https://www.matichon.co.th/local/crime/news_4840144
เปิดหลักฐาน สคบ. มัด ดิไอคอน พบสงสัยรูปแบบทำธุรกิจ ส่งหนังสือ 3 หน่วยงานตรวจสอบตั้งแต่ปี’61
เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในรายการเจาะลึกทั่วไทย ดำเนินรายการโดยหมาแก่ และแมวสาว ทางช่อง 9 อสมท นั้น ได้มีการหยิบยกเรื่องเครือข่ายขายตรงออนไลน์ ของบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด ว่า เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2561 ซึ่งขณะนั้นระดับผู้อำนวยการกองคุ้มครองผู้บริโภค ด้านธุรกิจขายตรงสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ได้ทำหนังสือถึงเลขาฯ สคบ.ในขณะนั้น เพื่อรายงานข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการทำงานของดิไอคอนกรุ๊ป เพื่อให้ตรวจสอบการทำธุรกิจของบริษัทดังกล่าวเข้าข่ายการทำธุรกิจขายตรง สคบ. ปี 2522 หรือไม่ และเข้าข่ายแชร์ลูกโซ่หรือไม่ เนื่องจากได้รับการร้องเรียนจากประชาชน และมีการตรวจสอบพบว่า มีการทำธุรกิจแบบผิดปกติ โดยบริษัทดังกล่าวได้ตั้งนิติบุคคลขึ้นมา 1 มิ.ย.2561 มี กก.บริษัท 1 คน คือบอสพอล มีการยื่นหนังสือขอหารือการประกอบธุรกิจ 13 มิ.ย.61 แบบขายตรง
ทั้งนี้ หลังจากมีการส่งหนังสือดังกล่าวไปยังเลขาฯ สคบ.แล้ว ทางเลขาฯ สคบ.เห็นด้วยว่ามีความไม่ชอบมาพากลเกี่ยวกับลักษณะการทำธุรกิจ จึงได้ทำหนังสือ 3 ฉบับ เพื่อส่งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องภายนอกประกอบด้วย
1.สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กระทรวงการคลัง ให้พิจารณาว่าเข้าข่ายธุรกิจแชร์ลูกโซ่หรือไม่ เนื่องจากกระทรวงการคลังเป็นผู้ดูแลกฎหมายโดยตรง
Advertisement
2.ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผ่านทาง พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. เพื่อให้ดำเนินการเกี่ยวกับบริษัทดังกล่าว
3.ส่งถึงเลขาธิการอาหารและยา (อย.) เกี่ยวกับเรื่องการโฆษณาสินค้า
Advertisement
แต่ปรากฏว่าหลังส่งเรื่องออกไปแล้ว เรื่องดังกล่าวก็เงียบหายไป จนกระทั่งมาเจอปัญหาอย่างในปัจจุบัน
สคบ.ส่งหนังสือให้ 3 หน่วยงานเรื่องดิ ไอคอน ตั้งแต่ปี 61 แล้ว แต่ 2 หน่วยงานที่ไม่ตอบ จะมีความผิดไหมนะ?
เปิดหลักฐาน สคบ. มัด ดิไอคอน พบสงสัยรูปแบบทำธุรกิจ ส่งหนังสือ 3 หน่วยงานตรวจสอบตั้งแต่ปี’61
เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในรายการเจาะลึกทั่วไทย ดำเนินรายการโดยหมาแก่ และแมวสาว ทางช่อง 9 อสมท นั้น ได้มีการหยิบยกเรื่องเครือข่ายขายตรงออนไลน์ ของบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด ว่า เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2561 ซึ่งขณะนั้นระดับผู้อำนวยการกองคุ้มครองผู้บริโภค ด้านธุรกิจขายตรงสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ได้ทำหนังสือถึงเลขาฯ สคบ.ในขณะนั้น เพื่อรายงานข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการทำงานของดิไอคอนกรุ๊ป เพื่อให้ตรวจสอบการทำธุรกิจของบริษัทดังกล่าวเข้าข่ายการทำธุรกิจขายตรง สคบ. ปี 2522 หรือไม่ และเข้าข่ายแชร์ลูกโซ่หรือไม่ เนื่องจากได้รับการร้องเรียนจากประชาชน และมีการตรวจสอบพบว่า มีการทำธุรกิจแบบผิดปกติ โดยบริษัทดังกล่าวได้ตั้งนิติบุคคลขึ้นมา 1 มิ.ย.2561 มี กก.บริษัท 1 คน คือบอสพอล มีการยื่นหนังสือขอหารือการประกอบธุรกิจ 13 มิ.ย.61 แบบขายตรง
ทั้งนี้ หลังจากมีการส่งหนังสือดังกล่าวไปยังเลขาฯ สคบ.แล้ว ทางเลขาฯ สคบ.เห็นด้วยว่ามีความไม่ชอบมาพากลเกี่ยวกับลักษณะการทำธุรกิจ จึงได้ทำหนังสือ 3 ฉบับ เพื่อส่งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องภายนอกประกอบด้วย
1.สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กระทรวงการคลัง ให้พิจารณาว่าเข้าข่ายธุรกิจแชร์ลูกโซ่หรือไม่ เนื่องจากกระทรวงการคลังเป็นผู้ดูแลกฎหมายโดยตรง
Advertisement
2.ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผ่านทาง พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. เพื่อให้ดำเนินการเกี่ยวกับบริษัทดังกล่าว
3.ส่งถึงเลขาธิการอาหารและยา (อย.) เกี่ยวกับเรื่องการโฆษณาสินค้า
Advertisement
แต่ปรากฏว่าหลังส่งเรื่องออกไปแล้ว เรื่องดังกล่าวก็เงียบหายไป จนกระทั่งมาเจอปัญหาอย่างในปัจจุบัน