพ่อแม่ฉันให้ได้ทั้งที่ก่อนหน้านั้นเค้าไม่เคยสนใจอะไรแม้กระทั้งงานแต่งไม่เคยคิดจะหาล่ามหรือญาติผู้ใหญ่มาเลยแล้วตอนนี้จะเอาล่ามมาคุยเค้าต้องการอะไรกันแน่ เค้าบอกเค้าไม่ได้ผิดอะไรเลย เค้ามั่นใจว่าพ่อแม่จะต้องเห็นด้วยกับเค้า
เค้าจะเอาฉันไปตรวจร่างกายเพื่อตรวจสอบให้แน่ชัด ว่าฉันทำอะไรไปบ้าง เรากังวลว่าเราและครอบครัวจะเดือดร้อน เพราะแอบทำแท้งโดยไม่บอกเค้า
ผู้หญิงที่เคยทำถ้าไปตรวจร่างกายเจอรู้มั้ยว่าเราตั้งใจทำ ไม่ได้แท้งโดยธรรมชาติ แม้เราและเราไม่ได้จดทะเบียนสมรสกันแต่เราก็กลัว ว่าเค้าอาจจะไม่พอใจ
มากถ้ารู้ความจริงแล้วจะเอากฏหมายเล่นงานเราและครอบครัว เราอยากรู้ว่าร่างกายเป็นของเรา ทั้งเค้าและเราไม่มีความพร้อม เราจึงตัดสินใจทำแบบนนี้แม้มันจะไม่ใช่ทางออกที่ดี แต่เราผิดตรงไหนที่เราไม่สามารถทนกับผู้ชายแบบนี้ได้อีก ใครมีคำแนะนำช่วยหน่อยค่ะ🙏🏻
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่